สำนักงานสลากฯ ดันเพิ่มเป้าขายสลาก N3 แตะ 5 ล้านใบ ภายในปีนี้

พันโท หนุน ศันสนาคม ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยว่า การจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล ตัวเลขสามหลัก (สลาก N3) ได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่องกว่า 6 เดือน ตั้งแต่งวดวันที่ 16 ต.ค.2567 ที่ผ่านมา ในภาพรวมการจำหน่ายสลากฯ ยังคงเป็นไปตามเป้าหมาย มีประชาชนที่สนใจซื้อสลาก รวมถึงตัวแทนจำหน่ายเริ่มมีการรับรู้และเข้าใจรูปแบบ วิธีการซื้อ การออกรางวัล การจ่ายเงินรางวัล อย่างเป็นขั้นตอน 

“และยืนยันว่าการจำหน่ายสลาก N3 ในภาพรวม ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลหกหลัก (L6) แต่อย่างใด”

ทั้งนี้ ขอย้ำว่าวัตถุประสงค์หลักของการจำหน่ายสลาก N3 เพื่อเป็นการสร้างทางเลือกให้กับผู้ซื้อสลาก L6 ที่ไม่สามารถหาซื้อหมายเลขที่ต้องการได้ ให้ได้มีช่องทางในการซื้อสลากที่ถูกกฎหมาย ในทุกหมายเลขตั้งแต่ 000-999 ในราคารายการละ 20 บาท มีโอกาสถูก 4 รางวัล 

โดยจะได้รับการจัดสรรเงินรางวัลผันแปรตามจำนวนผู้ซื้อ ซึ่งเป็นแนวทางหนึ่งในการแก้ไขปัญหาการจำหน่ายสลากเกินราคาอย่างเป็นรูปธรรม ส่วนการลดผลกระทบจากการพนันนอกระบบเป็นผลพลอยได้ส่วนหนึ่งที่ตามมา

“สำนักงานสลากฯ มีการกำหนดเป้าหมายในการจำหน่ายสลาก N3 ที่ชัดเจน และดำเนินการอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยระมัดระวังผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นในทุกมิติ จะเห็นได้ว่าแม้ว่าจะมีผลิตภัณฑ์ทางเลือกเพิ่มเติมเข้ามาในระบบ แต่สลาก L6 ที่จำหน่ายอยู่เดิม ไม่ได้รับผลกระทบใดๆ ทั้งแบบใบ หรือสลากดิจิทัล ที่ปัจจุบัน เพิ่มจำนวนจำหน่ายเป็นงวดละ 27 ล้านฉบับ ก็สามารถจำหน่ายได้ครบในหลายๆ งวด”

นอกจากนี้ เพื่อให้ช่องทางจำหน่ายสลาก N3 มีความหลากหลาย จากปัจจุบันที่จำหน่ายผ่านจุดจำหน่ายโครงการสลาก 80, ตัวแทนจำหน่ายสลากดิจิทัล และตัวแทนจำหน่ายสลากดิจิทัล (คนพิการ) สำนักงานฯ เปิดให้ผู้ที่สนใจซื้อสลาก N3 ที่เคยซื้อสลากผ่านจุดจำหน่าย สามารถทำรายการซื้อสลาก จากเมนู “ซื้อผ่านร้านค้าที่เคยใช้บริการ” ผ่าแอปพลิเคชันเป๋าตังได้

ทั้งนี้ ยังสามารถสังเกตจุดจำหน่ายสลาก N3 ได้ โดยสำนักงานฯ นำร่องให้ตัวแทนจำหน่ายสลากดิจิทัล (คนพิการ) สวมเสื้อกั๊ก เพื่อแสดงตนในการเป็นตัวแทนจำหน่าย โดยระบุเครื่องหมาย QR Code สามารถสแกนเลือกซื้อทั้งสลาก L6 แบบดิจิทัล และสลาก N3 ได้อีกช่องทางหนึ่ง

“สำนักงานสลากฯ มีการกำหนดเป้าหมายในการจำหน่ายสลาก N3 ที่ชัดเจน และดำเนินการอย่างค่อยเป็นค่อยไป มีเป้าหมายภายในปีนี้ เพิ่มการจำหน่ายเป็น 5 ล้านรายการ จาก 2 ล้านรายการ เพิ่มจำนวนตัวแทนจำหน่ายเป็น 4,000 คน โดยระมัดระวังผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นในทุกมิติ“