เดินหน้า 'บ้านเพื่อคนไทย' เฟส 2 หวังสร้างที่อยู่อาศัย 1 แสนยูนิต

กระทรวงคมนาคมเตรียมเสนอ “บ้านเพื่อคนไทย” เข้าสู่การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในสัปดาห์หน้า เพื่อขออนุมัติให้ดำเนินการก่อสร้างโครงการ ภายหลังก่อนหน้านี้ได้เปิดให้ประชาชน ลงทะเบียนบ้านเพื่อคนไทย แจ้งความจำนงในการเข้าร่วมโครงการ และแสดงความสนใจในการเป็นเจ้าของที่อยู่อาศัยบนพื้นที่ทำเลทองของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) จำนวน 4 แห่ง ประกอบด้วย

พื้นที่พัฒนาย่าน กม. 11 ยังนับเป็นพื้นที่ใจกลางเมืองที่มีการเดินทางเชื่อมต่อระบบขนส่งสาธารณะอย่างสะดวก โดยโครงการจะอยู่ห่างจากสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ 2.5 กิโลเมตร ห่างจากเซ็นทรัลลาดพร้าว 500 เมตร และห่างจาก MRT พหลโยธิน 500 เมตร

พื้นที่พัฒนาบนพื้นที่ธนบุรี (ศิริราช) ตั้งอยู่ตรงข้ามตลาดศาลาน้ำร้อน ห่างจากรถไฟฟ้าสายสีแดง และสายสีส้ม 800 เมตร มีขนาดที่ดินประมาณ 23 ไร่

พื้นที่เชียงราก จังหวัดปทุมธานี ใกล้ถนนเลียบคลองเปรมประชากร ห่างจากสถานีรถไฟเชียงราก 4.4 กิโลเมตร และห่างจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต 4.4 กิโลเมตร ห่างจากโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ 4.4 กิโลเมตร และห่างจากมหาวิทยาลัยกรุงเทพ 9 กิโลเมตร

พื้นที่เชียงใหม่ ติดสถานีรถไฟเชียงใหม่ ติดถนนเจริญเมือง ถนนทุ่งโฮเต็ล ห่างจากโรงเรียนปรินส์รอยแยลส์วิทยาลัย 2.5 กิโลเมตร ห่างจากมหาวิทยาลัยพายัพ 2.6 กิโลเมตร ห่างจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ 7.5 กิโลเมตร และห่างจากถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ 1.3 กิโลเมตรต่อ 5 นาที

นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงความคืบหน้า “โครงการบ้านเพื่อคนไทย” โดยระบุว่า ขณะนี้พบว่ามีประชาชนลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ จำนวน 350,000 ราย ผ่านการพิจารณาคุณสมบัติผู้เข้าร่วมโครงการบ้านเพื่อคนไทย (Pre Approve) จากธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) แล้วจำนวน 140,000 ราย ขณะที่จำนวนที่อยู่อาศัยในระยะที่ 1 จะมีประมาณ 5,700 ยูนิต

อย่างไรก็ดี กระทรวงฯ เตรียมสรุปผลการลงทะเบียนเพื่อรายงาน ครม. และขออนุมัติดำเนินโครงการในระยะที่ 1 ซึ่งพบว่าดีมานด์ของประชาชนมีจำนวนมากกว่าที่อยู่อาศัย ทำให้ต้องดำเนินการจับสลากสิทธิ์โดยสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เบื้องต้นจึงคาดว่าจะปิดรับลงทะเบียนในระยะที่ 1 ช่วงกลางเดือน มี.ค.นี้ เพื่อดำเนินการจับสลากสิทธิในเดือน เม.ย.2568 พร้อมเริ่มกระบวนการประมูลคัดเลือกผู้รับเหมาก่อสร้างโครงการทันที เพื่อทยอยส่งมอบเข้าประชาชนเข้าอยู่อาศัยในปลายปี 2569

นอกจากนี้ กระทรวงฯ จะขออนุมัติจาก ครม.เพื่อสานต่อโครงการบ้านเพื่อคนไทย ระยะที่ 2 พัฒนาที่อยู่อาศัยบนที่ดินของ รฟท. เพิ่มเติมเพื่อให้สามารถรองรับที่อยู่อาศัยให้ประชาชนได้อีก 7,100 ยูนิต และหลังจะมีการประกาศพื้นที่พัฒนาโครงการนี้เพิ่มเติมในทุกๆ เดือน เพื่อให้บรรลุเป้าหมายสร้างที่อยู่อาศัยให้คนไทยมากถึง 1 แสนยูนิต

สำหรับพื้นที่เป้าหมายของการพัฒนาโครงการบ้านเพื่อคนไทยระยะต่อไปที่ศึกษาพบว่ามีศักยภาพสูงส่วนใหญ่จะอยู่ตามหัวเมืองหลัก อาทิ จังหวัดนครราชสีมา จังหวัดขอนแก่น จังหวัดชลบุรี และจังหวัดกาญจนบุรี รวมไปถึงจะขยายพื้นที่ย่าน กม.11 พหลโยธิน เพื่อรองรับต่อความต้องการของประชาชนที่แสดงเจตจำนงเข้ามาจำนวนมาก

“ประชาชนที่เคยลงทะเบียนแสดงเจตจำนงเข้าร่วมโครงการผ่านเว็บไซต์บ้านเพื่อคนไทยไว้แล้ว หากมีการจับสลากในเฟส 1 และไม่ได้รับสิทธิ์เป็นเจ้าของที่อยู่อาศัย ก็ไม่จำเป็นต้องลงทะเบียนเข้ามาเพิ่มเติม เพราะรายชื่อดังกล่าวจะอยู่ในระบบเพื่อนำมาจับสลากใหม่ ส่วนประชาชนที่สนใจเข้าร่วมในระยะต่อไป กระทรวงฯ จะเปิดโอกาสให้ทุกคนเข้าถึงการลงทะเบียนทั้งระบบออนไลน์ และออฟไลน์ที่ ธอส.ทุกสาขาทั่วประเทศ”

ด้านนายอนันต์ โพธิ์นิ่มแดง รองผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กล่าวว่า เมื่อวันที่ 5 มี.ค.ที่ผ่านมา คณะกรรมการ (บอร์ด) รฟท.ได้มีมติเห็นชอบให้ บริษัท เอสอาร์ที แอสเสท จำกัด (SRTA) เช่าทรัพย์สินของ รฟท.เพื่อใช้ในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เป็นอาคารพักอาศัยโครงการบ้านเพื่อคนไทย จำนวน 4 แปลง ประกอบด้วย 1.พื้นที่บางซื่อ กม.11 จำนวน 5 ไร่ 2.พื้นที่ธนบุรี จำนวน 20 ไร่ 3.พื้นที่เชียงราก จำนวน 3 ไร่ และ 4.พื้นที่เชียงใหม่ จำนวน 7.32 ไร่

อย่างไรก็ดี ภายหลัง SRTA ได้รับสิทธิ์เช่าที่ดินเพื่อพัฒนาโครงการดังกล่าว ประกอบกับก่อนหน้านี้ได้เปิดตัวโครงการและเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนแจ้งความจำนงในการเข้าร่วมโครงการเป็นเจ้าของที่อยู่อาศัยใน 4 พื้นที่แล้ว พบว่ามีประชาชนลงทะเบียนจองสิทธิ์เข้ามามากกว่า 2 แสนคน โดย SRTA จะเสนอโครงการดังกล่าวเข้าสู่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ในสัปดาห์หน้า เพื่อขออนุมัติลงทุนพัฒนาโครงการระยะที่ 1 รวมจำนวน 5,700 ยูนิต ประเมินวงเงินลงทุนอยู่ที่ 5,000 ล้านบาท