ผู้ส่งออกข้าว คาด ส่งออกข้าวไตรมาสแรกหาย 1 ล้านตันจากอินเดียคัมแบ็กส่งออก

ผู้ส่งออกข้าว คาด ส่งออกข้าวไตรมาสแรกหาย 1 ล้านตันจากอินเดียคัมแบ็กส่งออก

ผู้ส่งออกข้าว ประเมิน ส่งออกไทยปีนี้หืดจับ  หลังอินเดียกลับมาส่งออกข้าวขาว วางเป้าส่งออก ทั้งปี  7.5 ล้านตัน   คาดไตรมาสแรกส่งออกได้เพียง 2 ล้านตัน หดตัว 33%หรือหายไป 1 ล้านตัน จับตานโยบายทรัมป์ขึ้นภาษีข้าวกระทบส่งออกข้าวหอมมะลิไทยไปสหรัฐ 

ร.ต.ท.เจริญ  เหล่าธรรมทัศน์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เปิดเผยถึงแนวโน้มและการส่งออกข้าวไทยปี 68 ว่า การส่งออกข้าวในปี 67 อยู่ที่ 9.95 ล้านตัน ถือว่าสูงสุดในรอบหลายปีจากการที่อินเดียงดส่งออกข้าว  แต่ปี 68 ผู้ส่งออกข้าวประเมินว่า ไทยจะส่งออกข้าวได้ 7.5 ล้านตัน  ซึ่งการส่งออกข้าวในปีนี้ยังต้องติดตามปัจจัยต่างที่จะมีผลต่อการส่งออกของข้าวไทยไม่ว่าจะเป็นอินเดียจะกลับมาส่งข้าวอีกครั้ง

ประกอบกับผลผลิตทั่วโลกเพิ่มขึ้นจำนวนมาก แต่การค้าขายข้าวในโลกไม่โต ทำให้ผลกระทบเรื่องราคาเป็นเหมือนกันทั่วโลก ซึ่งหลังจากนี้ จะขึ้นอยู่กับราคา และคุณภาพของสินค้าเป็นหลัก เวลานี้ข้าวไทยแพงที่สุด เมื่อเทียบกับประเทศผู้ส่งออกอื่น ๆ

นอกจากนี้ยังมีปัจจัยจากอัตราแลกเปลี่ยนหากผันผวนมากก็จะส่งผลต่อการส่งออกข้าวไทย ดังนั้นรัฐบาลจะต้องดูแลไม่ให้เงินบาทผันผวนมากเกินไป เพราะมีผลต่อการตั้งราคาขายเป็น รวมทั้งยังต้องติดตามนโยบายการขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นตลาดข้าวหอมมะลิที่สำคัญของไทย โดยหากขึ้น 10% ข้าวไทย ราคาจะขึ้นไปอีกตันละ 100 ดอลลาร์ต่อตัน

 

ร.ต.ท.เจริญ กล่าวว่า  สำหรับปัญหาข้าวไทยในขณะนี้คือ ราคาแพงที่สุดในโลก เนื่องจากชาวนาไทย มีต้นทุน การผลิตที่สูงขึ้น ซึ่งหากรัฐ ต้องการช่วยเหลือแบบชั่วคราว สามารถทำได้ แต่ต้องไม่แทรกแซงเรื่องราคา เพราะจะกระทบทุกส่วน และที่สำคัญ คือ การช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตให้กับชาวนาไทยแข่งขันได้ในระยะยาว โดยเฉพาะการดูแลต้นทุนการผลิต และการพัฒนาพันธุ์ข้าวให้ได้ผลผลิตต่อไร่สูงขึ้น

จากปัจจุบัน ผลผลิตข้าวไทย ต่ำที่สุดในโลก เพียง 450 กิโลกรัมต่อไร่ ขณะที่เวียดนาม ผลิตได้ 800 กิโลกรัมต่อไร่  จีน 900 กิโลกรัมต่อไร่  และสหรัฐ ผลผลิตสูงถึง 1 ตันต่อ 1 ไร่  เพราะให้ผลกระทบลดลงเมื่อราคาข้าวในตลาดลดลง  ถือเป็นเรื่องที่รัฐบาลควรกลับมาให้ความสำคัญมากที่สุด  หากในอีก 2-3 ปีข้างหน้ายังไม่มีการพัฒนาเชื่อว่าการส่งออกของไทยจะลดลง

นายชูเกียรติ  โอภาสวงศ์ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่า การส่งออกข้าวไทย ตั้งแต่ 1 ม.ค.- 24 ก.พ. อยู่ที่ 1.1 ล้านตัน เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน ส่งออกได้ 1.6 ล้านตัน หรือลดลง 32% แบ่งเป็นการส่งออกข้าวขาว 503,558 ตัน ลดลง 57 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และการส่งออกข้าวหอมมะลิ 255,414 ตัน เพิ่มขึ้น 1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

โดย ภาพรวมการส่งออกของข้าวไทยในช่วงไตรมาส 1 คาดว่าจะส่งออกไม่เกิน 2 ล้านตัน เฉลี่ยเดือนละ 6 แสนตัน เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งส่งออกได้ 3 ล้านตัน ทำให้การคาดว่าการส่งออกจะหายไปถึง 33% หรือ 1 ล้านตัน ซึ่งเป็นผลจากที่อินเดียกลับมาส่งออกข้าวขาวอีกครั้ง

ส่วนปัจจัยเสี่ยงในปีนี้มาจาก ราคาข้าวไทย ที่อยู่ในระดับสูงหรือข้าวไทยราคาแพงสุด ทำให้แข่งขันยาก โดยข้าวไทยในช่วงเดือนก.พ.ข้าวขาว 5% อยู่ที่ 415-419 ดอลลาร์ต่อตัน เวียดนามราคาอยู่ที่ 393-397 ดอลลาร์ต่อตัน อินเดียอยู่ที่ 406-410 ดอลลาร์ต่อตัน ปากีสถานอยู่ที่ 382-386 ดอลลาร์ต่อตัน รวมทั้ง อัตราแลกเปลี่ยนที่ผันผวน  นโยบายความมั่นคงทางอาหารของแต่ละประเทศ และการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ

สำหรับสถานการณ์ส่งออกข้าวปี 68 จากข้อมูลของ World Market & Trade (USDA) อินเดียยังเป็นผู้ส่งออกข้าวอันดับ 1 โดยคาดว่าการส่งออกข้าวจะอยู่ที่ 22.50 ล้านตัน ขยายตัว 26.4% จากปีที่แล้วส่งออก เพียง 17 ล้านตันจากระงับการส่งออกข้าวขาว  ไทยจะส่งออกอยู่ที่ 7.50 ล้านตัน หดตัว 24.2% ลดลงจากปี 67 ที่ส่งออกได้ 9.95 ล้านตันได้รับอานิสงค์จากอินเดียทำให้ไทยส่งออกข้าวขาวส่งออกได้ 5.4 ล้านตัน  แต่ปีนี้น่าจะลดลงเหลือเพียง 3.6 ล้านตัน ส่วน เวียดนามจะส่งออกอยู่ที่ 7.50 ล้านตันหดตัว 17% ปากีสถานจะส่งออกอยู่ที่ 5.30 ล้านตันหดตัว 18.2%

ส่วนการนำเข้า คาดว่าประเทศผู้นำเข้ารายใหญ่ยังคงเป็นฟิลิปปินส์ คาดว่านำเข้าจะอยู่ที่ 5.40 ล้านตันขยายตัว 1.9% เวียดนามนำเข้า 3.40 ล้านตันหดตัว 10.5% ไนจีเรียนำเข้า 2.40 ล้านตันขยายตัว 0% จีนนำเข้า 2.20 ล้านตันขยายตัว 35%  

ขณะที่ส่วนสต๊อกข้าวโลกปีนี้ คาดว่าเพิ่มขึ้น 532 ล้านตัน ขยายตัว 2% เพิ่มขึ้นมา 10 ล้านตันจากปีที่แล้ว ซึ่งมีสต๊อกอยู่ที่ 522 ล้านตันตัน โดยเฉพาะอินเดีย ผลิตเพิ่มถึง 8 ล้านตันข้าวสาร ทั้งปีคาดว่าจะมีผลผลิตสูงถึง 145 ล้านตันข้าวสาร เพิ่มขึ้น 5.2 %  ขณะที่จีนผลผลิตข้าวอยู่ที่ 142 ล้านตันเพิ่มขึ้น 0.5 % ส่วนไทยอยู่ที่ 20 ล้านตัน