การรถไฟ เตรียมลงนาม 'ช.ทวี - เอเอส' สร้างทางคู่ขอนแก่น - หนองคาย

นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า หลังจาก รฟท.ได้เปิดประกวดราคาจัดหาผู้รับเหมาก่อสร้างโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ระยะที่ 2 ช่วงขอนแก่น – หนองคาย โดยพบว่า กิจการร่วมค้า ช.ทวี - เอเอส ก่อสร้าง ซึ่งเป็นผู้เสนอราคาต่ำสุด ด้วยมูลค่าโครงการ 28,679 ล้านบาท และ รฟท.ได้เสนอผลการประกวดราคาไปยังคณะกรรมการ (บอร์ด) พิจารณาอนุมัติแล้ว

อย่างไรก็ดี ปัจจุบันสถานะดำเนินงานอยู่ในขั้นตอนจัดเตรียมเอกสารเพื่อลงนามสัญญา เบื้องต้นคาดว่าจะลงนามสัญญากับเอกชนผู้ชนะการประกวดราคาได้ภายในเดือนธ.ค.นี้ ก่อนจะออกหนังสืออนุญาตเข้าพื้นที่ (NTP) ภายในเดือนก.พ.2568 และเริ่มงานก่อสร้างทันทีภายในไตรมาส 1 ปีหน้า

“โครงการรถไฟทางคู่สายนี้ ไม่มีปัญหาเรื่องการเวนคืนที่ดิน ดังนั้นเมื่อลงนามสัญญาการรถไฟฯ ก็จะสามารถส่งมอบพื้นที่ให้เอกชน และเริ่มก่อสร้างได้ทันที ซึ่งถือเป็นโครงการลงทุนแรกที่จะมีการก่อสร้างในปี 2568 โดยโครงการจะใช้เวลาก่อสร้างราว 3 ปีแล้วเสร็จ เปิดบริการในช่วงปี 2571”

สำหรับโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ระยะที่ 2 ช่วงขอนแก่น - หนองคาย เป็นเส้นทางสำคัญที่เชื่อมต่อการเดินทางจาก ช่วงชุมทางถนนจิระ – ขอนแก่น ผ่านจังหวัดอุดรธานี และสิ้นสุดที่สถานีหนองคาย เป็นโครงการที่ช่วยเติมเต็มระบบรถไฟทางคู่ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และเพิ่มศักยภาพการให้บริการขนส่งระบบราง ทั้งการขนส่งสินค้า และผู้โดยสาร ลดต้นทุนการขนส่งระบบโลจิสติกส์ เนื่องจากจะช่วยลดระยะเวลาในการเดินทางได้ 1 – 1.50 ชั่วโมง

ขณะที่รูปแบบโครงการเป็นงานก่อสร้างทางรถไฟใหม่เพิ่ม 1 ทาง ขนานไปกับทางรถไฟเดิม และมีการก่อสร้างปรับแนวเส้นทางใหม่บางส่วน รวมระยะทางประมาณ 167 กิโลเมตร ประกอบด้วย อาคารสถานี 14 สถานี ที่หยุดรถ 4 แห่ง ลานบรรทุกสินค้า 3 แห่ง พร้อมทั้งงานติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณ และโทรคมนาคมตลอดทั้งสายทาง

นายวีริศ กล่าวด้วยว่า ความคืบหน้าของโครงการรถไฟทางคู่ ระยะที่ 2 ปัจจุบันยังมี 5 เส้นทางที่อยู่ระหว่างเตรียมเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาอนุมัติโครงการ ประกอบด้วย ช่วงปากน้ำโพ – เด่นชัย, ช่วงชุมทางถนนจิระ – อุบลราชธานี, ช่วงชุมพร – สุราษฎร์ธานี , ช่วงสุราษฎร์ธานี - ชุมทางหาดใหญ่ – สงขลา และช่วงชุมทางหาดใหญ่ – ปาดังเบซาร์ ส่วนอีก 1 โครงการ คือ ช่วงเด่นชัย - เชียงใหม่ สถานะปัจจุบันอยู่ระหว่างเตรียมเสนอ ครม. และพิจารณารายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ)

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์