โพล์ ม.หอการค้าไทย เผย เงินสะพัดบอลยูโร 2024 กว่า 8 หมื่นล้านบาท

ม.หอการค้าไทย เผย ผลสำรวจฟุตบอลยูโร 2004 คึกคัก คาดเงินสะพัด 87,620.03 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.0% ขณะที่เงินพนันบอลปีนี้พุ่งสูงสุดในรอบ 16 ปี

นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ เปิดเผยถึงผลสำรวจพฤติกรรมและการใช้จ่ายของประชาชนในช่วงมหกรรม ฟุตบอลยูโร 2024 ว่าคาดว่าจะมีเงินสะพัดในระบบเศรษฐกิจ 87,620.03 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.0% เมื่อเทียบกับการแข่งขัน ฟุตบอลยูโร ครั้งก่อน แบ่งออกเป็น

การใช้จ่ายในระบบเศรษฐกิจ 20,575.71 เพิ่มขึ้น 5.1%
การใช้จ่ายนอกระบบเศรษฐกิจ(พนันบอล) 67,044.32 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.10 %

“การใช้จ่ายปีนี้ถือว่าคึกคัก เพราะการถ่ายทอดสดทำให้เกิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจจำนวนมาก เช่น การจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม ร้านอาหารที่ไปนั่งเชียร์บอล จะเห็นว่าควรเริ่มกลับมาเชียร์บอลตามปกติแล้ว เห็นได้จากเม็ดเงินการใช้จ่ายในระบบเศรษฐกิจครั้งนี้ที่สูงกว่า 2หมื่นล้านบาท สูงสุดในรอบ8ปี แต่ที่เติบโตโดเด่นที่สุดคือเม็ดเงินการใช้จ่ายนอกระบบเศรษฐกิจหรือเงินพนันบอล ที่พุ่งสูงถึง 67,044.32 ล้านบาท สูงสุดในรอบ16ปี ทำให้ธุรกิจการพนันบอลยูโรครั้งนี้เติบโตสูงสุดเป็นประวัติการณ์”

นางอุมากมล สุนทรสุรัติ ผู้ช่วยผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า จากการสำรวจพฤติกรรมการใช้จ่ายในช่วงฟุตบอลยูโร จากกลุ่มตัวอย่างกว่าพันคนทั่วประเทศ พบว่าส่วนใหญ่จะใช้จ่ายมากกว่ายูโรครั้งก่อน มากที่สุดคือการซื้ออาหารและเครื่องดื่ม ประมาณ 3,700 บาทต่อคน การทานอาหารและเครื่องดื่มที่ร้านอาหารประมาณ 4,497 บาท ต่อคน และการซื้อสินค้าของที่ระลึกทีมบอล 2,475 บาทต่อคน โดยส่วนใหญ่ราว 70% บอกว่าใช้จ่ายมากขึ้นกว่าฟุตบอลยูโรครั้งก่อน ที่สำคัญพบว่าพฤติกรรมการเล่นพนันบอลเพิ่มสูงขึ้น โดยกลุ่มตัวอย่าง 35.6% บอกว่าตัวเองจะเล่นพนันบอล ส่วนใหญ่พนันเป็นเงินสด โดยเฉลี่ยใช้เงินกว่า 2,000 บาทต่อนัด หรือเฉลี่ยคนละ 23,574 บาทตลอดฤดูกาล

สำหรับรูปแบบการเล่นพนันบอล นั้น