รฟม.-ร.ฟ.ท.เร่งสรรหา 'ผู้ว่าการ' คนใหม่ เมินต่ออายุ 'นิรุฒ'

รฟม.-ร.ฟ.ท.เร่งสรรหา 'ผู้ว่าการ' คนใหม่ เมินต่ออายุ 'นิรุฒ'

“สุรพงษ์” เดินหน้าสรรหา 2 ผู้ว่าคุมระบบราง เตรียมเสนอ ครม.เดือนหน้า รื้อบอร์ด รฟม. ก่อนเริ่มขั้นตอนประกาศสรรหาผู้ว่า ขณะที่การรถไฟฯ ปิดประตูเจรจาต่ออายุ “นิรุฒ มณีพันธ์” เปิดสรรหาคนใหม่ พร้อมเร่งงานค้างท่อประมูลรถไฟทางคู่เฟส 2

นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงกรณีผู้บริหาร 2 หน่วยงานระบบรางที่ตนกำกับดูแลเกษียณอายุ และครบวาระบริหาร โดยระบุว่า ปัจจุบันส่วนของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) มีการแต่งตั้งระดับรองผู้ว่าขึ้นมาดำรงตำแหน่งรักษาการที่มีอำนาจเต็มในการบริหารงานอยู่แล้ว ดังนั้นจึงไม่กระทบต่อการบริหารงานในองค์กร และยังสามารถลงนามสัญญาจ้างได้

อย่างไรก็ดี ตนในฐานะรัฐมนตรีผู้กำกับดูแลหน่วยงาน อยู่ระหว่างพิจารณาเตรียมปรับเปลี่ยนคณะกรรมการ (บอร์ด) รฟม.ชุดใหม่ เพราะพบว่ามีบางตำแหน่งที่ครบวาระ หรือเกษียณอายุ และยังมีกรรมการมาจากผู้ทรงคุณวุฒิบางส่วนที่สามารถพิจารณาปรับเปลี่ยนได้ ดังนั้นการปรับเปลี่ยนบอร์ดครั้งนี้จะเป็นการคัดสรรผู้ที่เหมาะสมมาทำงาน เพื่อผลักดันนโยบายของรัฐบาลให้เป็นไปตามเป้าหมาย

เบื้องต้นคาดว่าจะสามารถคัดสรรบุคคลที่เหมาะสมมารับตำแหน่งบอร์ด รฟม. พร้อมเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติได้ในเดือน พ.ค. 2567 โดยภายหลังปรับบอร์ด รฟม.ใหม่แล้ว ภารกิจแรกก็จะเริ่มต้นแต่งตั้งคณะกรรมการสรรหาผู้ว่า รฟม.คนใหม่โดยเร็ว ซึ่งปกติจะใช้เวลาในกระบวนการสรรหาราว 3 – 4 เดือน ดังนั้นคาดว่าจะได้ตัวผู้เหมาะสมมาดำรงตำแหน่งผู้ว่า รฟม.ภายใน ส.ค. - ก.ย.นี้

สำหรับการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ซึ่งเป็นอีกหน่วยงานที่ตนกำกับดูแล โดยนายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการ ร.ฟ.ท.คนปัจจุบัน กำลังจะครบวาระดำรงตำแหน่ง 4 ปี ในวันที่ 23 เม.ย. 2567 ทราบว่าปัจจุบันบอร์ด ร.ฟ.ท.ได้เริ่มขั้นตอนแต่งตั้งคณะกรรมการสรรหาผู้ว่าใหม่แล้ว ดังนั้นเมื่อเริ่มขั้นตอนนี้แล้วก็น่าจะเลยขั้นตอนการเจรจาต่อวาระกับผู้ว่าฯ คนเดิม แต่ผู้ว่าฯ คนเดิมก็ยังสามารถสมัครตามกระบวนการสรรหาใหม่ได้

นายสุรพงษ์ กล่าวด้วยว่า การสรรหาผู้ว่า ร.ฟ.ท.คนใหม่ ส่วนตัวมองว่าเป็นเรื่องที่ต้องเร่งดำเนินการ เพราะปัจจุบัน ร.ฟ.ท.มีโครงการค้างอยู่ค่อนข้างมาก โดยเฉพาะการเสนอขออนุมัติลงทุนรถไฟทางคู่ ระยะที่ 2 เส้นทางสายใต้ที่รัฐบาลต้องการเร่งรัด เพื่อเป็นโครงข่ายระบบรางเชื่อมต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน สนับสนุนการเดินทางและการขนส่ง

โดยทราบว่าวันที่ 18 เม.ย.นี้ จะมีการเสนอบอร์ด ร.ฟ.ท.เพื่อพิจารณาอนุมัติโครงการรถไฟทางคู่ ช่วงชุมพร - สุราษฎร์ธานี ระยะทาง 168 กิโลเมตร วงเงิน 2.42 หมื่นล้านบาท และช่วงสุราษฎร์ธานี – ชุมทางหาดใหญ่ - สงขลา ระยะทาง 321 กิโลเมตร วงเงิน 5.73 หมื่นล้านบาท เนื่องจากก่อนหน้านี้มีการเสนอบอร์ด ขออนุมัติช่วงชุมทางหาดใหญ่ - ปาดังเบซาร์ ระยะทาง 45 กิโลเมตร วงเงิน 6.66 พันล้านบาท ผ่านการพิจารณาไปแล้ว ดังนั้นต้องเร่งดำเนินการก่อสร้างให้ครอบคลุมทั้งเส้นทาง