กทม.ชงสภาฯเคาะพรุ่งนี้ ‘แผนจ่ายหนี้’ BTS

กทม. ส่งแผน ของบจัดสรร ใช้หนี้ BTS กว่า 23,000ล้านบาทให้สภา กทม.พิจารณาแล้ว รอเคาะเข้าที่ประชุม 24ม.ค.นี้ คาดหาก สภากทม.เห็นชอบก็จะตั้งคณะกรรมการพิจารณารายละเอียด การจ่ายเงิน3วาระ หากทันได้เริ่มจ่าย เม.ย.นี้ หากล่าช้า มีดอกเบี้ย ต้องเจรจากับคู่สัญญาอีกครั้ง

 นายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ระบุถึงกรณีการชำระหนี้ ค่า E&M รถไฟฟ้าสายสีเขียว ส่วนต่อขยาย 2 วงเงิน 23,488 ล้านบาท ว่า ฝ่ายบริหาร กทม. ได้ทำรายละเอียดของระบบอานัติสัญญาณฯ เสนอข้อบัญญัติ ต่อที่ประชุมสภา กทม. ไปเมื่อวันที่ 19 มกราคมที่ผ่านมา และในวันนี้วิปของสภากทม.ได้มีการประชุมกันเพื่อพิจารณาลรรจุเรื่องดข้าสู่วาระการประชุมสภากทม.ในวันที่ 24 ม.ค.
  โดยตามขั้นตอนก่อนหน้านี้ เมื่อสภาเห็นชอบรับบระบบอานัติสัญญาณในงบประมาณกว่า 23,000ล้านบาทฝ่ายบริหารก็จะนำงบประมาณ เพื่อไปขอเงินสะสมของกทม.เนื่องจากไม่ได้ตั้งงบประมาณประจำปีไว้ จึงต้องออกเป็นข้อบัญญัติเพื่อให้สภากทม.พิจารณา ซึ่งในขั้นตอนแรกจะเป็นการพิจารณากรอบวงเงิน ส่วนจะชำระแบบทั้งก้อนหรือแบ่งจ่ายนั้น ก็จะต้องเป็นการเจรจาทำข้อตกลงเพิ่มเติม
   ทั้งนี้หาก นำเรื่องดังกล่าวเข้าสู่ที่ประชุมสภากทม.ได้ทันภายในวันที่ 24ม.ค. ขั้นตอนต่อไป สภากทม. ก็จะตั้ง 
คณะกรรมการวิสามัญ พิจารณาร่างข้อบัญญัติงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม ใน3วาระ ซึ่งหากเข้าสภาก็จะมีการตั้งคณะกรรมการในวันที่ 24ม.ค.นี้ได้เลยเพื่อลงรายเอียดต่างๆ โดยระยะเวลาการพิจารณาประมาณ45วัน
   ส่วนการจ่ายเงินจะทันในเดือน เม.ย.นี้ตามที่เคยบอกไว้หรือไม่นั้น รองผู้ว่าวิศณุ บอกว่า น่าจะเป็นไปได้ ถ้าสภากทม.เห็นชอบมาแล้วตั้งคณะกรรมการฯ ขึ้นมา ผ่านข้อบัญญัติใน3วาระและมีความเห็นชอบ ก็จะทันกรอบเวลาเม.ย.นี้ ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับสภาพเพราะการใช้เงินออกไปของกทม.นั้นขึ้นอยู่กับสภากทม.

  ทั้งนี้หากกระบวนการล่าช้า ก็จะมีดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นอีก ซึ่งก็จะเป็นกระบวนการที่จะต้องเจรจากัน โดนหลังจากอนุมัติกรอบวงเงินแล้วจะต้องมีการไปพูดคุยกับเพราะกทม.เป็นคู่สัญญากับ เคที โดยจะต้องดูเงื่อนไขการชำระว่าจะเป็นอย่างไร ขณะเดียวกันก็ต้องทำหนังสือ เรียนไปยังครม.ผ่านกระทรวงมหาดไทยด้วย เพราะเรื่องของระบบอาณัตสัญญาน เป็นเรื่องส่วนหนึ่งที่ค้างอยู่ในคณะกรรมการที่แต่งตั้งโดย ม.44 ที่กรรมการยังเจรจาค้างอยู่ในการขยายสัมปทาน โดยให้ผู้รับสัมปทานรับผิดชอบเงิน3ก้อนคือค่าก้อนแรกโครงสร้างพื้นฐาน /ก้อนที่สองระบบอาณัติสัญญาน /ก้อนที่สามคือ การจ้างบริหารจัดการเดินรถ ซึ่งยังค้างอยู่ที่ครม. ดังนั้นสิ่งใดที่กทม.ทำก็จะต้องเรียนให้ทางมหาดไทยหรือครม.ทราบ
  พร้อมยืนยัน เรื่องนี้มีการเตรียมการและพูดคุยกันตลอดกับบริษัทเคที ซึ่งเป็นคู่สัญญา