เปิดประวัติ ‘พิชัย’ เต็งประธานตลาดหุ้น มือบัญชี ‘แปรรูป ปตท.-คดีจำนำข้าว'

เปิดประวัติ ‘พิชัย’ เต็งประธานตลาดหุ้น มือบัญชี ‘แปรรูป ปตท.-คดีจำนำข้าว'

เปิดประวัติ "พิชัย ชุณหวชิร" ตัวเต็งนั่งเก้าอี้ประธานบอร์ดตลาดหุ้น มือขวาด้านบัญชี-การเงินยุค "แปรรูป ปตท.-สู้คดีจำนำข้าว"

นายพิชัย ชุณหวชิร ได้รับการแต่งตั้งจากคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เป็นกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยจะมีวาระการดำรงตำแหน่ง 3 ปี ตั้งแต่วันที่ 5 ก.พ.2567 เป็นต้นไป

ปัจจุบันนายพิชัย นอกจากจะเป็นประธานกรรมการบริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) แล้วยังได้รับการแต่งตั้งจากนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้เป็นที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี

หลังจากจบปริญญาตรีบัญชีบัณฑิต (การบัญชี) จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และขึ้นทะเบียนผู้สอบบัญชีรับอนุญาต สภาวิชาชีพบัญชี นายพิชัยได้เติบโตในเส้นทางบัญชี จนกระทั่งปี 2544-2550 เป็นรองกรรมการผู้จัดการใหญ่การเงินและบัญชีองค์กร บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นยุคที่รัฐบาล “ทักษิณ ชินวัตร” แปรรูปการปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย (ปตท.) เป็นบริษัทมหาชนและเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.)

ในปี 2551-2552 ขยับขึ้นมาเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) และเกษียณจาก ปตท.ในตำแหน่งดังกล่าว โดยในช่วงดังกล่าวนายพิชัยถูกแต่งตั้งให้เป็นกรรมการรัฐวิสาหกิจหลายแห่ง

แหล่งข่าวจากกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า นายพิชัย ถือว่ามีความรู้ความสามารถ และเป็นที่ไว้วางใจของนายแพทย์ พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน (2546-2548) แม้จะไม่ได้มีบทบาทในการเปิดหน้าออกสื่อแต่ถือได้ว่าเป็นมือขวาของนานแพทย์พรหมินทร์ในช่วงที่รัฐบาลมีการแปรรูป ปตท.

และเมื่อเกษียณก็ได้รับความไว้ใจให้ไปเป็นกรรมการบางจาก ซึ่งในช่วงแรกบางจากยังอยู่ในกลุ่ม ปตท. จึงได้มีการประสานงานที่ใกล้ชิด และมีบทบาทสำคัญช่วงที่บางจากแยกออกไป

รวมทั้งในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ นายพิชัยได้รับการแต่งตั้งเป็นกรรมการธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) และเข้ามาเป็นกรรมการบริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ในปี 2556

ก่อนการรัฐประหาร 2 เดือน นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้ลงนามแต่งตั้งให้นายพิชัย เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ในเดือน เม.ย.2557

ภายหลังการรัฐประหารในปี 2557 นางสาวยิ่งลักษณ์ ได้เข้าชี้แจงข้อกล่าวหาคดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าวต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) โดยมีพยาน 11 ปาก ในจำนวนดังกล่าวมีนายพิชัย เป็นพยานให้ด้วยในบทบาทนักบัญชีที่จะนำข้อมูลตัวเลขมาชี้แจงหักล้างข้อมูลของ ป.ป.ช.

นางสาวยิ่งลักษณ์ ระบุถึงเหตุผลที่เสนอชื่อนายพิชัย ชุณหวชิร เป็นมาพยานเพราะเป็นพยานผู้มีความรู้ ความสามารถ ประสบการณ์ คุณวุฒิ เป็นที่ยอมรับของผู้ประกอบวิชาชีพทางด้านบัญชีและเป็นพยานบุคคลภายนอก และระบุว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับนางสาวยิ่งลักษณ์ แต่ได้เสียสละยอมมาให้ปากคำเพื่อให้เกิดความเที่ยงธรรมในการวินิจฉัยของ ป.ป.ช.