‘กองทุน’ ปรับกลยุทธ์ เพิ่มน้ำหนักลงทุน ‘หุ้นไทย‘ ชูกลุ่มเด่น ไฟแนนซ์-ไอซีที

‘กองทุน’ ปรับกลยุทธ์ เพิ่มน้ำหนักลงทุน ‘หุ้นไทย‘ ชูกลุ่มเด่น ไฟแนนซ์-ไอซีที

ผ่านไปแล้วกับตลาดหุ้นไทยปี 66 ที่หนักหน่วง! ติบลบไปราว 16% ทั้งจากโมเมนตัมเศรษฐกิจฟื้นตัวช้า จากการท่องเที่ยวและอุปสงค์ภายนอก "กดดัน" ภาคส่งออก รวมถึงทิศทางการดำเนินนโยบายทางการเงินและค่าเงินดอลลาร์แข็งค่า ส่งผลให้ “ผลตอบแทน" ตลาดหุ้นทำได้อย่าง น่าผิดหวัง !

แต่เปิดตลาดหุ้นไทยวันแรก หุ้นไทยังแข็งแกร่ง และวานนี้ (3 ม.ค.) ยืนเอาไว้ได้ จากปกติมักจะปรับตัวลงแรง สวนทางตลาดหุ้นสหรัฐที่ปรับตัวลง ด้วยปัจจัยพื้นฐานที่ดี จากเศรษฐกิจไทยยังโมเมนตัมการฟื้นตัว จากมาตรการรัฐที่เข้ามากระตุ้นเศรษฐกิจ ถึงแม้ยังไม่ครบเครื่องก็ตาม

โดยตั้งแต่ช่วงต้นปีมีมาตรการ Easy e-receipt ออกมา และน่าจะมีในส่วนของ Digital Wallet อาจออกมาเพิ่มเติมในช่วงกลางปี ส่งผลให้การลงทุนและการใช้จ่ายในประเทศเพิ่มสูงขึ้น

‘กองทุน’ ปรับกลยุทธ์ เพิ่มน้ำหนักลงทุน ‘หุ้นไทย‘ ชูกลุ่มเด่น ไฟแนนซ์-ไอซีที

รวมถึง "มิติท่องเที่ยว" คาดการณ์นักท่องเที่ยวราว 34-35 ล้านคนในปีนี้ การส่งออกเริ่มมีแนวโน้มฟื้นตัวจากช่วงปลายปีที่ส่งออกเริ่มพลิกกลับมาเป็นบวกได้ ประกอบกับคาดการณ์กำไร บจ. คาดจะฟื้นตัวได้ประมาณ 14-16% ระดับราคาอยู่ในระดับ Fair Value ที่ Forward P/E 16.5 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 10 ปีย้อนหลังที่ 17 เท่า

ดังนั้น จึงเห็นในฝั่งนักลงทุนสถาบัน หรือ “กองทุน” ยังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อตลาดหุ้นไทยในปี 2567 มีแนวโน้มที่ดีขึ้นและปรับน้ำหนักการลงทุนในหุ้นไทย

"บดินทร์ พุฒอินทร์" ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บลจ.อีสท์สปริง กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยปีนี้แนวโน้มฟื้นตัวดีขึ้น ปรับกลยุทธ์ลงทุน เพิ่มน้ำหนักหุ้นไทยกลับมาที่ระดับ 10% หรือไม่เกิน 12% จากปีก่อนปรับลดน้ำหนักมีไม่ถึง 10% ของพอร์ตลงทุนรวม

สำหรับ กลุ่มหุ้นไทยน่าสนใจ เพิ่มน้ำหนักการลงทุน ได้แก่ กลุ่มค้าปลีก ท่องเที่ยว โรงแรม สถาบันการเงิน ได้รับผลเชิงบวกจากแนวโน้มเศรษฐกิจไทยปีนี้น่าจะฟื้นตัวต่อได้ หนุนตลาดหุ้นไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวดีขึ้น คาดดัชนีเป้าหมายสิ้นปีนี้อยู่ที่ระดับ 1,510-1,530 จุด

ยังต้องระวัง "ความเสี่ยง" หลัก มาจากการขับเคลื่อนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศหากล่าช้า หรือไม่เป็นไปตามเป้าอาจส่งผลต่อการลงทุน รวมถึงความเสี่ยงจากความผันผวนตามเศรษฐกิจโลก ความเสี่ยงเงินบาทแข็งค่า ควรระมัดระวัง เช่น กลุ่มแพ็กเกจจิ้น , พลังงาน ,ส่งออก

"ยุทธพล ชุลีคร" ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายกลยุทธ์และพัฒนาผลิตภัณฑ์การลงทุน บลจ.ยูโอบี กล่าวว่า ยังมีมุมมองเชิงบวกต่อตลาดหุ้นไทยปี 67 แนวโน้มดีขึ้นจากปีก่อน มองเป้าหมายดัชนี SET ปีนี้ ในระดับปกติ (Base Case) ที่ 1,540 จุด บนสมมติฐานกำไรต่อหุ้น (EPS 97.50 และ P/E เทรดที่ระดับ 15.78 เท่า) 

กลยุทธ์ลงทุนปรับเพิ่มน้ำหนักราว 1-2% ขึ้นอยู่กับความเสี่ยงของพอร์ต กลุ่มน่าสนใจทั้งระยะสั้นทางเทคนิค ได้แก่ กลุ่มไฟแนนซ์-ไอซีที จากเงินเฟ้อที่ปรับลดลงอย่างชัดเจน รวมถึงระยะกลางยาว ยังคงลงทุนในกลุ่มท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ อีวี และ พลังงานหมุนเวียน 

"ศิระ คล่องวิชา" ประธานเจ้าหน้าที่กลุ่มการลงทุน บลจ.กรุงศรี  มองเป้าหมายดัชนีหุ้นไทยสิ้นปีนี้ไว้ที่ 1,552 จุด กลยุทธ์ลงทุนปรับเพิ่มน้ำหนักกลุ่มน่าสนใจคาดจะมีผลกำไรปี 67 เติบโตดี มีโอกาสได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวต่อเนื่องของท่องเที่ยว และการสิ้นสุดวัฎรจักรดอกเบี้ยขาขึ้น ได้แก่ กลุ่มอาหาร ไฟแนนซ์ และขนส่ง  

ปัจจัยสนับสนุนจากเศรษฐกิจมหภาคที่ยังมีทิศทางโต มีเสถียรภาพ ขณะที่วัฎรจักรดอกเบี้ยขาขึ้นน่าจะสิ้นสุดลงแล้ว ทำให้มีความคาดหวังตลาดหุ้นไทยจะเริ่มกลับมาได้รับความสนใจจากนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ 

ปัจจัยเสี่ยงยังคงเป็นปัญหาความเชื่อมั่นนักลงทุนต่อความไม่แน่นอนของนโยบายรัฐ รวมถึงการท่องเที่ยวที่ยังคงได้รับผลกระทบในเชิงลบจากตัวเลขนักท่องเที่ยวจีนที่ยังคงฟื้นตัวช้า