‘สำนักงบฯ‘ แจงปมตั้ง กมธ.งบฯ67 ชี้โควต้าฝั่งรัฐเหมาะสม ปัดนายกฯรวบอำนาจ

‘สำนักงบฯ‘ แจงปมตั้ง กมธ.งบฯ67   ชี้โควต้าฝั่งรัฐเหมาะสม ปัดนายกฯรวบอำนาจ

สำนักงบประมาณชี้แจงโควต้ากรรมาธิการฝั่งรัฐบาลเหมาะสม ปัดนายกฯรวบอำนาจ แต่การตั้งกรรมาธิการใช้หลักการอาวุโส ตำแหน่งวิปรัฐบาล และรัฐมนตรีในกระทรวงที่เกี่ยวข้องกับการจัดทำงบประมาณ โดยสำนักงบฯเสนอตั้งเอง

นายเฉลิมพล เพ็ญสูตร ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ เปิดเผยถึงประเด็นการตั้งกรรมาธิการวิสามัญ พิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 ว่าในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ครั้งล่าสุด สำนักงบประมาณ ได้เสนอร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ ปี 2567 และเอกสารประกอบ พร้อมทั้งเสนอกรรมาธิการวิสามัญฯ เบื้องต้นมีข้อสรุป 72 คน 


ทั้งนี้ตามขั้นตอนปกติ สำนักงบประมาณ ได้เป็นผู้เสนอคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ในสัดส่วนของคณะรัฐมนตรี ซึ่งกรณีการมีคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ 72 คน จะมีสัดส่วนของครม.จำนวน 18 คน และในทุกครั้งจะประกอบไปด้วย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ปลัดกระทรวงการคลัง และผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ แต่ก็ยังสามารถปรับเปลี่ยนได้ก่อนจะผ่านการพิจารณาวาระแรก 

“ในการเสนอครม.ครั้งนี้ สำนักงบประมาณ เห็นว่า สัดส่วนครม.ในตำแหน่งของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง คือนายกรัฐมนตรี อาจจะไม่มีเวลาพอทำหน้าที่ เพราะต้องมีราชการทั้งต่างประเทศ และต่างจังหวัด ในช่วงพิจารณษงบประมาณชั้นกรรมาธิการถึง 3 เดือน จึงได้เสนอมีตัวแทนโดยพิจารณาจากผู้ที่มีความอาวุโสที่สุดคือ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์” นายเฉลิมพล กล่าว
 


นายเฉลิมพล กล่าวว่า สำนักงบประมาณ ได้เสนอชื่อของรองนายกฯภูมิธรรม เข้าไป พร้อมทั้งนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม และนายจักรพงษ์ แสงมณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ

ซึ่งทั้งหมดมีความเหมาะสม เช่น นางมนพร ก็เป็นกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ส่วนนายจักรพงษ์ ก็อยู่ในทีมของนายกฯ

ทั้งนี้สำนักงบประมาณได้ดำเนินการตามหลักการและพิจารณาความเหมาะสมของการตั้งตามหลักการกรรมาธิการวิสามัญฯ และจะไม่ให้กระทบกับสัดส่วนของพรรคร่วมรัฐบาล เพราะสำนักงบประมาณเป็นฝ่ายราชการ และเสนอตามขั้นตอนปกติ


“สำนักงบประมาณ ยืนยันว่า กรณีนี้ไม่ใช่เหมือนที่เป็นกระแสข่าวออกมาว่า นายกรัฐมนตรีเป็นคนรวบสัดส่วนกรรมาธิการวิสามัญฯ ซึ่งจริง ๆ นายกฯ ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่สำนักงบประมาณ เป็นผู้เสนอเข้าไปเอง จึงต้องการยืนยันว่าในหลักการว่าได้ดำเนินการตามกระบวนการทั้งหมด” นายเฉลิมพล ระบุ


ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ กล่าวว่า ในส่วนของข้อสั่งการในครม.ให้รองนายกฯ ภูมิธรรม และ สำนักงบประมาณ หารือร่วมกันในรายละเอียดนั้น สำนักงบประมาณ จะหารือกับรองนายกฯ อีกครั้งในวันที่ 2 มกราคม 2566 หลังจากประชุมครม.แล้ว เพื่อพิจารณารายละเอียดอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น ผลการหารือของวิปรัฐบาล และวิปฝ่ายค้าน รวมไปถึงข้อมูลด้านอื่น ๆ เกี่ยวกับกรรมาธิการต่อไป