'ปตท.' วุ่นไม่เลิก จบศึก 'ประธานบอร์ด' เปิดศึกใหม่ชิง 'ตำแหน่ง CEO'
!['ปตท.' วุ่นไม่เลิก จบศึก 'ประธานบอร์ด' เปิดศึกใหม่ชิง 'ตำแหน่ง CEO'](https://image.bangkokbiznews.com/uploads/images/md/2023/12/fOY707hEONOvNHADoVoY.webp?x-image-process=style/LG)
จับตาศึกชิงเก้าอีก CEO ปตท. หลัง “อรรถพล” ครบวาระเดือน พ.ค. 2567 ล่าสุด ปตท. ได้ประกาศรับสมัครอย่างเป็นทางการ ขีดเส้นอายุต้องไม่เกิน 58 ปีในวันยื่นใบสมัคร
ในช่วงที่ผ่านมา บริษัท ปตท. จํากัด (มหาชน) มีการเปลี่ยนแปลงภายในคณะกรรมการ ปตท.โดยเฉพาะในตำแหน่งประธานกรรมการ ปตท.หลังจากที่นายทศพร ศิริสัมพันธ์ ยื่นหนังสือลาออกจากจากตำแหน่งประธานกรรมการ ปตท.
สำหรับนายทศพร มีประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการลาออกมาตั้งแต่ปี 2565 จนกระทั่งล่าสุดก่อนที่จะยื่นหนังสือลาออกได้ทำหนังสือสอบถามคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ก.ล.ต.) ถึงการดำรงตำแหน่งกรรมการของบริษัทจดทะเบียน
กระทั่งการประชุมคณะกรรมการ ปตท. เมื่อวันที่ 19 ต.ค.2566 ใช้เวลาประชุมยาวนานมาก เพื่อพิจารณาเรื่องการยื่นหนังสือลาออกของ นายทศพร ศิริสัมพันธ์ ประธานกรรมการ ปตท.
พร้อมกับมีมติแต่งตั้ง นายประเสริฐ สินสุขประเสริฐ กรรมการ เป็นประธานกรรมการ โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 16 พ.ย.2566
รายงานข่าวระบุว่า วันที่ 1 ธ.ค. 2566 ปตท.ได้ประกาศรับสมัครบุคคลเพื่อรับการคัดเลือกเข้าดำรงตำแหน่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ อย่างเป็นทางการ โดยสมัครได้ตั้งแต่วันที่ 12 ธ.ค. 2566 ถึง 3 ม.ค. 2567 ระหว่างเวลา 08.30 - 17.30 น. (เว้นวันหยุดราชการ)
ทั้งนี้ เนื่องจากนายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) CEO ปตท.คนที่ 10 จะครบวาระการดำรงตำแหน่ง 4 ปี ในเดือน พ.ค.2567 หลังจากเข้ามารับตำแหน่งในเดือนพ.ค. 2563 ซึ่งตามกระบวนการจะต้องเริ่มดำเนินการสรรหาก่อน 6 เดือน
แหล่งข่าวจากวงการพลังงาน เปิดเผยว่า สำหรับแคนดิเดตที่มีการพูดกันหนาหูทั้งภายใน ปตท. หรือแม้แต่ผู้บริหารกระทรวงพลังงาน ต่างยกน้ำหนักไปที่ นายคงกระพัน อินทรแจ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GC ที่มีความรู้ความสามารถและมีประสบการถือเป็นลูกหม้อ ปตท.มาเป็นเวลานาน
“เท่าที่ดูรายชื่อทั้งบุคคลภายในระดับรอง CEO ที่นั่งเป็น CEO บริหารให้กับบริษัทลูก ทุกคนล้วนแล้วแต่มีความรู้ความสามารถทั้งนั้น ไม่งั้นก็คงไม่ได้นั่งบริหารบริษัทใหญ่ของ กลุ่มปตท. ได้ จึงต้องลงมาดูในเรื่องของคุณสมบัติด้านอายุที่กำหนดไว้ไม่เกิน 58 ปี ซึ่ง CEO ท่านเดิมก็สมัครได้อีกทั้งที่ผ่านมานายอรรถพล ก็สามารถนำพาปตท. ผ่านพ้นวิกฤติโควิด และปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ได้อย่างดี" แหล่งข่าว กล่าว
นอกจากนี้ ยังมองว่า คนที่จะเข้ามาบริหาร ปตท. ได้จะต้องมีความกล้าตัดสินใจ เพราะ ปตท.ถือเป็นหน่วยงานรัฐวิสาหกิจภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงพลังงาน โดยกระทรวงการการคลังถือหุ้น 51% ดำเนินธุรกิจเพื่อความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศ มีรายได้ปี 2565 กว่า 3 ล้านล้านบาท ดังนั้น การบริหารงานภายใต้รัฐบาลจึงต้องมีข้อจำกัดและแรงกดดันสูง
สำหรับคุณสมบัติผู้สมัครหลัก ๆ อาทิ มีสัญชาติไทย อายุไม่เกิน 58 ปีบริบูรณ์ในวันยื่นใบสมัคร, มีความรู้ ความสามารถและประสบการณ์ รวมถึงมีวิสัยทัศน์ทางด้านธุรกิจพลังงาน ปิโตรเลียม ปิโตรเคมี รวมถึงธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง มีความรอบรู้และประสบการณ์ในการบริหารองค์กรขนาดใหญ่
ทั้งนี้ ในกรณีที่เป็นหรือเคยเป็นผู้บริหารภาคเอกชนหรือรัฐวิสาหกิจ ต้องดำรงตำแหน่งไม่ต่ำกว่าระดับรองผู้บริหารสูงสุดขององค์กรนั้น ที่มีรายได้ไม่ต่ำกว่า 50,000 ล้านบาทต่อปี โดยมีงบการเงินและโครงสร้างองค์กร หรือรายงานประจำปีในขณะดำรงตำแหน่งมาแสดงด้วย
รวมถึงมีความเป็นผู้นำ มีคุณธรรมและจริยธรรม ยึดมั่นในหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี มีมนุษยสัมพันธ์ดี สามารถติดต่อประสานงานได้เป็นอย่างดีทั้งในประเทศและต่างประเทศ เป็นต้น
สำหรับแคนดิเดต CEO ปตท. คนที่ 11 ที่มีคุณสมบัติครบทั้งความรู้ความสามารถและอายุไม่เกิน 58 ปี อาทิ
- นายคงกระพัน อินทรแจ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GC เกิดวันที่ 21 เม.ย. 2510 มีอายุ 56 ปี
- นายนพดล ปิ่นสุภา ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นปลาย บริษัท.ปตท. จำกัด (มหาชน) มีอายุ 58 ปี
- นายบัณฑิต ธรรมประจำจิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) อายุ 53 ปี