ธรรมนัส สั่งลุย ตั้งทีม " ฉก.พญานาคราช” ปราบสินค้าเกษตรเถื่อน

ธรรมนัส  สั่งลุย ตั้งทีม " ฉก.พญานาคราช” ปราบสินค้าเกษตรเถื่อน

“ธรรมนัส” ตั้ง ทีมเฉพาะกิจ " ฉก.พญานาคราช” สั่งลุยปราบปรามสินค้าเกษตรเถื่อนให้สิ้นซาก เร่งขึ้นทะเบียนห้องเย็นทั่วประเทศทันที

ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายภายหลังมอบนโยบายและแนวทางการดำเนินงานแก่เจ้าหน้าที่ “ทีม ฉก. พญานาคราช” จำนวนกว่า 50 คน โดยมี นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร นายสมชวน รัตนมังคลานนท์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ และนายบัญชา สุขแก้ว รองอธิบดีกรมประมง พร้อมด้วย พลตำรวจตรี เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ รองเลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.)

ธรรมนัส  สั่งลุย ตั้งทีม " ฉก.พญานาคราช” ปราบสินค้าเกษตรเถื่อน

พลตำรวจตรี ธรรมศักดิ์ ปิ่นทอง ผู้แทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พันเอก ธนชาติ เหมะจันทร ผู้แทนกองบัญชาการกองทัพไทย และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุมไชยงค์ ชูชาติ สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) ว่า “ทีม ฉก. พญานาคราช” คือ ชุดเฉพาะกิจปฏิบัติการพิเศษป้องกันและปราบปรามสินค้าปศุสัตว์ และสินค้าประมงผิดกฎหมาย ที่แต่งตั้งขึ้นมาเพื่อร่วมปฏิบัติการและสนับสนุนเจ้าหน้าที่สารวัตรปศุสัตว์ สารวัตรประมงและสารวัตรเกษตรในการเร่งรัดตรวจสอบ ติดตาม และจับกุมผู้ลักลอบนำเข้าสินค้าเกษตรแบบผิดกฎหมาย

ธรรมนัส  สั่งลุย ตั้งทีม " ฉก.พญานาคราช” ปราบสินค้าเกษตรเถื่อน

นอกจากนี้ยังมีการบูรณาการร่วมกับ ปปง. ในการเข้ายึดทรัพย์ และสำนักงานอัยการสูงสุดในการดำเนินคดีทางกฎหมาย เพื่อตัดตอนขบวนการดังกล่าวให้สิ้นซาก โดยบูรณาการความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐ ประกอบด้วย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมปศุสัตว์ และกรมประมง สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กองบัญชาการกองทัพไทย และสำนักงานอัยการสูงสุด ประกาศเจตนารมณ์ร่วมกันในการปราบปรามการลักลอบนำเข้าและส่งออกสินค้าเกษตรผิดกฎหมาย ทั้งด้านพืช ประมง และปศุสัตว์ เพื่อลดความสูญเสียด้านเศรษฐกิจจากการถูกแทรกแซงกลไกราคาตลาดอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี

 

“วันนี้ได้มอบนโยบายแก่ ทีม ฉก. พญานาคราช ซึ่งเป็นชุดปฏิบัติการฯ สนับสนุนการปราบปรามการลักลอบนำเข้าสินค้าเกษตรผิดกฎหมาย ที่ขึ้นตรงกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยขอให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเข็มแข็งและเอาจริงเอาจัง เพื่อกำจัดขบวนการลักลอบนำเข้าและส่งออกสินค้าเกษตรผิดกฎหมายให้สิ้นซาก

 นอกจากนี้ ภายหลังการประชุมนัดแรก ได้สั่งการให้กรมปศุสัตว์ กรมประมง และกรมวิชาการเกษตร ประสานความร่วมมือกับทุกจังหวัดเพื่อจัดประชุมร่วมกับผู้ประกอบการในการเร่งขึ้นทะเบียนห้องเย็นทั่วประเทศ ซึ่งนับเป็นก้าวแรกที่จะ Set Zero ระบบการตรวจสอบขบวนการลักลอบนำเข้าสินค้าเกษตรผิดกฎหมายตั้งแต่ต้นทาง และให้มีการรายงานให้ทราบก่อนการประชุมครั้งต่อไป โดยจะติดตามความก้าวหน้าในการดำเนินงานทุก ๆ 15 วัน อีกด้วย” รัฐมนตรีเกษตรฯ กล่าว