ธี่หยด-สัปเหร่อ ภาพยนตร์ไทยไต่ฝัน ผู้นำซอฟต์พาวเวอร์ของโลก

ภาพยนตร์ไทยในกระแสนิยมสูง อย่าง ธี่หยด ยอดรายได้สู่ 300 ล้าน และ สัปเหร่อ รายได้มุ่ง 700 ล้าน ปลุกอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยให้คึกคัก จนเกิดการถกเถียงกันอยู่เหมือนกันว่า ภาพยนตร์ไทยมาแรงขณะนี้ จะเป็นซอฟต์พาวเวอร์ของไทย (Thai Soft Power) ได้หรือยัง

น่าจะใกล้ความเป็นซอฟต์พาวเวอร์ หากไต่ฝันก้าวต่อไปในอุตสาหกรรมภาพยนตร์โลก ด้วยการเอาหนังธี่หยดและหนังสัปเหร่อออกไปฉายในต่างประเทศ

เริ่มจากประเทศจีนแผ่นดินใหญ่มีประชากรมากเป็นพันล้านคน จะเป็นที่นิยมเหมือนภาพยนตร์และละครไทยก่อนหน้านี้หรือเปล่า ซึ่งคงพอเดาได้ว่าช่วงที่ผ่านมา คนจีนนิยมความเป็นไทยดีอยู่แล้ว จากความสัมพันธ์ระหว่างประเทศอันเป็นมิตรประเทศ

ล่าสุด เวที Thailand – China Investment Forum จัดขึ้นที่กรุงปักกิ่ง มีการลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านภาพยนตร์ระหว่างกระทรวงวัฒนธรรมแห่งราชอาณาจักรไทยกับทบวงกิจการภาพยนตร์แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน โดย เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ประกาศนโยบายสนับสนุนการสร้างพลังสร้างสรรค์ หรือ ซอฟต์พาวเวอร์ (Soft Power) ของประเทศไทยสู่ระดับสากลด้วยการทูตเชิงวัฒนธรรม ยกระดับและพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ของคนไทย ผ่านคอนเทนต์ 11 อุตสาหกรรม โดยเฉพาะภาพยนตร์ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของไทยต่อเวทีโลก

กล่าวคือ หากรัฐบาลใช้กลไกเอื้อเอกชนกลุ่มผู้สร้างภาพยนตร์ให้หนังธี่หยดและหนังสัปเหร่อไปฉายที่จีน เชื่อว่าเมื่อผลักดันแบบรัฐต่อรัฐ โดยเฉพาะลักษณะการปกครองแบบจีน จะทำให้หนังไทยได้รับความนิยม สร้างซอฟต์พาวเวอร์ต่อกัน มิตรประเทศยิ่งแน่นแฟ้น

แน่นอนว่า ผู้นำซอฟต์พาวเวอร์ของโลกนั้น ประเทศไทยอยู่ในอันดับที่มีศักยภาพอันจะก้าวไปอยู่แถวหน้าได้ หากรัฐบาลเร่งทำงาน “เกาให้ถูกที่คัน” ซึ่งตัวอย่างที่เห็นว่าทำงานจริงอย่างกรณี ภาพยนตร์เรื่อง "RedLife" ที่ถ่ายทำในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เป็นภาพยนตร์เรื่องแรกที่ใช้บริการ One Stop Service ศูนย์ประสานงานการถ่ายทำภาพยนตร์ ซีรีส์ ละคร และสื่อบันเทิง ในพื้นที่กรุงเทพฯ หรือ Bangkok Filmmaking Coordinator Center (BFMCC) ซึ่งทำให้บรรดาผู้สร้างภาพยนตร์ทำงานได้ง่ายขึ้น

กลับมาที่หนังธี่หยดและหนังสัปเหร่อ เป็นหนังผีสไตล์ไทย มีบริบทความเป็นท้องถิ่นพื้นที่ต่างจังหวัด แฝงความเชื่อ วิถีชุมชน ศิลปวัฒนธรรม ซึ่งน่าจะเป็นซิกเนเจอร์ของไทยให้ต่างชาติไปเที่ยวไปค้นหาได้อีกเยอะ

พูดก็พูดเถอะ หนังธี่หยดและหนังสัปเหร่อ มีของดีต้องดีจากภายใน หมายความว่า ภาพยนตร์ทั้ง 2 เรื่อง คนไทยนิยมสูงดูจากยอดรายได้ แสดงให้เห็นว่าได้รับการยอมรับระดับในประเทศแล้ว จึงไม่แปลกอะไรที่เพื่อนบ้านชายแดนติดกัน อย่าง ลาว กัมพูชา และเวียดนาม จะนิยมชมชอบ เนื่องจากที่ผ่านมา คนไทยฮิตอะไร เพื่อนบ้านก็รับรู้และลองดูแล้วชอบอยู่บ่อยครั้ง

ส่วนตลาดภาพยนตร์ใหญ่อย่างอเมริกาและยุโรปนั้น อาจคาดเดาได้ยาก เพราะส่วนใหญ่ชอบเกี่ยวกับศิลปะการต่อสู้ “มวยไทย” แต่หนังธี่หยดและหนังสัปเหร่อ สื่อความหมายด้วยภาพให้เห็นแง่มุมของไทย ซึ่งภาพยนตร์ใช้การเล่าเรื่องด้วยภาพ การแสดง เป็นภาษาสากล ตรงจุดนี้ภาพยนตร์ไทยทั้ง 2 เรื่องน่าจะพอขายได้

กระนั้น เชื่อว่า หนังธี่หยดและหนังสัปเหร่อ เมื่อออกตัวเดินสายฉายทั่วโลก คงได้รับความสนใจ จะเป็นซอฟต์พาวเวอร์ของไทย ที่คนไทยภูมิใจนำเสนอ

- เรื่องที่เกี่ยวข้อง :
 บทความที่เกี่ยวข้องกับ soft power ทั้งหมด
บทความของนิติราษฎร์ บุญโย ทั้งหมด