ธรรมนัส เคาะกรอบพักหนี้เกษตรกร สหกรณ์ 1แสนราย ส่วน ครูลดดอก 0.05-1 %

ธรรมนัส เคาะกรอบพักหนี้เกษตรกร สหกรณ์ 1แสนราย ส่วน ครูลดดอก 0.05-1 %

ธรรมนัส เล็งพักหนี้เกษตร สมาชิกสหกรณ์ทั้งต้นทั้งดอก 1 แสนราย วงเงินไม่เกิน 3 แสนบาทต่อราย ขณะนี้สินครูทั่วประเทศ 463,072 ราย ลดดอกเบี้ย 0.05 – 1 % ประหยัดเงินให้สมาชิกครู 2,256 ล้านบาท

ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ในขณะนี้อยู่ระหว่างเตรียมเสนอพักหนี้เกษตรกรรายย่อยที่เป็นลูกหนี้สหกรณ์การเกษตร จำนวนประมาณ 1 แสนราย มูลหนี้ประมาณ 4-5 หมื่นล้านบาท ต่อคณะทำงานเพื่อกำหนดมาตรการในการพักหนี้เกษตรกรและผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(เอสเอ็มอี)ที่มีนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังเป็นประธานพิจารณาพักชำระหนี้ทั้งต้นและดอกเบี้ยให้กับลูกหนี้ให้เกษตรกรรายย่อยตามนโยบายรัฐบาล

 

ธรรมนัส เคาะกรอบพักหนี้เกษตรกร สหกรณ์ 1แสนราย ส่วน ครูลดดอก 0.05-1 %

“สั่งให้กรมส่งเสริมการเกษตรสำรวจ สถานะของเกษตรกร ที่เป็นหนี้ในสหกรณ์การเกษตร เพื่อรวบรวมข้อมูลนำเสนอคณะทำงานเพื่อกำหนดมาตรการในการพักหนี้เกษตรกรฯ ก่อนพิจารณานำเสนอคณะรัฐมนตรี(ครม.)อนุมัติให้พักหนี้เกษตรกรที่เป็นลูกหนี้สหกรณ์การเกษตรภายใต้เกณฑ์เดียวกับ เกษตรกรรายย่อยลูกหนี้ของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.) ที่มีหนี้ไม่เกิน 3 แสนบาท พักทั้งต้นและดอกเบี้ย”

สำหรับหนี้สินในสหกรณ์ที่เป็นหนี้จำนวนมาก คือหนี้สินครูที่มีในสหกรณ์ออมทรัพย์ครู ทั่วประเทศมีจำนวน 924,954 คน มีหนี้กับสหกรณ์ออมทรัพย์รวม 9.9 แสนล้านบาท โดยครูมีหนี้กับสหกรณ์เฉลี่ยต่อราย 9.7 แสนบาท ที่ผ่านมาสหกรณ์ออมทรัพย์ได้ร่วมแก้ไขปัญหาหนี้สินของสมาชิก โดยในปี 2564 – 2565 โดยประกาศลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลง 0.05 – 1 % หรือ เฉลี่ยร้อยละ 0.30 บาท) มีครูได้ประโยชน์ 463,072 ราย ประหยัดเงินให้สมาชิกครูได้ถึง 2,256 ล้านบาท

ธรรมนัส เคาะกรอบพักหนี้เกษตรกร สหกรณ์ 1แสนราย ส่วน ครูลดดอก 0.05-1 %

และมีการปรับโครงสร้างหนี้ให้แก่สมาชิก เพื่อให้สมาชิกครูมีเงินได้คงเหลือเพียงพอต่อการดำรงชีพ

โดยมีการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ให้แก่สมาชิกไปแล้ว 12,303 ราย เป็นเงิน 10,400 ล้านบาท และได้รับรวมหนี้จากสถาบันการเงินมาไว้ที่สหกรณ์ซึ่งเสียดอกเบี้ยต่ำกว่า จำนวน 26,141 ราย เป็นเงิน 27,540 ล้านบาทณ รอบปีบัญชี 2565 สหกรณ์ออมทรัพย์ครูมี จำนวน 116 แห่ง มีสินทรัพย์รวมสูงถึง 1 ล้านล้านบาท โดยส่วนใหญ่เป็นเงินให้สมาชิกกู้กว่า 90%

ระหว่างปี 2563 - 2565 มีอัตราเงินให้กู้เพิ่มขึ้นที่ 4% ต่อเนื่องทุกปี สหกรณ์ออมทรัพย์ครูจะพึ่งพาแหล่งเงินทุนจากสมาชิกที่ 74% และมีการกู้ยืมเงินจากภายนอก เช่น สถาบันการเงิน ชุมนุมสหกรณ์ออมทรัพย์แห่งประเทศไทย จำกัด มาเป็นทุนให้สมาชิกกู้ยืม จากข้อมูล สหกรณ์ออมทรัพย์ครูในภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีจำนวนมากที่สุดถึง 39 แห่ง และมีสมาชิกสหกรณ์ 2.9 แสนคน หนี้สินเฉลี่ยต่อสมาชิกอยู่ที่ 1.1 ล้านบาท แต่มีเงินออมเฉลี่ยต่อสมาชิกอยู่ที่ 0.6 ล้านบาท แสดงให้เห็นว่า สมาชิกมีหนี้สินมากกว่าเงินออมเฉลี่ยรายละ 0.5 ล้านบาท

รองลงมา สหกรณ์ออมทรัพย์ครูภาคตะวันออกมี 8 แห่ง ความมั่งคั่งเฉลี่ยต่อสมาชิกติดลบอยู่ที่ 0.4 ล้านบาทต่อคน หรือจะเรียกได้ว่าสมาชิกมีหนี้สินมากกว่าเงินออมเฉลี่ยรายละ 0.4 ล้านบาท โดยหนี้สินเฉลี่ยต่อสมาชิกอยู่ที่ 1.3 ล้านบาท และเงินออมเฉลี่ยต่อสมาชิกอยู่ที่ 0.9 ล้านบาท

ลำดับถัดมาได้แก่ ภาคเหนือ ภาคใต้ ภาคกลาง และภาคตะวันตก ซึ่งความมั่งคั่งเฉลี่ยต่อสมาชิกติดลบอยู่ที่ 0.2 ล้านบาท 0.08 ล้านบาท 0.07 ล้านบาท และ 0.02 ล้านบาท ตามลำดับ สำหรับกรุงเทพมหานครและปริมณฑล สมาชิกสหกรณ์ส่วนใหญ่มีเงินออมสูงกว่าหนี้สิน และมีความมั่งคั่งเฉลี่ยต่อสมาชิกอยู่ที่ 0.1 ล้านบาท