“ภูมิธรรม” สั่งลดราคาสินค้า อุปโภคบริโภค วัสดุก่อสร้าง สินค้าออนไลน์

“ภูมิธรรม” สั่งลดราคาสินค้า อุปโภคบริโภค วัสดุก่อสร้าง สินค้าออนไลน์

“ภูมิธรรม” เร่งลดค่าครองชีพ เปิดรายชื่อสินค้าลดราคา 2 ต.ค.นี้ ครอบคลุมสินค้าอุปโภคบริโภค วัสดุก่อสร้าง เครื่องใช้ไฟฟ้า และการซื้อขายผ่านค้าออนไลน์

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้ประชุมร่วมกับภาคเอกชนเมื่อวันที่ 27 ก.ย.2566 เพื่อรับทราบสถานการณ์และทิศทางการค้า รวมทั้งประเด็นปัญหาและข้อเสนอของภาคเอกชน อาทิ การเร่งรัดเจรจาข้อตกลงการค้าเสรี (เอฟทีเอ) เพื่อขยายโอกาสการค้าและการลงทุนของไทย การอำนวยความสะดวกในการดำเนินธุรกิจแก่ภาคเอกชน การจัด Campaign สนับสนุนสินค้าไทย

การประชุมครั้งนี้มีองค์กรเอกชนเข้าร่วม ประกอบด้วยสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) สมาคมธนาคารไทย และสมาคมผู้ค้าปลีกไทย โดยมีนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เข้าร่วมด้วย

“ภูมิธรรม” สั่งลดราคาสินค้า อุปโภคบริโภค วัสดุก่อสร้าง สินค้าออนไลน์

นายภูมิธรรม กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้ได้มีการหารือการลดราคาสินค้า โดยจะมีสินค้ารายการใดบ้างขอให้รอดู โดยเฉพาะสินค้าที่จำเป็นต่อการครองชีพ จะมีการลดราคาลงแน่ แต่คงไม่ได้ทุกตัว เพราะต้นทุนมีความแตกต่างกัน แม้ว่ารัฐบาลจะดูแลในเรื่องน้ำมันและค่าไฟฟ้าแล้ว แต่ก็มีต้นทุนวัตถุดิบและต้นทุนอื่นอีก ซึ่งจะพยายามหาทางลดในส่วนที่ลดได้ 

ทั้งนี้ ในวันที่ 2 ต.ค.2566 จะแถลงความคืบหน้าการดูแลค่าครองชีพให้กับประชาชน โดยจะมีความชัดเจนในเรื่องสินค้าและบริการที่จะปรับลดราคา การลดราคาขายทางออนไลน์ และการจัดมหกรรมลดราคาสินค้าพร้อมกันทั้งประเทศ

นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า จะมีการปรับลดราคาทั้งในส่วนของสินค้าและบริการ รวมถึงการค้าออนไลน์ ด้วย

นายฉัตรชัย ตวงรัตนพันธ์ รองประธานสมาคมผู้ค้าปลีกไทย กล่าวว่า สมาคมฯ เตรียมพร้อมแล้วที่จะปรับลดราคาสินค้าเพื่อแบ่งเบาภาระให้ประชาชน ล่าสุดได้จัดส่งรายการสินค้าที่เตรียมปรับลดให้กับกรมการค้าภายในแล้ว อาทิ สินค้าในกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค จำเป็น วัสดุก่อสร้าง และเครื่องใช้ไฟฟ้า เป็นต้น

นายพจน์ อร่ามวัฒนานนท์ รองประธานกรรมการหอการค้าไทย กล่าวว่า การให้ผู้ผลิตภาคเอกชนปรับลดราคาสินค้านั้น ยืนยันว่าภาคเอกชน ไม่ได้อยากขายสินค้าราคาแพงแต่ขึ้นอยู่กับห่วงโซ่การผลิต จึงต้องฝากให้ทางกระทรวงพาณิชย์ ช่วยดูแลต้องช่วยกันปรับลดราคาทั้งห่วงโซ่สินค้า โดยผู้ค้าปลีกจะต้องยอมปรับลดกำไรลงด้วย จะให้ผู้ผลิตปรับลดราคาฝ่ายเดียวคงไม่ได้