‘ดับบลิวเอชเอ’ลุ้นดีลบิ๊กเทคสหรัฐ มั่นใจทริปนายกฯดันเชื่อมั่นลงทุน

‘ดับบลิวเอชเอ’ลุ้นดีลบิ๊กเทคสหรัฐ มั่นใจทริปนายกฯดันเชื่อมั่นลงทุน

‘จรีพร’ แย้มข่าวดี หลังร่วมคณะนายกฯ เยือนสหรัฐ เตรียมรับลงทุนกลุ่มเทคโนโลยีใช้ไทยเป็นฐานสำหรับภูมิภาค ระบุครึ่งปีหลังกำลังเจรจาดีลใหญ่อีก 600 ไร่ ประกาศขยับเป้ายอดขายนิคมฯ ปีนี้แตะ 2,750 ไร่

ชี้เวียดนามโตเกินคาด รับกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ขยายลงทุน พร้อมเดินหน้าสู่เทคคอมปานีเต็มรูปแบบปี 2567 คาดรายได้ทั้งปีโต 10% ทำ All Time High อีกครั้ง 

การเดินทางเยือนสหรัฐของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ช่วงวันที่ 18-24 ก.ย.2566 ได้มีการหารือกับนักธุรกิจสหรัฐหลายรายเพื่อเชิญชวนมาลงทุนไทย และมีแนวโน้มหลายบริษัทจะตัดสินใจมาลงทุนไทย 

นางสาวจรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่นจำกัด (มหาชน) หรือ ดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป กล่าวว่า ในการเดินทางร่วมกับคณะของนายกรัฐมนตรีไปเยือนนครนิวยอร์กสหรัฐอเมริกา ได้มีโอกาสเข้าพบนักธุรกิจด้านเทคโนโลยีรายใหญ่ของสหรัฐ เพื่อเชิญชวนเข้ามาลงทุนในไทย อาทิ เทสลา, กองทุนโกลด์แมนแซคส์, เจพีมอร์แกน, ไมโครซอฟต์, ซิตี้แบงก์, เอสเต้ ลอเดอร์ และกองทุนแบ็คล็อก ซึ่งมีบางบริษัทที่ดับบลิวเอชเอกำลังเจรจาอยู่ด้วย

“การเดินทางไปเยือนสหรัฐในครั้งนี้ของนายกฯ เป็นการส่งสัญญาณและข้อความออกไปยังนักลงทุนอย่างชัดเจนว่า ไทยกำลังเปิดรับการลงทุนจากต่างชาติ โดยเฉพาะในกลุ่มเทคโนโลยี อุตสาหกรรมใหม่ที่ไทยพร้อมในด้านโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งบริษัทใหญ่ๆ ก็ให้การตอบรับและมีแนวโน้มขยายการลงทุนมาไทยเพื่อใช้เป็นฐานหลักของภูมิภาคในการส่งออก”

ทั้งนี้ ปัจจุบันกำลังอยู่ในเทรนด์การเคลื่อนย้ายฐานการลงทุน ซึ่งไทยต้องเร่งวางแนวทางการดึงดูดการลงทุนต่อจากนี้ในเชิงรุก โดยเดินเข้าไปถามความต้องการนักลงทุน ซึ่งก่อนอื่นต้องออกแบบกลยุทธ์และกำหนดคลัสเตอร์อุตสาหกรรมที่ต้องการแล้วไปเจรจากับบริษัทที่เป็นแม่เหล็ก จะดึงให้กลุ่มซัพพลายเชนตามเข้ามาลงทุนด้วย

จากนั้นขั้นต่อไปคือวางกลยุทธ์ว่าการลงทุนต่างชาตินั้นจะส่งเสริมและต่อยอด รวมทั้งสร้างโอกาสให้คนไทยและธุรกิจไทยอย่างไร เพื่อให้เศรษฐกิจไทยเติบโตได้อย่างยั่งยืน

ทั้งนี้ ดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป พร้อมช่วยเสริมความสามารถในการแข่งขันและผลักดันให้ไทยเป็น The World’s Best Investment Destination สำหรับนักลงทุนจากต่างประเทศทั่วโลก ด้วยศักยภาพของระบบอีโคซิสเต็มที่ครบวงจรและแข็งแกร่งของทั้ง 4 กลุ่มธุรกิจ ที่จะสนับสนุนให้เกิดการต่อยอดพัฒนาโซลูชันทางธุรกิจและอุตสาหกรรม

นอกจากนี้ ได้ผลักดันพันธกิจ WHA: WE SHAPE THE FUTURE ที่มุ่งเป็นผู้สร้างความเจริญ สร้างอาชีพและรายได้ให้ผู้คนและสังคมเพื่อความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น สู่เป้าหมายสูงสุดคือสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนให้เศรษฐกิจไทย

“การกระตุ้นให้เกิดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) จะเป็นส่วนสำคัญที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจของไทยได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน”

‘ดับบลิวเอชเอ’ลุ้นดีลบิ๊กเทคสหรัฐ มั่นใจทริปนายกฯดันเชื่อมั่นลงทุน
สำหรับผลการดำเนินงานของ ดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป ในช่วงครึ่งแรก ของปี 2566 มีความโดดเด่น มีรายได้รวมและส่วนแบ่งกำไรกว่า 5,600 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27% และกำไรสุทธิ 1,390 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 46% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า

ดังนั้น จึงมั่นใจว่ารายได้และกำไรปีนี้จะเติบโต 10% จากปีก่อนอยู่ที่ 15,800 ล้านบาททำ All Time High อีกครั้ง เป็นสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง สะท้อนการเติบโตอย่างแข็งแกร่งของธุรกิจทั้ง 4 กลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจนิคมอุตสาหกรรมที่มีผลประกอบการดีเหนือความคาดหมายส่งผลให้ปรับเพิ่มเป้าหมายการดำเนินงานของสิ้นปี 2566 ให้สูงขึ้นจากที่กำหนดไว้ช่วงต้นปี

“ผลจากกระแสการย้ายฐานการผลิต บริษัทฯ จึงได้ปรับเป้ายอดขายที่ดินรวม ทั้งในประเทศไทยและเวียดนาม สำหรับปี 2566 จาก 1,750 ไร่ ที่เคยประกาศไว้เมื่อต้นปี เป็น 2,750 ไร่”

ทั้งนี้ ช่วงครึ่งปีหลังมีการเจรจากับบริษัทลูก Foxconn ผู้ผลิตอิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่จากไต้หวันที่ลงนามซื้อที่ดินในนิคมฯ ที่เวียดนามไป 300 ไร่ รวมทั้งมีลูกค้าจีนรายใหญ่สนใจจะซื้ออีก 200-300 ไร่ 

สำหรับในไทยยังอยู่ระหว่างการเจรจากับ EV รายใหญ่อีกหนึ่งราย ที่สนใจซื้อที่ดินแปลงใหญ่ 200 กว่าไร่ และยังมีดีลใหญ่อีก 600 ไร่ ที่จะปิดดีลได้ภายในสิ้นปีนี้หรือต้นปีหน้า

ส่วนกลุ่มอุตสาหกรรมที่ยังคงขยายตัวโดดเด่น ได้แก่ กลุ่มยานยนต์ไฟฟ้า (EV) คอนซูมเมอร์ และอิเล็กทรอนิกส์ ส่วนใหญ่เป็นนักลงทุนจากจีน ไต้หวัน และญี่ปุ่นที่เริ่มกลับมาขยายการลงทุนอีกครั้ง

นอกจากนี้ ปัจจุบันมีนิคมอุตสาหกรรม 13 แห่งในไทยและเวียดนาม มีพื้นที่รวม 71,300 ไร่ โดยกำลังพัฒนานิคมอุตสาหกรรมใหม่อีก 1 แห่ง และส่วนขยายโครงการนิคมอุตสาหกรรมอีก 3 แห่งในประเทศไทย รวมพื้นที่ซึ่งอยู่ระหว่างการพัฒนา 5,700 ไร่

สำหรับในเวียดนามเร่งพัฒนานิคมอุตสาหกรรมเหงะอาน เฟส 2 ที่มีพื้นที่รวม 2,215 ไร่ ให้ทันความต้องการลูกค้า ส่วนนิคมอุตสาหกรรมแห่งใหม่อีก 2 แห่ง ที่เมืองถั่นหัวและดานัง อยู่ในกระบวนการขอใบอนุญาตลงทุน

ธุรกิจโลจิสติกส์ มุ่งขยายการเติบโตให้ครอบคลุมทำเลยุทธศาสตร์สำคัญในประเทศ และหาโอกาสใหม่ในเวียดนาม โดยมุ่งเน้นที่อุตสาหกรรมที่เติบโตสูง เช่น ยานยนต์ไฟฟ้า อีคอมเมอร์ซ และอุตสาหกรรม New S-curve

นอกจากนี้ยังส่งเสริมการสร้างพันธมิตรระยะยาว พร้อมนำนวัตกรรมดิจิทัลและแนวปฏิบัติเพื่อความยั่งยืนมาใช้ทั้งระบบตั้งแต่โครงการ Green Logistics โครงการอาคารสีเขียว โดยตั้งเป้าสิ้นปี 2566 จะลงนามสัญญาเช่าโครงการใหม่รวม200,000 ตารางเมตร และมีสินทรัพย์ภายใต้กรรมสิทธิ์และการบริหารรวม 2.9 ล้านตารางเมตร

ธุรกิจสาธารณูปโภค ส่วนน้ำยังเติบโตพร้อมกลุ่มธุรกิจนิคมอุตสาหกรรม โดยอยู่ระหว่างการก่อสร้างโรงผลิตน้ำอุตสาหกรรมและบำบัดน้ำเสียแห่งใหม่ที่นิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ อินดัสเตรียล เอสเตท ระยอง กำลังการผลิตน้ำปีละ 3 ล้านลูกบาศก์เมตร และบำบัดน้ำ ปีละ 1.9 ล้านลูกบาศก์เมตร จะเปิดดำเนินการได้ไตรมาส 4 ปี 2566

นอกจากนี้ ยังมุ่งเน้นการเพิ่มผลิตภัณฑ์และโซลูชันให้มากขึ้น โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์น้ำมูลค่าเพิ่ม และหาโอกาสขยายตลาดสู่ลูกค้านอกนิคมอุตสาหกรรม โดยล่าสุดลงนามสัญญาการซื้อขายน้ำเพื่ออุตสาหกรรมคุณภาพสูงกับลูกค้า 2 รายในนิคมอุตสาหกรรม WHA ESIE4 คิดเป็นปริมาณน้ำรวม 4.6 ล้านลูกบาศก์เมตร

โดยตั้งเป้าสิ้นปี 2566 จะมีปริมาณยอดจำหน่ายน้ำอุตสาหกรรม น้ำมูลค่าเพิ่ม และปริมาณการบำบัดน้ำเสียในไทยและเวียดนามรวม 168 ล้านลูกบาศก์เมตร

ธุรกิจไฟฟ้า จะขยายธุรกิจในไทยและเวียดนาม และขยายสู่ตลาดใหม่ประเทศอื่น ควบคู่นำนวัตกรรมและความยั่งยืนมาใช้ในธุรกิจ พร้อมหาโอกาสใหม่ทางธุรกิจเพื่อสร้าง New S-Curve อาทิ ระบบกักเก็บพลังงานแบบแบตเตอรี่ ไฮโดรเจนสีเขียวการซื้อขายคาร์บอนเครดิต รวมถึงเทคโนโลยีการดักจับ การใช้ประโยชน์ และการกักเก็บคาร์บอน (CCUS)

สำหรับเป้าหมายปี 2566 จะลงนามสัญญาโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ที่ติดตั้งบนหลังคาเพิ่มหลายโครงการ และจะมีกำลังการผลิตไฟฟ้าสะสมเพิ่มเป็น 192 เมกะวัตต์ โดยมีเป้ากำลังการผลิตไฟฟ้าสะสมจากโครงการพลังงานหมุนเวียน 300 เมกะวัตต์ จะทำให้มีกำลังการผลิตไฟฟ้ารวมตามสัดส่วนการถือหุ้นที่ 847 เมกะวัตต์

ธุรกิจดิจิทัล เดินหน้าโครงการการทรานสฟอร์มธุรกิจสู่ดิจิทัลภายในองค์กร ช่วยเพิ่มศักยภาพการขับเคลื่อนกลุ่มธุรกิจของดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป ให้เดินหน้าอย่างแข็งแกร่งและมุ่งสร้างพันธมิตรใหม่ในกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยี 

รวมทั้งทำงานร่วมกับ 3 กลุ่มธุรกิจ ของดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป ในการนำเทคโนโลยีมาสร้างผลิตภัณฑ์และบริการมูลค่าเพิ่ม อาทิแดชบอร์ดแสดงผลการทำงานของแผงพลังงานแสงอาทิตย์และอุปกรณ์ตรวจวัดประสิทธิภาพการทำงานของแผง รวมไปถึงเครื่องมือวิเคราะห์ระบบอัตโนมัติและอุปกรณ์อัจฉริยะต่างๆ ที่ใช้ในระบบจัดส่งน้ำ

นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาแอปพลิเคชัน WHAbit โซลูชันสำหรับดิจิทัลเฮลธ์เทคอย่างต่อเนื่อง และเปิดตัวเวอร์ชันสองในปี2566 ด้วยฟีเจอร์ใหม่ เช่น การแสดงข้อมูลด้วยภาพ และการวิเคราะห์ข้อมูลสุขภาพส่วนบุคคล รวมถึงเทคโนโลยี Meta W สร้างโลกนิคมอุตสาหกรรมเสมือนจริงให้นักลงทุนเยี่ยมชมพื้นที่

“แนวโน้มเศรษฐกิจมีทิศทางเป็นบวกมากขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง จึงเชื่อมั่นว่าจะบรรลุเป้าหมายทางธุรกิจที่วางไว้สำหรับสิ้นปี2566 ขณะเดียวกันก็เสริมศักยภาพเพื่อเตรียมพร้อมเป็น Technology Company เต็มรูปแบบในปี 2567 และเดินหน้าแคมเปญ WHA: WE SHAPE THE FUTURE เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างอนาคตที่มั่นคงและยั่งยืนสอดคล้องพันธกิจของดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป The Ultimate Solution for Sustainable Growth”

‘ดับบลิวเอชเอ’ลุ้นดีลบิ๊กเทคสหรัฐ มั่นใจทริปนายกฯดันเชื่อมั่นลงทุน