ธรรมนัส รมว.เกษตรมุ่งเป้าลดต้นทุน เพิ่มรายได้ ไม่ขายที่ทำกิน

ธรรมนัส รมว.เกษตรมุ่งเป้าลดต้นทุน เพิ่มรายได้ ไม่ขายที่ทำกิน

ลุ้น พญานาค 1 คนใหม่ ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กุมบังเหียนอนาคตเกษตรไทย หลุดปัญหาต้นทุนสูง รายได้ลด ภาวะโลกเดือด

กลับมาใหม่ใหญ่กว่าเดิม สำหรับร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์คนใหม่ในรัฐบาล ที่มีนายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งอาจจะคุ้นหน้าคุ้นตา และเห็นผลงานกันอยู่บ้างสำหรับชาวกระทรวงเกษตรฯ เพราะก่อนหน้านี้ ร้อยเอกธรรมนัสก็เคยดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรฯในคณะรัฐบาลชุดที่แล้วมาก่อนแต่อยู่ได้แค่ครึ่งเทอมก็ต้องออกจากตำแหน่งด้วยเหตุผลทางการเมือง

โดยครั้งนั้นได้รับการแบ่งงานให้ดูแลเฉพาะ 4หน่วยงานคือกรมพัฒนาที่ดินสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม(ส.ป.ก.)กรมฝนหลวงและการบินเกษตรองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร(อ.ต.ก.)

 

ธรรมนัส รมว.เกษตรมุ่งเป้าลดต้นทุน เพิ่มรายได้ ไม่ขายที่ทำกิน ธรรมนัส รมว.เกษตรมุ่งเป้าลดต้นทุน เพิ่มรายได้ ไม่ขายที่ทำกิน

แต่การกลับมาหนนี้ร้อยเอกธรรมนัสมีอำนาจเต็มที่จะขับเคลื่อนภาคการเกษตรทั้งหมด จึงเป็นที่จับตามองของทุกวงสังคม ถึงผลงานที่จะเกิดขึ้นในอนาคตว่าวัดฝีมือได้มากน้อยเพียงไร เพราะภาคการเกษตรมีหลายโจทย์ใหญ่รออยู่ แต่ละโจทย์ใหญ่หลวงและร้อนแรง เกินบรรยายเลยทีเดียว

ที่เด่นชัดคือเรื่องต้นทุนภาคการเกษตรที่เพิ่มขึ้น แต่รายได้ลดลง เกษตรกรยังขาดที่ทำกิน ปัญหาโลกร้อนที่กระทบกับภาคเกษตรโดยตรงทั้งฝนแล้งน้ำท่วม ร้ายแรงที่สุดคือในปีนี้และอีก3 ปีข้างหน้า ไทยจะอยู่กับสภาวะเอลนีโญจนครบวาระคณะรัฐบาล พอดี

อย่างไรก็ตามปัญหาเหล่านี้ดูเหมือนจะสอดคล้องกับนโยบายของพรรคพลังประชารัฐ อยู่บ้าง ตามที่ระบุว่าวางแผนการผลิต ใช้ตลาดนำ ลดต้นทุน และเพิ่มผลผลิตต่อไร่ ด้วยความรู้และเทคโนโลยี เพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตรด้วยการแปรรูป ให้ประชาชนมีที่ดินเป็นของตนเอง และเข้าไปใช้ทำกินได้ เพื่อมีความเป็นอยู่ที่ดี

สำหรับ โดยการทำงานในหน่วยงานที่รับผิดชอบ ได้เน้นย้ำเรื่องการบูรณาการและคำนึงถึงผลประโยชน์ที่เกษตรกรจะได้รับเป็นหลัก ในส่วนของกรมฝนหลวงและการบินเกษตรถือเป็นหัวใจสำคัญที่จะเข้าไปแก้ไขปัญหาภัยแล้งซึ่งปี 2564 มีแนวโน้มที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นกว่าทุกปีที่ผ่านมา และคาดว่าจะเกิดขึ้นเป็นระยะเวลานาน จึงทำให้ส่งผลกระทบเรื่องการขาดแคลนน้ำเพื่ออุปโภคบริโภคน้ำเพื่อทำการเกษตร รวมถึงเขื่อนและอ่างเก็บน้ำต่าง ๆ ที่มีปริมาณน้ำน้อย

 สำหรับผลงานในช่วง 2 ปีที่ร้อยเอกธรรมนัสในฐานะรัฐมนตรีช่วย กระทรวงเกษตร นั้นได้เร่งปฏิบัติการฝนหลวงเพื่อแก้ไขปัญหาภัยแล้ง เน้น การเติมน้ำต้นทุนให้กับอ่างเก็บน้ำและเขื่อนต่างๆ ของประเทศ ป้องกันการเกิดไฟป่าและบรรเทาปัญหาหมอกควัน แก้ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก(PM2.5)เกินเกณฑ์มาตรฐานซึ่งมีผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนทั่วไป

ผลักดันให้ใช้เครือข่ายหมอดินเข้าถึงเกษตรกรให้มากที่สุดเพื่อแก้ปัญหาดินโดยเฉพาะในเขตพื้นที่ไม่เหมาะสม การขุดบ่อขนาดเล็กในพื้นที่ และสร้างบ่อเก็บน้ำใต้ดิน โดยเห็นว่าน้ำเป็นปัจจัยพื้นฐานสำคัญต่อภาคการผลิต ในขณะเดียวกันได้รณรงค์ปลูกหญ้าแฝก เพื่อป้องกันการชะล้างพังทลายของดินภายใต้“โครงการ 1 ตำบล 1 กลุ่มเกษตรทฤษฎีใหม่ การใช้สารชีวภาพ พด. ต่างๆเพื่อให้เกษตรกรเข้าถึงวิธีการทำปุ๋ยหมัก แทนการใช้ปุ๋ยเคมีที่มีราคาแพงขึ้น

สั่งการให้ทบทวนการถือครองที่ดินในเขต ส.ป.ก.ทั้งหมดและเรียกคืนโดยเฉพาะในกลุ่มนักการเมืองทุกราย หากพบความไม่ถูกต้องให้ยึดคืนทันที เพื่อนำไปแจกให้กับเกษตรกรรายอื่นต่อ ส่งเสริมให้ปลูกฟ้าทะลายโจร กัญชา กัญชง ในพื้นที่ส.ป.ก.

นอกากยังบริหารจัดการอ.ต.ก. ยึดคลองเตยโมเดล ยกระดับตลาด อ.ต.ก. ตามภูมิภาคให้เป็นตลาดสินค้าเกษตร พร้อมทั้งปรับโครงสร้าง ตลาด อ.ต.ก. ที่จตุจักร ล้างบางมาเฟียที่ขายหรือปล่อยแผงต่อ ถือเป็นการเอาเปรียบผู้มาใช้บริการ ตั้งเป้าหมายจะสร้างสินค้าที่เป็นแบรนด์ อ.ต.ก. แล้วส่งออก สร้างรายได้ให้กับองค์กร