ททท.ปักธงปี 67 ดึงคู่รักฮ่องกงแต่งงานในไทย 1 ล้านคน

ททท.ปักธงปี 67 ดึงคู่รักฮ่องกงแต่งงานในไทย 1 ล้านคน

ททท.รุกตลาดคู่รักฮ่องกงแต่งงานในไทย ปักธงปี 67 ดึงคนรุ่นใหม่กระเป๋าหนัก เที่ยวไทยเพิ่ม ตั้งเป้าถึง 1 ล้านคน

นางพรมนต์ จันทร์ศรี ผู้อำนวยการสำนักงานฮ่องกง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า นักท่องเที่ยวชาวฮ่องกงถือเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูง โดยเฉพาะกลุ่มคู่รักแต่งงาน ดังนั้น ในปี 67 ททท.จึงวางแผนส่งเสริมการตลาดเพื่อดึงนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ให้เดินทางเข้ามาแต่งงานในไทยเพิ่มมากขึ้น ซึ่งมั่นใจว่ากลยุทธ์การดึงคู่แต่งงานชาวฮ่องกงมาจัดที่ไทยจะได้รับความนิยมอย่างสูง เพราะมีแหล่งท่องเที่ยวหลากหลาย สามารถดึงดูดชาวฮ่องกงได้ดี โดยเฉพาะหาดทราย ชายทะเล 

“แต่ละปีจะมีกลุ่มคู่รักแต่งงานชาวฮ่องกงประมาณ  50,000 คู่  ในจำนวนนี้มีกลุ่มที่นิยมเดินทางไปจัดงานที่ต่างประเทศในสัดส่วนประมาณ 10% โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ เป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง ซึ่งนิยมความสะดวกสบาย และยินดีใช้จ่ายเพื่อจัดงานแต่งที่ง่ายและคล่องตัว ซึ่งตรงนี้ไทยมีความได้เปรียบเพราะสามารถเลือกสถานที่จัดงานได้หลากหลาย และดูฤกษ์การแต่งที่รวดเร็ว ต่างจากการจัดงานแต่งในฮ่องกง ที่ต้องลงทะเบียนรอคิวนานหลายเดือน และจองคิวโรงแรมล่วงหน้านาน ซึ่งอาจต้องวางแผนข้ามปีรวมถึงค่าใช้จ่ายที่สูง ก็เป็นเหตุผลส่วนหนึ่งที่ทำให้คู่รักชาวฮ่องกงที่มีฐานะดี นิยมเดินทางไปแต่งงานที่ต่างประเทศแทน”

นางพรมนต์ กล่าวว่า สำหรับสถานการณ์ชาวฮ่องกงที่เดินทางเข้าไทยช่วง 7 เดือน (ม.ค. - ก.ค. 66) มีจำนวน 454,008 คน โดย ททท. วางเป้าหมายนักท่องเที่ยวฮ่องกงเดินทางเข้าไทยปี 66 ไว้ที่ 700,000 คน  และมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยตก  10,000 บาทต่อคนต่อวันหรือ 30,000 บาทต่อคนต่อทริป เพิ่มขึ้นจาก7,000 บาทต่อคนต่อวันหรือประมาณ 21,000 บาทต่อคนต่อทริปในปี 62 ส่วนปี 67 ตั้งเป้าหมายเพิ่มค่าใช้จ่ายนักท่องเที่ยวฮ่องกงขึ้นอีก 10%  และเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวชาวฮ่องกงให้ถึง 1 ล้านคน

“ความได้เปรียบของประเทศไทย คือสามารถเดินทางมาได้โดยง่าย ใช้เวลาบินเพียง 3 ชั่วโมง ทำให้ประเทศไทย เป็นจุดหมายปลายทางอันดับ 2 ของชาวฮ่องกง รองจากญี่ปุ่น โดยสถานที่ยอดนิยมเป็นกรุงเทพฯ ภูเก็ต สมุย เชียงใหม่  อย่างไรก็ตาม อุปสรรคที่เป็นปัญหาต่อการขยายตลาดการท่องเที่ยวในฮ่องกงคือสายการบินไม่เพียงพอ เพราะหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ทำให้บางสายการบินยังไม่กลับมาทำการบินเส้นทางไทย-ฮ่องกง มากเท่าที่ควร”

ด้านน.ส.นภารัตน์ วุฒิวัฒน์ ผู้อำนวยการกองบริหารความเสี่ยง และอดีต ผู้อำนวยการสำนักงาน ทททสำนักงานฮ่องกง กล่าวว่า พฤติกรรมนักท่องเที่ยวชาวฮ่องกงเทียบระหว่างก่อนเกิดโควิด และหลังโควิดก่อนโควิดมักจองที่พักพร้อมตั๋วเครื่องบิน แต่พอหลังโควิดมัก จองตั๋วเครื่องบินโปรโมชั่นก่อนเพื่อให้เกิดความคุ้มค่า เพราะหลังโควิดตั๋วเครื่องบินจะราคาแพง และหากได้ตั๋วโปรฯ แล้วก็มักจะค่อยจองที่พักตามมา 

ดังนั้น สิ่งที่อยากส่งไม้ต่อ  คือ การเน้นทำงานร่วมกับสายการบินให้มาก เพื่อจัดโปรโมชั่นอย่างต่อเนื่องขณะเดียวกันฮ่องกงเป็นตลาดเก่า นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นกลุ่มที่เดินทางมาเที่ยวไทยซ้ำถึง 80% และนักท่องเที่ยวหน้าใหม่เพียง 20% ดังนั้น จึงจำเป็นต้องมุ่งหาเจาะตลาดนักท่องเที่ยวใหม่เข้ามาในตลาดโดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ ที่มีการใช้จ่ายสูง แต่ก็ต้องหาที่พักที่หรูหรา หรือกิจกรรมใหม่ๆ  เพื่อดึงดูดการเดินทางด้วย