ส.อ.ท.ห่วงตั้งรัฐบาลล่าช้าฉุดจีดีพี 1-1.5%

การท่องเที่ยวจะเป็นเครื่องยนต์หลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจปีนี้ ซึ่งหากการจัดตั้งรัฐบาลเกิดความล่าช้า มีการประท้วง และการเมืองขาดเสถียรภาพไม่เป็นไปตามไทม์ไลน์ในเดือนส.ค. อาจทำให้ต่างชาติตัดสินใจไม่เข้ามาท่องเที่ยวในช่วงปลายปี

นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ระบุว่า การท่องเที่ยวจะเป็นเครื่องยนต์หลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจปีนี้ ซึ่งหากการจัดตั้งรัฐบาลเกิดความล่าช้า มีการประท้วงและการเมืองขาดเสถียรภาพไม่เป็นไปตามไทม์ไลน์ในเดือนส.ค. อาจทำให้ต่างชาติตัดสินใจไม่เข้ามาท่องเที่ยวในช่วงปลายปี กระทบต่อการเติบโตเศรษฐกิจในระยะสั้น ทำให้จีดีพีปรับลดลงมาที่ 2.0-2.5% จากคาดขยายตัว  3.0-3.5% รวมทั้งยังมีผลกระทบระยะยาวคือ ต่างชาติเปลี่ยนใจไม่ลงทุนในไทยแต่หันไปหาคู่แข่งในภูมิภาคนี้แทน

ทั้งนี้ รัฐบาลใหม่ที่จะเข้ามาบริหารประเทศ ต้องให้ความสำคัญในการดูแลนักท่องเที่ยวให้สะดวก ปลอดภัย สร้างแรงจูงใจดึงดูดให้เดินทางเข้าประเทศมากขึ้น โดยภาครัฐควรมีมาตรการสนับสนุนเพื่อสร้างความมั่นใจให้นักท่องเที่ยวต่อเนื่อง 

นอกจากนี้ปัญหาคอขวดการเพิ่มจำนวนเครื่องบินให้กับสายการบินของไทยยังเป็นอุปสรรคต่อการท่องเที่ยว รวมทั้งยังต้องแก้ปัญหาขาดแคลนน้ำตามพื้นที่ท่องเที่ยวที่สำคัญ โดยเฉพาะตามเกาะต่างๆ 

นอกจากนี้ไทยมีโอกาสดึงดูดนักธุรกิจจากต่างประเทศเข้ามาลงทุน และทำงาน จากอานิสงส์ความขัดแย้งภูมิรัฐศาสตร์ส่งผลให้ย้ายฐานการผลิต ภาครัฐต้องเร่งปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานรองรับการลงทุน โดยเฉพาะการปฏิรูปกฎหมายเพื่อยกระดับความสะดวกในการดำเนินธุรกิจ (Ease of Doing Business) เช่น การปรับปรุงการขอวีซ่าให้สะดวกขึ้น รวมถึงความต่อเนื่องของการเจรจาการค้าเสรี (FTA) ระหว่างไทย และสหภาพยุโรป (EU)
“ตอนนี้ไทยเป็นเป้าหมาย และเป็นที่จับตามองของนักลงทุนทั่วโลก  ซึ่งการจัดตั้งรัฐบาลและการสร้างเสถียรภาพทางการเมืองได้เร็วจะยิ่งส่งผลดีต่อเศรษฐกิจโดยรวม”

 

 

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์