จีนผงาดขึ้นแท่น ผู้นำการส่งออกรถยนต์พลังงานใหม่โลก

จีนผงาดขึ้นแท่น ผู้นำการส่งออกรถยนต์พลังงานใหม่โลก

จีนส่งออกรถยนต์พลังงานใหม่ไตรมาสแรก ปี 66 จำนวน 248,000 คัน เพิ่มขึ้น 1.1 เท่า ด้านทูตพาณิชย์ เมืองเซี่ยเหมิน ชี้ จีนก้าวขึ้นแท่นผู้นำส่งออกรถยนต์พลังงานใหม่ ช่วยสร้างโอกาสดันไทยเป็นศูนย์กลางการผลิต ส่งออกอะไหล่และชิ้นส่วนรถยนต์ในตลาดโลก

ปัจจุบันหลายประเทศทั่วโลกกำลังประสบปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งเป็นผลมาจากการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และก๊าซเรือนกระจกอื่นๆ ออกสู่บรรยากาศโลกในช่วง150 กว่าปีที่ผ่านมาจากอุตสาหกรรมต่างๆทั้งภาคการผลิต ภาคการคมนาคมขนส่ง  เกิดสภาวะโลกร้อน ภัยแล้ง น้ำท่วม และอื่น โดยเฉพาะอุตสาหกรรมยานยนต์ที่เป็นตัวปล่อยปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในลำดับต้นๆ

ล่าสุดข้อมูลจากกรีนพีซ (Greenpeace) องค์กรรณรงค์ด้านสิ่งแวดล้อม เปิดเผยรายงานฉบับใหม่ ระบุว่า ผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำของโลกกำลังผลิตก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ประมาณ 74 ล้านตันในแต่ละปี เนื่องจากความล้มเหลวในการแยกคาร์บอนออกจากกระบวนการใช้เหล็กเพื่อผลิตยานยนต์

ส่งผลให้หลายประเทศหันกลับมาดูแลสภาพแวดล้อมมากขึ้น และรณณรงค์พัฒนาการใช้พลังงานทดแทนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะการผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้าจึงกลายเป็นตัวเลือกสำคัญอันดับต้นๆ ที่กำลังเป็นเทรนด์ใหม่ของอุตสาหกรรมยานยนต์  ซึ่งประเทศจีนถือเป็นผู้ผลิตและผู้ส่งออกยานยนต์ในลำดับต้นๆของโลกก็หันมาให้ความสำคัญในเรื่องนี้

จากข้อมูลจากศุลกากรจีน แสดงให้เห็นว่า ในปี 2565 ปริมาณการส่งออกรถยนต์ของประเทศจีนสูงถึง 3.11 ล้านคัน ซึ่งสูงเป็นประวัติการณ์ โดยแซงหน้าผู้ส่งออกรายใหญ่อย่างเยอรมนี จีนขึ้นมาเป็นผู้ส่งออกรถยนต์รายใหญ่อันดับ 2 ของโลกรองจากประเทศญี่ปุ่น ในจำนวนนี้ มีการส่งออกรถยนต์พลังงานใหม่ถึง 679,000 คัน เพิ่มขึ้นถึง 1.2 เท่าเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า คิดเป็นสัดส่วน 63 %ของยอดขายรถยนต์พลังงานใหม่จากทั่วโลก 

ในปี 2566 การส่งออกรถยนต์พลังงานใหม่ยังคงขยายตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ข้อมูลจากสมาคมอุตสาหกรรมยานยนต์แห่งประเทศจีน ระบุว่า ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2566 จีนส่งออกรถยนต์พลังงานใหม่แล้ว 248,000 คัน เพิ่มขึ้น 1.1 เท่า  โดยรถยนต์พลังงานใหม่อย่างแบรนด์ BYD, CHERY และ NETA เป็นต้น มีอัตราการส่งออกเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง 

ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2566 นอกจาก รถยนต์พลังงานใหม่จะมีอัตราการส่งออกเพิ่มขึ้นแล้ว การส่งออกผลิตภัณฑ์แบตเตอรี่ลิเธียมก็ยังมีแนวโน้มพัฒนาเติบโตขึ้นเช่นกัน ในประเทศแถบอเมริกาและยุโรปมีนโยบายสมทบเงินในด้านรถยนต์พลังงานใหม่ บวกกับความต้องการแบตเตอรี่ลิเธียมเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ประเทศแถบอเมริกาและยุโรปกลายเป็นตลาดศักยภาพในการบริโภคแบตเตอรี่ โดยในช่วงไตรมาสแรกของปี 2566 มีมูลค่าการส่งออกแบตเตอรี่ลิเธียมของจีนอยู่ที่ 109,790 ล้านหยวน เพิ่มขึ้น 94.3 % ปริมาณการส่งออกคิดเป็น 25.8 GWh 

นางสาวนันท์นภัส งามแม้น ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองเซี่ยเหมิน ประเทศจีน เผยว่า  ปัจจุบัน ทั่วโลกกำลังให้ความสนใจสินค้าและบริการที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม อุตสาหกรรมยานยนต์พลังงานใหม่ก็กลายเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่ได้รับความสนจากทั่วโลกเป็นอย่างมาก ซึ่งจีนได้กลายเป็นหนึ่งในประเทศผู้นำในตลาดรถยนต์และแบตเตอรี่ไฟฟ้าของโลก

“การเติบโตของอุตสาหกรรมยานยนต์จีนจะเป็นหนึ่งในโอกาสของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยในการสร้างโอกาสการพัฒนาศักยภาพทางธุรกิจ เพื่อยกระดับตลาดยานยนต์ไทยสู่การเป็นศูนย์กลางการผลิต ส่งออกอะไหล่และชิ้นส่วนรถยนต์ไฟฟ้าไปสู่ตลาดโลกในอนาคต”

 นอกจากนี้ ยังส่งผลดีต่ออุตสาหกรรมกรรมที่เกี่ยวข้องต่างๆ อาทิ อุตสาหกรรมยางพารา ในการผลิตชิ้นส่วนประกอบในรถยนต์อย่าง ล้อรถ ท้อยาง และแผ่นพลาสติกรถยนต์เป็นต้น ในการส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น