"การบินไทย" ลุยควบ“ไทยสมายล์” ยื่นคณะกรรมการเจ้าหนี้อนุมัติ

"การบินไทย" ลุยควบ“ไทยสมายล์”  ยื่นคณะกรรมการเจ้าหนี้อนุมัติ

ครม.รับทราบแผนยุบไทยสมายด์รวมการบินไทย เตรียมถ่ายโอนพนักงาน-เครื่องบินปีนี้ ลุ้นคณะกรรมการเจ้าหนี้เห็นชอบแผนควบรวม 17 พ.ค.นี้ ย้ำคงสัดส่วนถือหุ้นภาครัฐ เพื่อฐานะสายการบินแห่งชาติ เดินหน้าแผนปรับโครงสร้างองค์กร เล็งกลับเข้าเทรดตลาดหลักทรัพย์ไตรมาส 4

ผลดำเนินงานของสายการบินไทยสมายล์ยังคงย่ำแย่เนื่อง โดยล่าสุดไตรมาส 1 ปี 2566 รายได้รวม 1,217 ล้านบาท เทียบช่วงเดียวกันกับปีที่แล้วเพิ่มขึ้น 152% แต่ยังขาดทุนสุทธิ 1,402 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 106% เป็นการขาดทุนต่อเนื่องนับตั้งแต่ตั้งสายกาบินเมื่อปี 2556 ในสมัยนายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ เป็นกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) รวมขาดทุนสะสม 20,012 ล้านบาท

การดำเนินการตามแผนฟื้นฟูกิจการการบินไทย ส่วนหนึ่งของการปรับโครงสร้างธุรกิจจะมีการยุบรวมสายการบินไทยสมายล์เข้ากับสายการบินไทย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้เครื่องบิน

นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบรายงานความคืบหน้าการดำเนินงานของคณะกรรมการติดตามการดำเนินการแก้ไขปัญหา การบินไทย ครั้งที่ 1/2566 ที่ประชุมเมื่อวันที่ 8 พ.ค.2566

 

สำหรับการปรับโครงสร้างกลุ่มธุรกิจการบินและการบริหารโครงสร้างกลุ่มธุรกิจการบิน ประกอบด้วยกิจการการบินของการบินไทย  และไทยสมายล์แอร์เวย์ ตามแนวทางที่ระบุในแผนฟื้นฟูกิจการ ซึ่งยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาการขาดทุนของไทยสมายล์แอร์เวย์ ที่มีผลการดำเนินงานขาดทุนสะสมอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2556 จำนวน 20,012 ล้านบาท และมีส่วนผู้ถือหุ้นติดลบ 18,166 ล้านบาท 

เตรียมโอนคน-เครื่องบิน

รวมทั้งสถานการณ์ดังกล่าวถือว่ามีความเสี่ยงในการขาดสภาพคล่อง หากไม่ได้รับการช่วยเหลือจากการบินไทย โดยแนวทางการปรับโครงสร้างกลุ่มธุรกิจ ควรดำเนินการ ได้แก่ 

1.รับโอนอากาศยานแบบแอร์บัส 320 ที่ไทยสมายล์แอร์เวย์ เช่าดำเนินการ 20 ลำ โดยจะทยอยรับโอนตั้งแต่เดือน พ.ค.-ธ.ค.2566 พร้อมปรับปรุงแผนธุรกิจของ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) และ ไทยสมายล์แอร์เวย์

3.เพิ่มประสิทธิภาพและความคล่องตัวในการบริหารเส้นทางการบิน ลดข้อจำกัดในการวางแผนเครือข่ายเส้นทางการบินให้เชื่อมต่อกัน การบริหารเวลาการบินและสิทธิการบินในเส้นทางการบินต่าง ๆ เช่น การจำหน่ายบัตรโดยสารในรูปแบบการเชื่อมต่อเครือข่าย เที่ยวบิน และการบริหารจัดการต้นทุน

สำหรับแนวทางการปรับปรุงประสิทธิภาพฝูงบิน การบินไทย และไทยสมายล์แอร์เวย์ มีอากาศยานที่ใช้ทำการบินรวม 64 ลำ ซึ่งบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ได้ดำเนินการขออนุญาตจัดหาอากาศยานเพิ่มเติมโดยเช่าดำเนินงาน 13 ลำ และมีอากาศยานที่อยู่ระหว่างจัดหาตามแผนการจัดหาอากาศยานปี 2567-2568 อีกจำนวน 9 ลำ

ชงคณะกรรมการเจ้าหนี้อนุมัติ

แหล่งข่าวจากการบินไทย กล่าวว่า การบินไทยได้ศึกษาข้อดีและข้อเสียในการควบรวมสายการบินไทยสมายล์แล้วเสร็จ เตรียมนำเสนอแผนดังกล่าวเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการเจ้าหนี้ในวันที่ 17 พ.ค.2566 และถ้าได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการเจ้าหนี้ก็จะรายงานผลไปยังตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) และดำเนินการยกเลิกสัญญาเช่าเครื่องบินแอร์บัส A320 จำนวน 20 ลำ ที่สายการบินไทยสมายล์ทำสัญญาเช่าจากการบินไทย และเริ่มขั้นตอนเร่งโอนย้ายฝูงบินทั้งหมดนี้กลับมายังการบินไทยเป็นเจ้าของในการบริหารทำการบิน

รวมทั้งจะมีการยกเลิกรหัสการบิน WE ของไทยสมายล์ และใช้รหัส TG ของการบินไทยทั้งหมด โดยจะมาใช้สิทธิการบินเดียวกัน และการบินไทยจะนำเครื่องบินแอร์บัส A320 ของไทยสมายล์ไปทำการบินเส้นทางระยะใกล้

ตุนกระแสเงินสด4.5หมื่นล้าน

นายอนุชา กล่าวว่า สำหรับการดำเนินงานของการบินไทย ผลประกอบการปัจจุบัน ไตรมาส 1 ปี2566 มีรายได้จากการขนส่งผู้โดยสารจำนวน 32,106 ล้านบาท อัตราบรรทุกผู้โดยสารของสายการบินไทย 84% และไทยสมายล์แอร์เวย์ 79.7% โดยมีปริมาณการเดินทางของผู้โดยสารรวมของการบินไทย 2.19 ล้านคน และไทยสมายล์แอร์เวย์ 1.33 ล้านคน

ทั้งนี้ สถานการณ์เติบโตต่อเนื่องหลังจากสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย และนโยบายการเปิดประเทศของไทยและต่างประเทศ ปัจจุบันสถานะเงินสดคงเหลือ ณ วันที่ 2 พ.ค.2566 จำนวน 45,988 ล้านบาท ส่วนความคืบหน้าการดำเนินงานตามแผนปฏิรูปธุรกิจ สามารถลดต้นทุนดำเนินงานและเพิ่มรายได้ 64,400 ล้านบาทต่อปี ดีกว่าเป้าหมายที่กำหนด 58,000 ล้านบาทต่อปี

คงฐานะสายการบินแห่งชาติ

นอกจากนี้ ครม.รับทราบการคงสถานะสายการบินแห่งชาติ เนื่องจากการบินไทย มีสัดส่วนผู้ถือหุ้นสัญชาติไทย 83.93% ถือเป็นสัดส่วนการถือหุ้นที่มีความเหมาะสมสำหรับการกำหนดให้เป็นสายการบินแห่งชาติ เพื่อสนับสนุนการดำเนินภารกิจสำคัญต่างๆ ที่เป็นผลประโยชน์ของประเทศชาติ 

รวมถึงให้สามารถกลับเข้าร่วมในคณะกรรมการต่างๆ เช่น คณะกรรมการการจัดสรรเวลาเข้า-ออก ของเที่ยวบิน คณะกรรมการของผู้แทนของรัฐบาลเพื่อพิจารณาจัดทำความตกลงว่าด้วยการขนส่งทางอากาศกับรัฐบาลต่างประเทศเป็นประจำ

ส่วนการติดตามหนี้สินที่การบินไทย มีสิทธิเรียกร้องและทุนทรัพย์สูง โดยธนาคารเจ้าหนี้ ได้แก่ ธนาคารออมสิน และ ธนาคารกรุงไทย โดยได้นำเงินฝากในบัญชีกองทุนบำเหน็จพนักงานการบินไทยหักกลบหนี้ตามมูลหนี้ ที่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) มีต่อธนาคาร

ทั้งนี้การบินไทยได้ขอสนับสนุนจากภาครัฐ เพิ่มเติมได้แก่ ขอให้กระทรวงการคลังให้การสนับสนุนการใช้สิทธิเข้าซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เพื่อให้ สามารถดำเนินการจัดสรรและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนไว้ตามแผนที่วางไว้และสามารถออกจาก แผนฟื้นฟูกิจการได้เร็วขึ้น

รวมทั้งขอสนับสนุนให้ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) คงสถานะเป็นสายการบินแห่งชาติ โดยให้กระทรวงการคลัง กระทรวงคมนาคมและบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หารือในรายละเอียดให้เกิดความเหมาะสมเพื่อเสนอ ครม.พิจารณาตามขั้นตอนต่อไป ขอให้กระทรวงคมนาคมและสำนักงาน การบินพลเรือนแห่งประเทศไทย อนุญาตให้ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) รับอากาศยานที่จัดหา ตามแผนฟื้นฟูกิจการและตามแผนธุรกิจที่ได้รับความเห็นชอบแล้วเข้าประจำการในฝูงบินไม่ล่าช้า

ขายหุ้นเพิ่มทุนไตรมาส2ปีหน้า

สำหรับการดำเนินการปรับโครงสร้างทุน โดยในการดำเนินการแปลงหนี้เป็นทุนและการจัดสรรเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้นของผู้ถือหุ้นเดิม ไม่จัดสรรและเสนอขายให้ผู้ถือหุ้นที่จะทำให้ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) มีหน้าที่ตามกฎหมายระหว่างประเทศ โดยจะดำเนินการ ดังนี้

1.การใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของผู้สนับสนุนสินเชื่อใหม่เฉพาะผู้ให้สินเชื่อในรูปแบบสินเชื่อระยะยาวในจำนวนเดียวกับจำนวนหนี้สินเชื่อใหม่ที่เบิกใช้จริง หรือการเลือกชำระค่าหุ้นสามัญเพิ่มทุนโดยการแปลงหนี้เงินต้นเดิมตามแผนเป็นหุ้นสามัญเพิ่มทุน จำนวน 4,911 ล้านหุ้น ที่ราคา 2.5452 บาทต่อหุ้น

2.การแปลงหนี้เป็นหุ้นสามัญเพิ่มทุนเพื่อชำระหนี้เงินต้นคงค้างของเจ้าหนี้ กลุ่มที่ 4 (กระทรวงการคลัง) ในสัดส่วน 100% ของภาระหนี้เงินต้นคงค้าง (ประมาณ 12,827 ล้านบาท) จำนวน 5,040 ล้านหุ้น ที่ราคา 2.5452 บาทต่อหุ้น

3.การแปลงหนี้เป็นหุ้นสามัญเพิ่มทุนเพื่อชำระหนี้เงินต้นคงค้างของเจ้าหนี้กลุ่มที่ 5 (เจ้าหนี้สถาบันการเงินที่มีสิทธิตามสัญญาโอนสิทธิในการได้รับเงินจากการขายอากาศยาน) เจ้าหนี้ กลุ่มที่ 6 (เจ้าหนี้สถาบันการเงินไม่มีประกัน) และเจ้าหนี้กลุ่มที่ 18-31 (เจ้าหนี้ผู้ถือหุ้นกู้) ในสัดส่วนร้อยละ 24.50 ของภาระหนี้เงินต้นคงค้าง (รวม 25,000 ล้านบาท) จำนวน 9,822 ล้านหุ้นที่ราคา 2.5452 บาทต่อหุ้น

4.การใช้สิทธิแปลงหนี้ดอกเบี้ยใหม่ตั้งพักเป็นหุ้นสามัญเพิ่มทุนของเจ้าหนี้กลุ่มที่ 4-6 และเจ้าหนี้กลุ่มที่ 18-31 (ประมาณ 4,845 ล้านบาท) จำนวน 1,904 ล้านหุ้น ที่ราคา 2.5452 บาทต่อหุ้น และ 5)การเสนอขายหุ้นเพิ่มทุน Preferential Public Offering (PPO) จำนวน 9,822 ล้านหุ้น ที่ราคาไม่ต่ำกว่า 2.5452 บาทต่อหุ้น

ทั้งนี้ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) จะดำเนินการแปลงหนี้เป็นทุนและเสนอขายหุ้นเพิ่มทุน PPO ในช่วงไตรมาส 2 ปี 2567 ซึ่งจะทำให้มีส่วนของผู้ถือหุ้น จำนวน 28,685 ล้านบาท เพื่อให้ สามารถกลับไปซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ ภายในไตรมาส 4 ปี 2567