พาณิชย์ยันดูแลต้นทุนราคาอาหารสัตว์ ยังไม่ให้ขึ้นราคา

พาณิชย์ยันดูแลต้นทุนราคาอาหารสัตว์ ยังไม่ให้ขึ้นราคา

กรมการค้าภายใน เผย ถกเอกชนเลี้ยงหมู ดูต้นทุนอาหารสัตว์ ยันราคาไม่ขึ้น พร้อมหนุนจัดการหมูเถื่อน ขณะที่ราคาผักสดปรับขึ้น จากอากาศร้อน คาดปลายเดือนกลับสู่ภาวะปกติหลังเข้าฤดูฝน ส่วนปุ๋ยเคมี ยาป้องกันและกำจัดศัตรูพืช ราคาลงต่อเนื่อง

นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า  กรมได้ติดตามสถานการณ์ราคาสินค้าอาหารสดอย่างต่อเนื่อง โดยราคาหมูเนื้อแดงลดต่อเนื่อง ราคาเฉลี่ยทั่วประเทศกิโลกรัมละ 140-145 บาท  ซึ่งขณะนี้สถานการณ์ต้นทุนอาหารสัตว์ปรับเพิ่มขึ้น กระทบต่อต้นการเลี้ยงสุกรมีชีวิต ล่าสุด กรมฯ ได้หารือร่วมกับสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ เพื่อติดตามสถานการณ์แล้ว และกำลังร่วมมือกันในการแก้ไขปัญหา โดยได้ยืนยันกับผู้เลี้ยงสุกรว่าราคาอาหารสัตว์จะไม่มีการปรับเพิ่มขึ้นราคา ซึ่งกรมฯ ได้ขอความร่วมมือกับผู้ผลิตไปแล้ว เพราะต้นทุนวัตถุดิบที่ใช้ทำอาหารสัตว์ราคาทรงตัว และบางรายการเริ่มปรับลดลง เช่น ถั่วเหลือง กากถั่วเหลือง ส่วนข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ราคาทรงตัว มันสำปะหลัง ราคาเพิ่มขึ้น แต่ภาพรวมถือว่าดีขึ้น

“กรมฯ เห็นใจผู้เลี้ยง เพราะต้นทุน ซึ่งขณะนี้กำลังเข้าไปช่วยดูแลในเรื่องต้นทุนอาหารสัตว์อยู่ สถานการณ์กำลังดีขึ้น และได้ขอความร่วมมือห้างค้าส่งค้าปลีก ให้จัดโปรโมชั่นลดราคาสินค้ากลุ่มอื่น ๆ ที่มีความจำเป็นต่อการครองชีพรายการอื่น ๆ แทนสินค้าหมูเนื้อแดง ที่ขณะนี้ ราคาถือว่าอยู่ในระดับปกติแล้ว รวมทั้งสนับสนุนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เดินหน้าสกัดหมูเถื่อน เพราะเป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญ ที่ทำให้ราคาหมูเป็นลดลง”นายวัฒนศักย์กล่าว

ส่วนราคาไก่ปรับขึ้นเล็กน้อย ไก่น่องติดสะโพก 85-90 บาทต่อกก. ไก่เนื้ออก 75-85 บาทต่อกก. ไข่ไก่ เบอร์ 3 เฉลี่ยฟองละ 3.81 บาท ส่วนผักสด ปรับขึ้นบ้าง เพราะอากาศร้อนและแล้ง ทำให้ผลผลิตโตช้า แต่คาดว่าจะกลับเข้าสู่ปกติในเร็ว ๆ นี้

นายกรนิจ โนนจุ้ย รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า ได้ติดตามสถานการณ์ราคาผัก โดยทำงานใกล้ชิดกับตลาดกลาง พบว่า ผลผลิตบางรายการปรับลดลงบ้าง จากสภาพอากาศร้อนและแล้ง และพื้นที่เพาะปลูกบางแห่งเจอพายุฤดูร้อน ทำให้ผลผลิตผักออกสู่ตลาดน้อยลง  แต่ขณะนี้ เริ่มมีฝนแล้ว และคาดว่าสถานการณ์ผักจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติช่วงปลายเดือนพ.ค.2566 เป็นต้นไป เช่น  มะละกอ ราคาทรงตัว แต่ผลผลิตออกช้ากว่าปกติ ผักชี ซึ่งเป็นผักไม่ชอบร้อนจัด แล้งจัด ราคาสูงขึ้น แต่อีก 2 สัปดาห์จะดีขึ้น กะหล่ำปลี ผักกาดขาว ราคาทรงตัว ส่วนมะนาว ขณะนี้ราคาเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติ และคาดว่าผลผลิตจะเริ่มออกมากตั้งแต่ช่วงปลายเดือนพ.ค.2566 เป็นต้นไป เพราะผลผลิตไม่ได้รับผลกระทบจากพายุฤดูร้อน เพราะติดลูกแล้ว ราคาก็น่าจะปรับลดลงต่อเนื่อง

ร.ต.จักรา ยอดมณี รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า ราคาปุ๋ยเคมี ซึ่งเป็นหนึ่งในต้นทุนการผลิตที่สำคัญของเกษตรกร ได้ปรับลดลงต่อเนื่อง โดยแม่ปุ๋ยราคาปรับลดลง 20-49% ได้แก่ แม่ปุ๋ยไนโตรเจน ยูเรีย 46-0-0 ราคาลดลง 49% แอมโมเนียมซัลเฟต 21-0-0 ราคาลดลง 41% แม่ปุ๋ยฟอสเฟส (P) ไดแอมโมเนียมฟอสเฟต 18-46-0 ราคาลดลง 20% และแม่ปุ๋ยโพแทส (K) โพแทสเซียมคลอไรด์ 0-0-60 ราคาลดลง 20% และมีสต็อกคงเหลือ ณ วันที่ 30 เม.ย.2566 อยู่ที่ 1.42 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 30% ส่วนยาป้องกันและกำจัดศัตรูพืช เช่น ยาฆ่าหญ้า ไกลโฟเซต ลด 19% ยาฆ่าแมลง อะบาเม็กติน ลด 14% ซึ่งกรมฯ ได้ขอให้ผู้ประกอบการปรับลดราคาให้สอดคล้องกับต้นทุนที่ลดลงแล้ว