การแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจในประเทศไทย | ปรมะ ตันเดชาวัฒน์

การแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจในประเทศไทย | ปรมะ ตันเดชาวัฒน์

เศรษฐกิจของประเทศไทยมีปัญหาหลายอย่างที่ต้องรับมือ เช่น การเติบโตของเศรษฐกิจที่ช้าลง ความยากลำบากในการหางานทำสำหรับประชากรในช่วงเวลาที่ยังมีการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีอย่างรวดเร็ว และปัญหาทางสังคมที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจอย่างมาก

  • โดยในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจในประเทศไทย จำเป็นต้องมีการใช้กลยุทธ์หลายอย่าง เพื่อให้สามารถพัฒนาเศรษฐกิจไปในทิศทางที่ถูกต้องและยั่งยืน ดังนี้

การเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานแรงงาน: การฝึกอบรมและเพิ่มความสามารถให้แรงงานของประเทศ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตและบริการ รวมถึงเพิ่มรายได้ของประชากรต่อหัวให้มากขึ้น

การส่งเสริมการลงทุน: การส่งเสริมการลงทุนโดยเฉพาะในอุตสาหกรรมการผลิตที่มีการนำเข้าสู่การผลิตในประเทศ เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลก โดยให้ประเทศมีการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมในการผลิต

การพัฒนาสถาบันการศึกษา: การพัฒนาสถาบันการศึกษาให้มีคุณภาพและเป็นไปในทิศทางที่สอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงาน ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานแรงงานและเพิ่มความสามารถในการผลิตและบริการ

การส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ: การเพิ่มการค้าระหว่างประเทศและการลงทุนจากต่างประเทศ ช่วยเพิ่มรายได้ของประเทศและเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน ซึ่งปัจจุบันการส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศเป็นปัจจัยที่สำคัญอย่างมากเพราะเนื่องจากเศรษฐกิจภายในประเทศยังไม่ฟื้นตัว 

ผู้ประกอบการหลายรายบอบช้ำกับวิกฤติไวรัสโควิดที่แพร่เชื้อและพบเจอกับผลกระทบที่ต่อเนื่องหลังพ้นจากการแพร่ระบาด ทำให้ประเทศไทยยังไม่สามารถฟื้นตัวได้ด้วยตนเอง

ประกอบกับรัฐได้มีการใช้จ่ายเงินภายในประเทศเป็นจำนวนมากเพื่อดูแลประชาชนในประเทศด้านสาธารณสุขและเยียวยาผู้ประกอบการที่ได้ต่างได้รับผลกระทบเป็นจำนวนมาก

  • การส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศมีหลายวิธีที่สามารถนำมาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการค้าระหว่างประเทศและส่งเสริมการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจไทยได้ เช่น

1. การลดอุปสรรคทางกฎหมายและการปกครอง: การลดอุปสรรคทางกฎหมายและการปกครอง เช่น การปรับปรุงระบบภาษีและประกันสังคม ทำให้เกิดความเป็นมาตรฐานในการดำเนินธุรกิจและสร้างความเชื่อมั่นในการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ

2. การสร้างศูนย์กลางการค้า: การสร้างศูนย์กลางการค้าใหญ่ ที่เชื่อมโยงกับภูมิภาคอื่นๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ช่วยเพิ่มโอกาสในการส่งออกสินค้าไปยังตลาดต่างประเทศ และช่วยเพิ่มการลงทุนต่างชาติในประเทศ

3. การสร้างเครือข่ายธุรกิจ: การสร้างเครือข่ายธุรกิจระหว่างประเทศ เช่น การเข้าร่วมงานเวทีการแสดงสินค้าและการประชุมธุรกิจต่างๆ ช่วยเพิ่มโอกาสในการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการต่างๆ และช่วยเชื่อมโยงธุรกิจในประเทศกับธุรกิจในต่างประเทศ

4. การส่งเสริมองค์ความรู้และนวัตกรรม: ควรส่งเสริมองค์ความรู้ในการสร้างสถานที่ท่องเที่ยวและการบริการที่มีคุณค่า (Share Value) ให้เชื่อมต่อระหว่างนักท่องเที่ยวสู่ชุมชน เพื่อเพิ่มความสามารถในการดึงดูดนักท่องเที่ยวและช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจในพื้นที่นั้นๆ ในการสร้างสถานที่ท่องเที่ยวและการบริการที่มีคุณค่านั้น ต้องมีการรวมกลุ่มของธุรกิจเล็กและกลาง 

รวมถึงการสนับสนุนจากภาครัฐและเอกชน เพื่อสร้างชุมชนที่เข้มแข็งและมีความสามารถในการดูแลนักท่องเที่ยว อีกทั้งยังควรส่งเสริมการลงทุนในเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่มีการใช้งานและพัฒนาโดยธุรกิจเล็กและกลาง

เช่น การพัฒนาซอฟต์แวร์และแอปพลิเคชัน การพัฒนาเว็บไซต์และเทคโนโลยีการตลาดออนไลน์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำธุรกิจและการเข้าถึงตลาดทั้งในและต่างประเทศ

5. การส่งเสริมการท่องเที่ยว: การส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศ ช่วยเพิ่มรายได้ให้กับภูมิภาคต่างๆ และเพิ่มโอกาสในการขายสินค้าที่สร้างจากภูมิภาคนั้นๆ ให้กับตลาดต่างประเทศ

นอกจากนี้ การส่งเสริมการท่องเที่ยวยังช่วยสร้างความรู้สึกทางวัฒนธรรมและความเป็นไทยให้กับนักท่องเที่ยว ซึ่งส่งผลให้นักท่องเที่ยวกลับมาเยี่ยมชมและซื้อสินค้ากลับประเทศ

ดังนั้น การที่จะทำให้เศรษฐกิจของประเทศไทยเรานั้นฟื้นตัวและเข้าสู่การแข่งขันในระดับสากลได้นั้น ลำพังผู้ประกอบการอาจมิสามารถต่อสู้ได้ด้วยลำพัง คงต้องอาศัยการช่วยเหลือด้านนโยบายต่างๆ ของรัฐบาลเพื่อทำให้ประเทศไทยกลับสู่ยุคเศรษฐกิจที่รุ่งเรืองได้อีกครั้ง