'กกพ' เตรียมเปิดรอบ2ยื่นสิทธิ์ 'ขายไฟสะอาด' 3,668 เมกะวัตต์

'กกพ' เตรียมเปิดรอบ2ยื่นสิทธิ์ 'ขายไฟสะอาด' 3,668 เมกะวัตต์

‘กกพ’ จ่อเปิดยื่นสิทธิ์ขายไฟสะอาดรอบ 2 อีกกว่า 3,668 เมกะวัตต์ ภายหลังเคาะ 175 รายชื่อ ปริมาณเสนอขาย 4,852.26 เมกะวัตต์ ลุยเซ็นสัญญาซื้อขายไฟภายใน 19 เม.ย. 2566

การรับซื้อไฟฟ้าสะอาดที่เพิ่มขึ้นนี้จะช่วยลดแก้ปัญหาค่าไฟฟ้าแพงจากการต้องจ่ายค่าความพร้อมจ่าย (AP) ไฟฟ้าลงได้ ดังนั้น กระทรวงพลังงาน ยืนยันว่าจะไม่ทำให้ค่าไฟฟ้าแพงขึ้นแน่นอน และยังช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าลงได้ 1 พันล้านบาทในปี 2573 ของแผน PDP 2018 ด้วย เนื่องจากต้นทุนการผลิตไฟฟ้าพลังงานสะอาดถูกกว่าฟอสซิล

นายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) เปิดเผยว่า ภายหลังจากสำนักงาน กกพ. ได้ประกาศรายชื่อผู้ยื่นขอผลิตไฟฟ้าที่ผ่านเกณฑ์คะแนนความพร้อมทางด้านเทคนิคขั้นต่ำ ตามเกณฑ์ผ่านหรือไม่ผ่าน (Pass/Fail Basis) ตามระเบียบ กกพ. ว่าด้วยการจัดหาไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในรูปแบบ Feed-in Tariff (FiT) ปี 2565 – 2573 สำหรับกลุ่มไม่มีต้นทุนเชื้อเพลิง พ.ศ. 2565

ทั้งนี้ คณะกรรมการกิจการพลังงาน (บอร์ดกกพ.) เมื่อวันที่ 5 เม.ย. 2566 ได้พิจารณาเห็นชอบรายชื่อผู้ยื่นขอผลิตไฟฟ้าที่ได้รับการคัดเลือกตามระเบียบ กกพ. สำหรับกลุ่มไม่มีต้นทุนเชื้อเพลิง พ.ศ. 2565 ซึ่งมีผู้ผ่านการพิจารณาคัดเลือก จำนวน 175 ราย ปริมาณเสนอขาย 4,852.26 เมกะวัตต์ จากผู้ที่ผ่านการพิจารณาทั้งสิ้นรวม 670 โครงการ กว่า 1.7 หมื่นเมกะวัตต์โดยการไฟฟ้าฯ จะมีหนังสือแจ้งให้ผู้ยื่นขอผลิตไฟฟ้าที่ได้รับการคัดเลือกทราบและยอมรับเงื่อนไขการลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้า ภายในวันที่ 19 เม.ย. 2566 

นายคมกฤช กล่าวว่า สำหรับการเปิดรับซื้อไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนรอบที่ 2 จำนวน 3,668.5 เมกะวัตต์ สำนักงานกกพ. จะพิจารณาตามมติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ที่มีนายกรัฐมนตรี เป็นประธานต่อเนื่องในทันที ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในปี 2566 นี้ ส่วนก๊าซชีวภาพ (น้ำเสีย/ของเสีย) ที่ไม่มีผู้คัดเลือกในรอบ 1 จะมีการนำมาเปิดรับซื้อในรอบ 2 เช่นกัน

ส่วน ราคาค่าไฟฟ้าสีเขียว บอร์ดกกพ.จะพิจารณาในราคาที่เหมาะสมและเป็นต้นทุนที่แท้จริงที่สุด อาทิ ค่าใบรับรองการผลิตไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy Certificate: REC) เป็นต้น เบื้องต้น คาดว่าจะสรุปราคาค่าบริการได้กลางปีนี้ และจะออกประกาศได้ภายในไตรมาส 3 หรือภายในเดือน ก.ค.-ก.ย.2566

รายงานข่าว ระบุว่า ในการเปิดรับซื้อไฟสะอาดรอบ 2 เป็นไปตามมติ กพช. ถึงแผนการเพิ่มการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานสะอาด ภายใต้แผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย พ.ศ. 2561 – 2580 ฉบับปรับปรุงครั้งที่ 1 (PDP2018 Rev.1) ในช่วงปี พ.ศ. 2564 – 2573 (ปรับปรุงเพิ่มเติม ครั้งที่ 2) โดยให้เพิ่มสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนมากขึ้นจากเดิมที่กำหนดให้มีไฟฟ้าพลังงานทดแทน 9,996 เมกะวัตต์ ให้ปรับขึ้นเป็น 12,700 เมกะวัตต์

โดยการรับซื้อไฟฟ้าพลังงานทดแทนดังกล่าว จะเพิ่มจากพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดิน(โซลาร์ฟาร์ม),พลังงานลม, ไบโอแก๊ส,ขยะอุตสาหกรรม ประกอบกับทาง คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ได้รวบรวมโรงไฟฟ้าที่ไม่สามารถผลิตได้ตามแผน PDP 2018 ฉบับปรับปรุงครั้งที่ 1 เช่น ไฟฟ้าจาก สปป. ลาว ที่ไม่สามารถผลิตไฟฟ้าเข้าระบบได้ทันในปี 2571 และรวบรวมทั้งในส่วนที่ผลิตเข้าระบบไม่ทันตามแผน PDP และที่ กพช. เห็นชอบให้รับซื้อไฟฟ้าพลังงานทดแทนเพิ่มขึ้นดังกล่าว เพื่อนำมาเปิดรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนเพิ่มขึ้นรวม 3,668.5 เมกะวัตต์ จากรอบแรกที่เพิ่งเปิดรับซื้ออยู่ 5,203 เมกะวัตต์ใน