บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ รายเก่า มีเงินเหลืออยู่ในช่อง e-Money ทำยังไง ?

บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ รายเก่า มีเงินเหลืออยู่ในช่อง e-Money ทำยังไง ?

บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ รายเก่า หมดอายุ 31 มีนาคม 2566 เวลา 22.00 น. แต่ยังมีเงินเหลืออยู่ในช่อง e-Money ต้องทำยังไง ? เช็กรายละเอียดที่นี่ !

เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2566 นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือ บัตรคนจน (ผู้มีบัตรฯ) ตามโครงการฯ ปี 2560 และปี 2561 ซึ่งในปัจจุบันมีจำนวนกว่า 13.1 ล้านรายสามารถใช้ สิทธิสวัสดิการแห่งรัฐ ผ่าน "บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ" ได้จนถึงระยะเวลาที่กระทรวงการคลังกำหนด โดยมีรายละเอียด ดังนี้

1. การใช้วงเงินสิทธิสวัสดิการหลัก สามารถใช้ได้ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2566 ภายในเวลา 22.00 น. ดังนี้

1.1 วงเงินค่าซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็น สินค้าเพื่อการศึกษา และวัตถุดิบเพื่อเกษตรกรรมจากร้านธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น (ร้านธงฟ้าฯ) และร้านอื่น ๆ ตามที่กระทรวงพาณิชย์กำหนด จำนวน 200 บาทต่อคนต่อเดือน หรือ 300 บาทต่อคนต่อเดือน

1.2 วงเงินส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้มจากร้านค้าตามที่กระทรวงพลังงานกำหนด จำนวน 45 บาทต่อคนต่อ 3 เดือน

1.3 วงเงินค่าโดยสารรถองค์การขนส่งมวลขนกรุงเทพ (ขสมก.) ระบบ e-Ticket /รถไฟฟ้า จำนวน 500 บาทต่อคนต่อเดือน

1.4 วงเงินค่าโดยสารรถ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) จำนวน 500 บาทต่อคนต่อเดือน

1.5 วงเงินค่าโดยสารรถไฟ จำนวน 500 บาทต่อคนต่อเดือน

2. มาตรการการจ่ายเงินเพิ่มเบี้ยความพิการ 200 บาทต่อเดือน กระทรวงการคลัง โดย กรมบัญชีกลาง ได้ดำเนินการเบิกจ่ายเงินเพิ่มเบี้ยความพิการให้แก่ผู้พิการที่มีบัตรประจำตัวคนพิการและมี "บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ" ประจำเดือนมีนาคม 2566 ผ่านกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Money) เรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2566

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

3. มาตรการบรรเทาภาระค่าไฟฟ้า และมาตรการบรรเทาภาระค่าน้ำประปาประจำเดือนมีนาคม 2566 ผู้มีบัตรคนจน ตามโครงการฯ ปี 2560 และปี 2561 ในปัจจุบันจะได้รับการชดเชยค่าไฟฟ้า และค่าน้ำประปาตามเงื่อนไขของมาตรการดังกล่าวผ่าน e-Money ภายในเดือนพฤษภาคม 2566

"บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ" รายเก่า มีเงินเหลืออยู่ในช่อง e-Money ทำยังไง ?

หากผู้มีบัตรฯ ตามโครงการฯ ปี 2560 และ ปี 2561 ยังคงมีเงินเหลืออยู่ในช่อง e-Money ผู้มีบัตรฯ ทำได้ดังนี้

  • ถอนเงิน e-Money ได้ที่ตู้ ATM ของธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) (ธนาคารกรุงไทยฯ) และที่สาขาของธนาคารกรุงไทยฯ
  • ใช้เงินดังกล่าวในการชำระค่าสินค้าและบริการผ่านเครื่องรับชำระเงินที่รับจ่ายเงิน (EDC) และแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” ที่ร้านธงฟ้าฯ และร้านอื่น ๆ ตามที่กระทรวงพาณิชย์กำหนด ได้จนถึงวันที่ 27 กันยายน 2566

บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ รายเก่า มีเงินเหลืออยู่ในช่อง e-Money ทำยังไง ?
นอกจากนี้ โฆษกกระทรวงการคลังเปิดเผยว่า ผู้ผ่านเกณฑ์การพิจารณาคุณสมบัติตามโครงการฯ ปี 2565 (รายใหม่) ที่ยืนยันตัวตนสำเร็จภายในวันที่ 26 มีนาคม 2566 จำนวน 12.5 ล้านราย จะสามารถใช้สิทธิสวัสดิการแห่งรัฐได้ในวันที่ 1 เมษายน 2566 เป็นต้นไป

ผู้ผ่านเกณฑ์ที่ยืนยันตัวตนสำเร็จ จะสามารถใช้สิทธิสวัสดิการผ่านบัตรประจำตัวประชาชนได้ ดังนี้

1. วงเงินค่าซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็น สินค้าเพื่อการศึกษาและวัตถุดิบเพื่อเกษตรกรรม จากร้านธงฟ้าฯ และร้านอื่น ๆ ตามที่กระทรวงพาณิชย์กำหนด จำนวน 300 บาทต่อคนต่อเดือน ตั้งแต่เวลา 05.00 – 23.00 น.

2. วงเงินส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้มจากร้านค้าตามที่กระทรวงพลังงานกำหนด จำนวน 80 บาทต่อคนต่อ 3 เดือนตั้งแต่เวลา 05.00 – 23.00 น.

3. วงเงินรวมค่าเดินทางผ่านระบบขนส่งสาธารณะ จำนวน 750 บาทต่อคนต่อเดือน โดยสามารถใช้โดยสารได้กับระบบขนส่ง 8 ประเภท ได้แก่

  1. รถองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.)
  2. รถบริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.)
  3. รถไฟฟ้า บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (Bangkok Mass Transit System : BTS) รถไฟฟ้ามหานคร (Metropolitan Rapid Transit : MRT) และบริษัท รถไฟความเร็วสูงสายตะวันออกเชื่อมสามสนามบิน จำกัด
  4. รถไฟ
  5. * รถเอกชนร่วม ขสมก. รถเอกชน และส่วนราชการกรุงเทพมหานคร
  6. * รถเอกชนร่วม บขส. และรถเอกชน
  7. * รถสองแถวรับจ้าง
  8. * เรือโดยสารสาธารณะ โดยไม่จำกัดวงเงินตามประเภทรถ

หมายเหตุ: *กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างเตรียมการเพิ่มเติมประเภทระบบขนส่งเพื่อเป็นสวัสดิการให้แก่ผู้มี "บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ" และจะแจ้งความคืบหน้าให้ประชาชนทราบต่อไป

4. มาตรการบรรเทาภาระค่าไฟฟ้า อุดหนุนค่าไฟฟ้าจำนวน 315 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน กรณีที่ใช้ไฟฟ้าเกินวงเงินที่กำหนด ผู้มี "บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ" ที่ได้รับสิทธิจะเป็นผู้รับภาระค่าไฟฟ้าทั้งหมด

5. มาตรการบรรเทาภาระค่าน้ำประปา อุดหนุนค่าน้ำประปาจำนวน 100 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน

  • กรณีที่ใช้น้ำประปาเกิน 100 บาท แต่ไม่เกิน 315 บาท ผู้มีบัตรฯ ที่ได้รับสิทธิยังคงได้รับการสนับสนุนในวงเงิน 100 บาท และจะต้องชำระส่วนที่เกิน 100 บาท ด้วยตนเอง
  • หากใช้น้ำประปาเกิน 315 บาท ผู้มีบัตรฯ ที่ได้รับสิทธิจะเป็นผู้รับภาระค่าน้ำประปาทั้งหมด
     

บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ รายเก่า มีเงินเหลืออยู่ในช่อง e-Money ทำยังไง ?

การรับสิทธิบรรเทาภาระค่าไฟฟ้า และค่าน้ำประปา

สำหรับผู้ถือ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือ บัตรคนจน 1 ครัวเรือนต่อ 1 สิทธิต่อ 1 รหัสประจำบ้าน ซึ่งต้องลงทะเบียนขอรับสิทธิใหม่ทุกคน

  • ลงทะเบียนรับสิทธิลด "ค่าไฟฟ้า"

1. การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) หรือผ่าน เว็บไซต์  เบอร์ติดต่อ 1130

2. การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) หรือผ่าน เว็บไซต์ เบอร์ติดต่อ 1129  

3. กิจการไฟฟ้า สวัสดิการสัมปทานกองทัพเรือ (กทร.) หรือผ่าน เว็บไซต์ เบอร์ติดต่อ 086-848-1284 

  • ลงทะเบียนลด "ค่าน้ำ"

"การประปาส่วนภูมิภาค" คลิกที่นี่ เบอร์ติดต่อ 1125

"การประปานครหลวง" คลิกที่นี่ เบอร์ติดต่อ 1662


ทั้งนี้ ประชาชนสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารและรายละเอียดโครงการฯ เพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ https://บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ.mof.go.th หรือ https://welfare.mof.go.th

บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ รายเก่า มีเงินเหลืออยู่ในช่อง e-Money ทำยังไง ?
สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง โทร. 09 4858 9794 (เวลาทำการ 08.30 – 16.30 น.)

สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง โทร. 02 273 9020 ต่อ 3502 3503 3506 3536 3542 3518 หรือ โทร. 08 5842 7102 , 08 5842 7103, 08 5842 7104 ,08 5842 7105, 08 5842 7106, 08 5842 7107 08 5842 7109 (เวลาทำการ 08.30 – 16.30 น.)

ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โทร. 02 109 2345 (เวลาทำการ 08.30 – 17.30 น.)