ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสร่วง 3.72 ดอลล์ กังวลวิกฤตแบงก์/สต็อกสหรัฐเพิ่ม

ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสร่วง 3.72 ดอลล์ กังวลวิกฤตแบงก์/สต็อกสหรัฐเพิ่ม

ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ปิดวันพุธ(15มี.ค.)ดิ่งลง 3.72 ดอลลาร์ หลังสต็อกน้ำมันสหรัฐเพิ่มขึ้นมากกว่าคาดในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งบ่งชี้ถึงอุปสงค์ที่ลดลง

นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังถูกกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับวิกฤตการณ์ในภาคธนาคารสหรัฐและยุโรป ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมัน

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ส่งมอบเดือนเม.ย. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาดไนเม็กซ์ ลดลง 3.72 ดอลลาร์ ปิดที่ 67.61 ดอลลาร์/บาร์เรล ด้านสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ ส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 3.76 ดอลลาร์ ปิดที่ 73.69 ดอลลาร์/บาร์เรล

สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (อีไอเอ) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น 1.6 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าเพิ่มขึ้นเพียง 100,000 บาร์เรล

 

 

นักลงทุนวิตกต่อสถานะการเงินของเครดิต สวิส ธนาคารใหญ่เป็นอันดับ 2 ของสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งได้ซ้ำเติมความกังวลจากการที่รัฐบาลสหรัฐสั่งปิดกิจการของซิลิคอน วัลเลย์ แบงก์ (Silicon Valley Bank) และซิกเนเจอร์ แบงก์ (Signature Bank)

นักลงทุนพากันเทขายหุ้นเครดิต สวิส หลังธนาคารซาอุดี เนชั่นแนล แบงก์ (Saudi National Bank) หรือเอสเอ็นบี ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดของเครดิต สวิส ประกาศว่าเอสเอ็นบีไม่สามารถเพิ่มความช่วยเหลือทางการเงินต่อเครดิต สวิส เนื่องจากจะทำให้เอสเอ็นบีถือหุ้นในเครดิต สวิสมากกว่า 10% ซึ่งจะเป็นการทำผิดกฎระเบียบธนาคาร

 

 

ก่อนหน้านี้ เครดิต สวิสเปิดเผยว่า ธนาคารขาดทุนสุทธิ 1.4 พันล้านฟรังก์สวิสในไตรมาส 4/2565 โดยสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.32 พันล้านฟรังก์สวิส ส่งผลให้ยอดขาดทุนตลอดทั้งปีอยู่ที่ 7.3 พันล้านฟรังก์สวิส

นอกจากนี้ ลูกค้าแห่ถอนเงินฝากมากกว่า 1.10 แสนล้านฟรังก์สวิสในไตรมาส 4/2565 ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับข่าวอื้อฉาวของธนาคารในการทำผิดกฎระเบียบ และความเสี่ยงในการถูกดำเนินคดี