สภาตลาดทุนฯชงรัฐ 6 แนวทางก่อนยุบสภา!!

ตามไทม์ไลน์ที่รองนายกฯ ระบุว่าจะยุบสภาภายในเดือนมี.ค. แต่หลังจากนั้นกว่าจะได้รัฐบาลใหม่และนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ก็ยังต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง ทำให้ไตรมาส 2 ไตรมาส 3 นี้ ประเทศไทยจะไม่มีความสามารถในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจมากนัก

ประธานสภาธุรกิจตลาดทุนไทย หรือ FETCO กอบศักดิ์ ภูตระกูล ระบุ ในเดือนพ.ค. นี้ ประเทศไทยจะมีการเลือกตั้ง หากยึดตามไทม์ไลน์ที่รองนายกฯ ระบุว่าจะยุบสภาภายในเดือนมี.ค. แต่หลังจากนั้นกว่าจะได้รัฐบาลใหม่และนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ก็ยังต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง ทำให้ไตรมาส 2 ไตรมาส 3 นี้ ประเทศไทยจะไม่มีความสามารถในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจมากนัก

ขณะที่การใช้เงินของรัฐในช่วงเข้าสู่การเลือกตั้งแล้วจะเป็นไปอย่างจำกัด และภาวะเศรษฐกิจโลกซบเซาและเริ่มส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยอย่างมีนัยแล้ว ทำให้จีดีพีของไทยไตรมาส 4 ปี 2565 ติดลบเมื่อเทียบไตรมาสก่อนหน้า

หากเป็นเช่นนี้จำเป็นต้องเตรียมการให้เศรษฐกิจไทยมีขับเคลื่อนมากขึ้นก่อนเข้าสู่การเลือกตั้ง สิ่งที่ต้องทำ 6 เรื่อง คือ 1.ลงทุนกับภาคท่องเที่ยวเพิ่มเติม เป็นสิ่งที่ดีและง่ายที่สุด แม้ว่าตอนนี้ภาคท่องเที่ยวจะฟื้นตัวดีอยู่แล้วก็ตาม โดยรัฐควรให้งบสนับสนุนการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ ททท.โปรโมทไปที่จีนและในเอเชีย ลดเงื่อนไขในการเข้าเมือง และลดวีซ่าเข้าเมืองในช่วงนี้จะทำให้เมืองไทยเป็นแหล่งท่องเที่ยวน่าสนใจมากในปีนี้ มองว่าภาคท่องเที่ยวไทยจะช่วยพยุงเศรษฐกิจไทยในช่วงที่ยังส่งออกไม่ได้

2.สนับสนุนลงทุนจากต่างประเทศ เปิดกว้างให้นักลงทุนต่างชาติที่สนใจยกขบวนเข้ามาลงทุนในไทยมากขึ้น นโยบายลงทุนควรมีการประกาศให้ชัดเจนในช่วงก่อนเข้าสู่การเลือกตั้ง      

ขณะนี้นักลงทุนต่างประเทศกำลังเริ่มเข้ามาและสนใจลงทุนในไทย แม้จะไม่มีเงินเข้ามาทันทีทันใด แต่ข่าวดีต่างๆ และเห็นภาพนโยบายการลงทุนที่ชัดเจน โดยไม่ได้ขึ้นกับพรรคการเมืองใด จะช่วยสร้างความมั่นใจและพยุงเศรษฐกิจไทยได้เช่นกัน”

3.การดูแลค่าเงินบาท ยังเป็นสิ่งสำคัญ ไม่ควรให้เงินบาทแข็งค่าจนเกินไป ในช่วงที่การส่งออกมีปัญหา ล่าสุดเงินบาทกลับมาอ่อนค่าที่ระดับ 35 บาทต่อดอลลาร์ ถือว่าเป็นระดับที่ดี และยังสามารถให้อ่อนค่าได้อีกเล็กน้อย เพราะเงินบาทอ่อนค่าทำให้ช่วยส่งออกไทย แม้ส่งออกได้น้อย แต่ตีกลับมาเป็นเงินบาทมีรายได้ที่ดีขึ้น ยังส่งผลดีต่อภาคเกษตร และท่องเที่ยว น่าจะได้รับผลตอบรับที่ดีเป็นปัจจัยช่วยให้เศรษฐกิจไทยเดินหน้าได้

4. การเร่งอนุมัติโครงการลงทุนสำคัญๆ ทั้งหมดก่อนการเลือกตั้ง เพราะเมื่อเข้าสู่การเลือกตั้งแล้ว จะเดินหน้าโครงการลงทุนเหล่านั้นค่อนข้างลำบาก  

5. เตรียมการให้เหมาะสม เพื่อที่จะใช้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจต่อไปในระยะข้างหน้า ไว้รองรับในช่วงไตรมาส 4 ปีนี้มีโอกาสที่การเบิกจ่ายงบประมาณอาจล่าช้าได้

และ 6. การเตรียมสภาพคล่องให้ธุรกิจเอสเอ็มอีไว้พลิกฟื้นต่อได้ รองรับผลกระทบเศรษฐกิจโลกซบเซา ล่าสุด รัฐบาลได้เตรียมการค้ำประกัน บสย. โครงการใหม่อีก 5 หมื่นล้านบาท เป็นสิ่งที่ดี  

FETCO เตรียมเชิญบรรดาพรรคการเมืองประมาณ 9 พรรค ส่งทีมเศรษฐกิจมาชี้แจงวิสัยทัศน์ต่อบุคลากรในวงการตลาดทุนและนักลงทุนว่ามีนโยบายขับเคลื่อนเศรษฐกิจและตลาดทุนไทยหลังการเลือกตั้งอย่างไร คาดว่าจะจัดเวทีในวันที่ 25 มี.ค.นี้