“เจโทร”โปรโมทอาหารญี่ปุ่น หนุนไทย'ฮับ'ผลิตอาหารสัตว์เลี้ยง

“เจโทร”โปรโมทอาหารญี่ปุ่น หนุนไทย'ฮับ'ผลิตอาหารสัตว์เลี้ยง

องค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (เจโทร) จัดแสดงสินค้าและโปรโมทแคมเปญต่าง ๆ ผ่านงาน “เที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง ครั้งที่ 14” (Visit Japan FIT Fair #14) ระหว่างวันที่ 27-29 ม.ค. ณ รอยัล พารากอน ฮอลล์

เจโทรจัดงานนี้เพื่อประชาสัมพันธ์สินค้าจากญี่ปุ่น อาทิ เครื่องสำอาง ของใช้ในชีวิตประจำวัน และผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยง รวมถึงโปรโมทแคมเปญ Made In Japan “วัตถุดิบญี่ปุ่นแท้ ส่งต่อความรัก ด้วยความอร่อย” เพื่อให้ชาวไทยที่อยากท่องเที่ยวญี่ปุ่นได้รู้จักสินค้าและอาหารญี่ปุ่นมากขึ้น

กรุงเทพธุรกิจ สัมภาษณ์พิเศษ “คุโรดะ จุน” ประธานเจโทร สำนักงานกรุงเทพฯ เกี่ยวกับความคืบหน้าของโครงการนี้และความคาดหวังของเจโทรในงาน “เที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง” ซึ่งคุโรดะ บอกว่า "รู้สึกเซอร์ไพรส์ที่คนไทยเข้าร่วมงานจำนวนมาก"

เมื่อถามถึงผลตอบรับของโครงการเจแปนมอลล์ คุโรดะ บอกว่า แคมเปญมีกระแสตอบรับดี เนื่องจากการโปรโมทสินค้าญี่ปุ่นผ่านแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซทั้งลาซาดา ช้อปปี้และคอนวี ทำให้เจโทรสามารถเข้าถึงลูกค้าทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัดได้          ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่ขายดีเป็นผลิตภัณฑ์บำรุงเส้นผมและดูแลสุขภาพช่องปาก เพราะหลายคนตระหนักถึงสุขภาพมากขึ้น เนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และฝุ่น P.M. 2.5 อีกทั้งผู้คนเริ่มออกมาข้างนอกมากขึ้น เครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์เสริมความงามจึงเป็นสินค้าขายดี เช่น ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยให้ใต้วงแขนกระจ่างใส

“เจโทร”โปรโมทอาหารญี่ปุ่น หนุนไทย'ฮับ'ผลิตอาหารสัตว์เลี้ยง

นอกจากนี้ ผลิตภัณฑ์ดูแลสัตว์เลี้ยงของญี่ปุ่น ที่แต่เดิมก็เป็นที่นิยมมากอยู่แล้วในไทย ตั้งแต่ช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดโควิด-19 และกำลังเป็นนิยมมากขึ้นอีกในปัจจุบัน ทั้งของเล่น สบู่อาบน้ำ และอาหารสัตว์เลี้ยง จนทำให้การจำหน่ายอาหารสัตว์เลี้ยงของเจโทรในปี 2565 ขยายตัวเพิ่มขึ้น 5%-10% จากปี 2564 

แม้แบรนด์อาหารสัตว์เลี้ยงในไทย เช่น มาร์ เนสท์เล่ และแบรนด์อื่น ๆ มีฐานลูกค้าจำนวนมาก แต่ความเชื่อมั่นในคุณภาพของแบรนด์ญี่ปุ่นยังคงแข็งแกร่ง ลูกค้าชาวไทยสนใจสินค้าที่มีคุณภาพและดีต่อสุขภาพสัตว์เลี้ยงมากขึ้น ซึ่งคุโรดะ บอกว่า “เชา ชูหรุ” ขนมแมวเลียของบริษัทอินาบะฟู้ดที่ผลิตในประเทศไทย เป็นอาหารที่มีแคลอรีต่ำ ดีต่อสุขภาพแมว และแมวชอบทานอาหารชนิดนี้มาก 

อินาบะฟู้ดบอกเจโทรว่า ลูกค้าไทยเลือกซื้อสินค้าของอินาบะ โดยดูจากคุณภาพและสิ่งที่สัตว์เลี้ยงชื่นชอบมากกว่าสนใจเรื่องราคา

ในอนาคต บริษัทญี่ปุ่นหลายแห่งวางแผนให้ไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตอาหารสัตว์และพัฒนาผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เนื่องจากไทยเป็นประเทศที่อุดมไปด้วยวัตถุดิบสำหรับผลิตอาหารสัตว์เลี้ยง และการส่งออกสินค้าจากไทยจะเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน 

“เจโทร”โปรโมทอาหารญี่ปุ่น หนุนไทย'ฮับ'ผลิตอาหารสัตว์เลี้ยง

บริษัทอินาบะ ก็มีความมุ่งที่จะเพิ่มกำลังการผลิตที่โรงงานในไทยและส่งออกสินค้าไปยังประเทศอื่น ๆ ทั่วโลกเช่นกัน ดังนั้น วัตถุดิบที่สดใหม่และมีคุณภาพสูงของไทยจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก 

ส่วนแคมเปญส่งเสริมวัตถุดิบญี่ปุ่น ที่มีการโปรโมทผ่านวงใน เว็บไซต์รีวิวร้านอาหารชื่อดังในไทย, ป้ายโฆษณาในร้านอาหาร, เว็บไซต์ต่าง ๆ และอินฟลูเอนเซอร์ พบว่า จำนวนการเข้าถึงแคมเปญอาหารญี่ปุ่นทะลุ 17 ล้านยอดวิว จากที่ตั้งเป้าไว้ 10 ล้านยอดวิว และยอดขายอาหารญี่ปุ่นของแต่ละร้านบรรลุตามเป้าหมาย 

 นอกจากนี้ เจโทรยังโปรโมทโครงการผ่านช่องทางใหม่ เช่น ช่องทางแคมเปญในเฟสบุ๊ก ร่วมกับสโมสรฟุตบอลญี่ปุ่นคาวาซากิ ฟรอนตาเล่ หนึ่งในทีมฟุตบอลมืออาชีพของญี่ปุ่น ซึ่งเจโทรเชื่อว่า องค์กรฯสามารถโปรโมทวัตถุดิบญี่ปุ่นให้เข้าถึงคนที่ไทยได้มากขึ้นอีก

“เจโทร”โปรโมทอาหารญี่ปุ่น หนุนไทย'ฮับ'ผลิตอาหารสัตว์เลี้ยง

อย่างไรก็ดี งานจัดแสดงสินค้าของเจโทรยังไม่สิ้นสุดเพียงแค่งานนี้เท่านั้น โดยเจโทรวางแผนจัดบูธเจแปน พาวิลเลียน (Japan Pavilion) สุดยิ่งใหญ่ในงานจัดแสดงสินค้าและอาหาร THAIFEX - Anuga Asia 2023 ระหว่างวันที่ 23-27 พ.ค. 2566 เพื่อนำเสนอสินค้าและอาหารญี่ปุ่นให้ชาวไทยได้รู้จักอย่างต่อเนื่อง โดยจะเชิญผู้ประกอบการร้านอาหารญี่ปุ่นและบริษัทอาหารญี่ปุ่นเข้าร่วมงานดังกล่าว  ซึ่งการวางแผนโครงการต่าง ๆ ของเจโทร คำนึงถึงความสอดคล้องต่อโมเดลเศรษฐกิจบีซีจีของรัฐบาลไทยด้วย

ทั้งนี้ โครงการ JAPAN MALL (ไทย) 2022 มีจนถึงวันที่ 16 ก.พ. 66 และช่องทางจำหน่ายสินค้าที่ยังร่วมแคมเปญเหลือเพียงช่องทางอีคอมเมิร์ซ ได้แก่ ลาซาดาและช้อปปี้ โดยแคมเปญนี้ มีบริษัทญี่ปุ่นเข้าร่วม 160 แห่ง รวมสินค้าทั้งสิ้น 1,190 รายการ 

ส่วนช่องทางจำหน่ายหน้าร้านที่เคยร่วมแคมเปญ ได้แก่ มัทสึโมโตะ คิโยชิ (10 สาขา), ซูรูฮะ (10 สาขา) ฯลฯ ด้านแคมเปญส่งเสริมวัตถุดิบญี่ปุ่น จะมีจนถึงวันที่ 28 ก.พ. 66