เศรษฐกิจฟื้นดันยอดจัดตั้งธุรกิจใหม่ปี 65 ทะลุเป้า

เศรษฐกิจฟื้นดันยอดจัดตั้งธุรกิจใหม่ปี 65  ทะลุเป้า

กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เผย ยอดการจัดตั้งธุรกิจใหม่ปี 65 จำนวน 76,488 ราย เพิ่มขึ้น 5 %ทะลุเป้าที่วางไว้ 72,000 ราย ผลจากเศรษฐกิจฟื้น นักท่องเที่ยวเพิ่ม คนมั่นใจทำธุรกิจ คาดปี66 จดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่ 72,000 – 77,000 ราย

นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า  การจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่เดือนธ.ค.2565 มีจำนวน 4,008 รายลดลงจากเดือนที่ผ่านมา 31  % แต่เพิ่มขึ้น 8 % เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา  โดยมูลค่าทุนจดทะเบียนจัดตั้งใหม่ จำนวน21,215 ล้านบาท โดยเพิ่มขึ้น 42 % เมื่อเทียบกับเดือนที่ผ่านมา ของปีก่อน คิดเป็น 18% ซึ่งธุรกิจจัดตั้งใหม่สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป และอันดับ 3 คือ ธุรกิจในภัตตาคาร ร้านอาหาร ขณะที่การจดทะเบียนเลิกในเดือนธันวาคม 2565 มีจำนวน 5,784 ราย เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา คิดเป็น 1%

ส่งผลให้การจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจทั้งปี 2565 มีการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่จำนวน 76,488 ราย เมื่อเทียบกับปี 2564 จำนวน 72,958 ราย เพิ่มขึ้นจำนวน 3,530 ราย คิดเป็น 5% โดยมูลค่าทุนธุรกิจจัดตั้งใหม่ในปี 2565 มีจำนวนทั้งสิ้น 429,828.81 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปี 2564 จำนวน 229,808.51 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 200,020.30 ล้านบาท คิดเป็น 87.04%  ซึ่งธุรกิจจัดตั้งใหม่สูงสุด 3 อันดับแรกในปี 2565 ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป จำนวน 7,061 ราย คิดเป็น 9% รองลงมา คือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 4,833 ราย คิดเป็น 6% และธุรกิจในภัตตาคารร้านอาหาร จำนวน 3,014 ราย คิดเป็น 4% 

เศรษฐกิจฟื้นดันยอดจัดตั้งธุรกิจใหม่ปี 65  ทะลุเป้า

ส่วนธุรกิจเลิกประกอบกิจการปี 2565  มีจำนวน 21,880 ราย โดยมีมูลค่าทุนจดทะเบียนจำนวน 127,048.39 ล้านบาท ซึ่งสอดคล้องกับแนวโน้มการเลิกกิจการในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ธุรกิจเลิกประกอบกิจการสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป จำนวน 2,012 ราย คิดเป็น 9% รองลงมาคือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 1,023 ราย คิดเป็น 5% และธุรกิจภัตตาคาร ร้านอาหาร จำนวน 623 ราย คิดเป็น 3% ตามลำดับ 

ปัจจุบันมีธุรกิจดำเนินกิจการทั่วประเทศอยู่ทั้งสิ้น  (ณ วันที่ 31 ธ.ค. 65) จำนวน 850,480 ราย เพิ่มขึ้น 5 % มูลค่าทุน 21.19 ล้านล้านบาท จำแนกเป็นห้างหุ้นส่วนจำกัด ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล จำนวน 200,437 ราย คิดเป็น 23.57% บริษัทจำกัด จำนวน 648,661 ราย คิดเป็น 76.27% และบริษัทมหาชนจำกัด จำนวน 1,382 ราย คิดเป็น 0.16%  ขณะที่การลงทุนประกอบธุรกิจในไทยภายใต้กฎหมายต่างด้าว ปี 2565 (ม.ค. – ธ.ค.)คนต่างชาติได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจ จำนวน จำนวน 583 ราย      มีเงินลงทุนทั้งสิ้น 128,774 ล้านบาท

ทั้งนี้ปัจจัยที่ทำให้เกิดความเชื่อมั่นในการจัดตั้งบริษัทใหม่เพิ่มขึ้นมาจากภาพรวมของเศรษฐกิจมีทิศทางที่ดีขึ้น จากกิจกรรมทางเศรษฐกิจเริ่มเข้าสู่ภาวะปกติ มีการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น จากการท่องเที่ยวในช่วงปลายปีที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้นประกอบกับการใกล้เข้าสู่ช่วงเทศกาล ที่ช่วยกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยในอีกทางหนึ่ง จึงส่งผลให้ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค และดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจปรับตัวเพิ่มขึ้น

"ยอดจดทะเบียนตั้งใหม่ทั้งปี 2565 สูงถึง 76,488 ราย เกินไปกว่าเป้าหมายเดิมที่ตั้งไว้ที่ 68,000-72,000  ราย"นายทศพล กล่าว

นายทศพล กล่าวว่า  สำหรับปี 2566 กรมฯคาดการณ์ยอดการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจปี 2566จะใกล้เคียงกับปี 2565 โดยมีการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจ อยู่ระหว่าง 72,000 – 77,000 ราย  โดยดูจากการคาดการณ์แนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจในปี 2566 ของสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติได้คาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจของไทยไว้ที่ 3.0 – 4.0 % และการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกที่ 2.6%จากเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการเพิ่มขึ้นของจำนวนนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีนการขยายตัวของการลงทุนทั้งภาคเอกซนและภาครัฐ การขยายตัวของการบริโภคภายในประเทศ และความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยบวกที่จะส่งผลต่อการดำเนินธุรกิจ อย่างไรก็ตาม แม้ว่าภาพรวมของเศรษฐกิจจะมีทิศทางที่ดีขึ้น แต่สถานการณ์การเมืองและเศรษฐกิจโลก ที่มีความผันผวน ก็ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจในปี 2566