ตลาดหลักทรัพย์ฯ ดึงภาคธุรกิจ ‘ปลูกป่า’

ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ร่วมมือกับสมาคมบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ และกรมป่าไม้ ปลูกต้นไม้ให้ผืนป่า โดยระดมทุนผ่านโครงการ Care the Wild “ปลูกป้อง” Plant & Protect เป็นกลไกเพื่อการระดมทุน เพื่อปลูกต้นไม้ใหม่ ปลูกต้นไม้เสริม และส่งเสริมการดูแลต้นไม้

ทรัพยากรป่าไม้เป็นรากฐานการพัฒนาเศรษฐกิจสังคม สิ่งแวดล้อม และความมั่นคงของประเทศ แต่การขยายตัวของเมืองทำให้พื้นที่ป่าลดลง เกิดความไม่สมดุลของระบบนิเวศ ส่งผลให้ภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง หากต้องคงความสมดุลของสิ่งแวดล้อมไว้ประเทศไทยควรมีพื้นที่ป่ามากกว่า 40% หรือ 128 ล้านไร่ จากจำนวนพื้นที่ประเทศไทย 322 ล้านไร่ เพื่อให้เกิดพื้นที่ป่าที่แท้จริง ซึ่งภาครัฐได้มีมาตรการสำคัญโดยการดูแลรักษาป่าอนุรักษ์ให้คงอยู่ และการเพิ่มพื้นที่ป่าเศรษฐกิจด้วยการส่งเสริมการปลูกป่า

รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานวางแผนกลยุทธ์องค์กร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ศรพล ตุลยะเสถียร ระบุ ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ร่วมมือกับสมาคมบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ และกรมป่าไม้ ปลูกต้นไม้ให้ผืนป่า โดยระดมทุนผ่านโครงการ Care the Wild “ปลูกป้อง” Plant & Protect เป็นกลไกเพื่อการระดมทุน เพื่อปลูกต้นไม้ใหม่ ปลูกต้นไม้เสริม และส่งเสริมการดูแลต้นไม้ โดยผ่านภาคีองค์กรเครือข่ายทั้งภาครัฐและเอกชน เน้นการร่วมดูแลต้นไม้ที่ปลูกให้เติบโต จนกลายเป็นผืนป่าอย่างแท้จริง เข้าไปมีส่วนร่วมในการขยายผลเพื่อพัฒนาชุมชน และร่วมดูแลเอาใจใส่ต้นไม้ให้เติบโตเป็นส่วนสำคัญของการขยายแนวผืนป่าของประเทศ


ผู้อำนวยการส่วนจัดการที่ดินป่าไม้ สจป.ที่ 3 สาขาแพร่ มานะ จิตฤทธิ์ ระบุ จากเดิมชุมชนได้แผ้วถางป่าเพื่อทำการเกษตรปลูกข้าวโพดทำให้พื้นที่ป่าต้นน้ำลดลงไปมาก ในปี 2556 มีพื้นที่ป่าที่ถูกบุกรุกแผ้วถางจำนวน 1,300 ไร่ ต่อมาในปี 2561 กรมป่าไม้ได้ร่วมกับชุมชนเพื่อก่อตั้งป่าชุมชนได้ดำเนินการขอคืนพื้นที่ป่าจากชาวไร่ จำนวน 14 แปลง พื้นที่ 539 ไร่ เพื่อก่อตั้งเป็นป่าชุมชน 

โครงการ Care The Wild ที่ม่อนแม่ถาง จ.แพร่ ได้เริ่มต้นเมื่อปี 2565 บนพื้นที่ 91 ไร่ กรมป่าไม้ร่วมกับชุมชนบริหารจัดการปลูกป่าและดูแลป่า โดยตลาดหลักทรัพย์ฯ ร่วมกับ 53 บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ให้การสนับสนุน เงินทุนเพื่อปลูกและดูแลป่า จำนวนไร่ละ 44,000 บาท ตลอดอายุโครงการ 10 ปี

สำหรับโครงการ Care The Wild ที่ จ.แพร่ ได้เริ่มดำเนินโครงการแรกจำนวน 91 ไร่ เริ่มปลูกต้นไม้เมื่อเดือน มิ.ย.65 คาดว่าภายใน 3 ปีแรก จะเห็นการเจริญ
เติบโตของป่าชุมชนได้เป็นรูปธรรมมากขึ้น โดยโครงการมีระยะเวลาดำเนินการรวม 10 ปี ตั้งเป้าหมายปลูกต้นไม้รวม 18,200 ต้น จะช่วยดูดซับก๊าซเรือนกระจกได้ 163,800 กิโลคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปี

โครงการ Care the Wild เป็นแพลตฟอร์มระดมทุนเพื่อการปลูกต้นไม้ให้ได้ป่า สร้างสมดุลระบบนิเวศจากต้นทางด้วยการปลูกป่าและดูแลปกป้องต้นไม้ที่ปลูกให้รอด 100% เป็นเวลาอย่างน้อย 6 ปี ด้วยหลักธรรมาภิบาล มีชุมชนเป็นผู้ดูแลต้นไม้ เพื่อชุมชนได้รับประโยชน์จากป่า ทั้งในด้านอาหาร หรือสร้างมูลค่าเพิ่มจากพืชพันธุ์ เริ่มดำเนินโครงการตั้งแต่เดือนกันยายน 2563 โดยตลาดหลักทรัพย์ฯ ร่วมกับพันธมิตรเพิ่มผืนป่าไปแล้ว 11 ป่าชุมชน ใน 9 จังหวัดทั่วประเทศ รวมพื้นที่ปลูกทั้งสิ้น 312.5 ไร่ รวมต้นไม้กว่า 65,000 ต้น ซึ่งต้นไม้ที่ปลูกจะช่วยดูดซับก๊าซเรือนกระจกได้ 585,000 กิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปี

ทีมข่าวเนชั่นทีวี รายงาน