ทอท.มั่นใจปี 2566 ทำกำไร หลังผู้โดยสารเริ่มฟื้นตัว 70%

ทอท.มั่นใจปี 2566 ทำกำไร หลังผู้โดยสารเริ่มฟื้นตัว 70%

ทอท.เผยปริมาณผู้โดยสารพุ่งเฉลี่ย 2.7 แสนคนต่อวัน มั่นใจดันผลประกอบการไตรมาส 1 ทำกำไร ยันมีความพร้อมเปิดให้บริการอาคารแซทเทิลไลท์ หากสุวรรณภูมิเริ่มแออัด

นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยว่า ภาพรวมปัจจุบันใน 6 ท่าอากาศยานที่อยู่ภายใต้การดูแลของ ทอท. มีปริมาณผู้โดยสารฟื้นตัวราว 70% โดยเฉลี่ยจำนวนรวม 2.6-2.7 แสนคนต่อวัน เพิ่มขึ้นจากช่วงก่อนหน้าเข้าตารางบินฤดูหนาว หรือราวเดือน ก.ย.2565 ที่มีจำนวนเฉลี่ย 1.9 แสนคนต่อวัน ถือเป็นการฟื้นตัวอย่างมีนัยยะสำคัญ เนื่องจากก่อนเกิดสถานการณ์โควิด-19 ผู้โดยสารส่วนใหญ่กว่า 30% จะเป็นนักท่องเทียวจีน ขณะที่ปัจจุบันนักท่องเที่ยวจีนยังไม่เดินทางมา แต่กลับพบว่ามีการฟื้นตัวของปริมาณผู้โดยสารอย่างต่อเนื่อง

"ตอนนี้ผู้โดยสารกลับมาประมาณ 70% หากเทียบกับก่อนโควิดที่มีผู้โดยสารราว 4 แสนคนต่อวัน และก่อนโควิดผู้โดยสารส่วนใหญ่เป็นจีน แต่การฟื้นตัวรอบนี้ยังไม่มีตลาดจีน แปลว่าตลาดในประเทศฟื้นตัวเต็มศักยภาพแล้ว และยังมีตลาดใหม่ๆ อย่างตะวันออกกลางเข้ามาเพิ่ม รวมไปถึงอินเดียด้วย ดังนั้นปีหน้าจะฟื้นตัวแบบก้าวกระโดดหรือไม่ ก็ต้องรอดูสถานการณ์จีน แต่ ทอท.ยังประเมินว่าในปี 2567 ผู้โดยสารจะกลับมาในจำนวนเทียบเท่าปี 2562"

ส่วนภาพรวมไตรมาส 1 ปีงบประมาณ 2566 หรือระหว่างเดือน ต.ค.- ธ.ค.2565 ทอท.มั่นใจว่าผลประกอบการจะมีกำไรสุทธิเป็นบวกเล็กน้อย จากผลพวงการเดินทางในเดือน ธ.ค.นี้ ซึ่งถือเป็นช่วงเทศกาลเฉลิมฉลองจะมีความต้องการเดินทางจำนวนมาก และคาดว่าผลการดำเนินงานในปีงบประมาณ 2566 จะทำกำไรอย่างแน่นอน จากการฟื้นตัวของผู้โดยสารที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดย ทอท.ยังคงเป้าหมายจะเปิดให้บริการอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (แซทเทิลไลท์) ในเดือน ก.ย.2566 เพื่อรองรับปริมาณผู้โดยสารที่คาดว่าจะสูงสุดในช่วงตารางบินฤดูหนาว แต่อย่างไรก็ดี ทอท.มีความพร้อมจะเปิดให้บริการอาคารดังกล่าว หากระหว่าวนี้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเกิดปัญหาความแออัดบริเวณอาคารผู้โดยสาร