มูดีส์หั่นแนวโน้มเครดิตอังกฤษ หวั่นการเมืองไร้เสถียรภาพ-เงินเฟ้อสูง

มูดีส์หั่นแนวโน้มเครดิตอังกฤษ หวั่นการเมืองไร้เสถียรภาพ-เงินเฟ้อสูง

มูดีส์ อิสเวสเตอร์ส เซอร์วิส ประกาศลดแนวโน้มความน่าเชื่อถือของอังกฤษลงสู่ "เชิงลบ" จาก "มีเสถียรภาพ" เนื่องจากอังกฤษกำลังเผชิญกับภาวะไร้เสถียรภาพด้านการเมืองและอัตราเงินเฟ้อที่สูงมาก

ทั้งนี้ มูดี้ส์ยังคงอันดับความน่าเชื่อถือของอังกฤษไว้ที่ Aa3 แต่ได้ปรับลดแนวโน้มความน่าเชื่อถือลงสู่ "เชิงลบ" เนื่องจากสถานการณ์การเมืองในอังกฤษเผชิญกับความไม่แน่นอนและไม่อาจคาดเดาได้ นอกจากนี้ แนวโน้มเศรษฐกิจของอังกฤษยังอ่อนแอ และเงินเฟ้อก็อยู่ในระดับที่สูงมาก

สำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษรายงานว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค พุ่งขึ้น 10.1% ในเดือนก.ย. เมื่อเทียบเป็นรายปี สูงกว่าที่นักวิเคราะห์ของรอยเตอร์คาดไว้ว่าอาจเพิ่มขึ้น 10% เนื่องจากราคาอาหารและพลังงานปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง

 นอกจากนี้ อังกฤษยังเผชิญกับภาวะไร้เสถียรภาพด้านการเมือง หลังจากนางลิซ ทรัสส์ ประกาศลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอังกฤษเมื่อวันวันที่ 20 ต.ค. หลังเผชิญมรสุมทางการเมือง อันเนื่องมาจากความผิดพลาดในการประกาศมาตรการปรับลดภาษีวงเงิน 4.5 หมื่นล้านปอนด์ ซึ่งสร้างความปั่นป่วนให้กับตลาดการเงินทั่วโลก และบั่นทอนความเชื่อมั่นของนักลงทุน

รายงานระบุว่า นายริชิ ซูนัก อดีตรัฐมนตรีคลังอังกฤษเชื้อสายอินเดีย มีแนวโน้มที่จะได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคอนุรักษ์นิยมและนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของอังกฤษ หลังจากนายบอริส จอห์นสัน อดีตนายกรัฐมนตรีอังกฤษ ประกาศถอนตัวจากการแข่งขันชิงตำแหน่งดังกล่าว

ข้อมูลจากสำนักข่าวบลูมเบิร์กระบุว่า นายซูนักได้คะแนนสนับสนุนจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมากกว่า 120 เสียงในขณะนี้ แซงหน้าคู่แข่งคือนางเพนนี มอร์ดอนต์ ผู้นำสภาสามัญชนอังกฤษ ซึ่งมีคะแนนสนับสนุนเพียง 23 เสียง

ทั้งนี้ ผู้ชนะจะเป็นผู้นำพรรคอนุรักษ์นิยมคนใหม่แทนนางทรัสส์ และจะเป็นนายกรัฐมนตรีอังกฤษโดยอัตโนมัติ เนื่องจากพรรคอนุรักษ์นิยมครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรอังกฤษ