สิงคโปร์เจ๋ง! นั่งแท่นฮับการเงินอันดับ1เอเชียแทนฮ่องกง

สิงคโปร์เจ๋ง! นั่งแท่นฮับการเงินอันดับ1เอเชียแทนฮ่องกง

สิงคโปร์ ก้าวขึ้นมาเป็นฮับการเงินอันดับ1ของเอเชียแทนที่ฮ่องกงและติดอันดับ 3 ของโลก ส่วน“นิวยอร์ก” ยังคงครองแชมป์ศูนย์กลางการเงินโลกเป็นสมัยที่ 4 ตามมาด้วย “ลอนดอน” ส่วน “มอสโก” อันดับร่วงลงเหตุทำสงครามกับยูเครน

ดัชนีศูนย์กลางการเงินโลก (Global Financial Centres Index) หรือจีเอฟซีไอ ระบุเมื่อวันศุกร์(23 ก.ย.) ว่า มหานครนิวยอร์ก ของสหรัฐยังคงครองตำแหน่งศูนย์กลางการเงินที่ได้รับความนิยมมากสุดในโลกต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 โดยมีคะแนนทิ้งห่างเมืองใหญ่ที่เป็นศูนย์กลางการเงินแห่งอื่น ๆ

อันดับ 2 คือ กรุงลอนดอนประเทศอังกฤษ ที่ยังรักษาอันดับรองแชมป์ไว้ได้อย่างเหนียวแน่น ขณะที่อันดับ 3 เป็นของสิงคโปร์ ซึ่งขยับแซงหน้าฮ่องกง ที่หล่นลงไปอยู่ในอันดับ 4 ส่วนอันดับ 5 คือ นครซานฟรานซิสโกของสหรัฐ

ส่วนอันดับที่ 6-10 ได้แก่ นครเซี่ยงไฮ้ของจีน นครลอสแองเจลิสของสหรัฐ กรุงปักกิ่งของจีน เมืองเซินเจิ้นของจีน และกรุงปารีสของฝรั่งเศส

ขณะที่กรุงโตเกียวของญี่ปุ่นถูกเบียดหล่นไป 7 อันดับ ลงไปอยู่ในอันดับที่ 16 ด้านกรุงมอสโกของรัสเซียร่วงแรงคือหล่นลง 22 อันดับ มาอยู่ที่อันดับ 73 หลังถูกชาติตะวันตกตัดออกจากระบบการเงิน กรณีปฏิบัติการทางทหารในยูเครน
 

จีเอฟซีไอ จัดอันดับ 20 เมืองที่เป็นศูนย์กลางการเงินชั้นนำของโลกประจำปี 2565 ประกอบด้วย 

1.นิวยอร์ก - สหรัฐ

2.ลอนดอน - อังกฤษ

3.สิงคโปร์

4.ฮ่องกง

5.ซานฟรานซิสโก - สหรัฐ

6.เซี่ยงไฮ้ - จีน

7.ลอสแอนเจลิส - สหรัฐ

8.ปักกิ่ง - จีน

9.เซินเจิ้น - จีน

10.ปารีส - ฝรั่งเศส

11.โซล - เกาหลีใต้

12.ชิคาโก - สหรัฐ

13.ซิดนีย์ - ออสเตรเลีย

14.บอสตัน - สหรัฐ

15.วอชิงตัน ดีซี - สหรัฐ

16.โตเกียว - ญี่ปุ่น

17.ดูไบ - สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

18.แฟรงก์เฟิร์ต - เยอรมนี

19.อัมสเตอร์ดัม - เนเธอร์แลนด์

20.เจนีวา - สวิตเซอร์แลนด์
 

นักวิเคราะห์ให้ความเห็นว่า นิวยอร์กแซงหน้าลอนดอนขึ้นมาเป็นอันดับ 1 ได้ 4 ปีติดต่อกัน ส่วนลอนดอนที่เคยเป็นแชมป์อันดับ1 นั้น แม้ว่าตอนนี้อันดับ 2 จะดูมั่นคง แต่หากต้องการกลับสู่อันดับ 1 เหมือนเมื่อครั้งที่อังกฤษยังไม่ถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป (อียู) ลอนดอนก็ต้องสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ให้เกิดขึ้น

ส่วนในภูมิภาคเอเชีย ปีนี้สิงคโปร์แซงฮ่องกงขึ้นเป็นฮับการเงินอันดับ 1 ของเอเชียได้สำเร็จ ขณะเดียวกันก็ผงาดขึ้นเป็นศูนย์กลางการเงินอันดับ 3 ของโลกแทนฮ่องกง โดยฮ่องกงหล่นลงไปอยู่ที่อันดับ 4 ของโลก เนื่องจากผลกระทบของการใช้มาตรการเข้มงวดในการควบคุมโรคโควิด-19 และปัญหาการย้ายถิ่นฐานของบุคลากรที่มีทักษะสูง

ที่ผ่านมานั้น ฮ่องกงเผชิญกับความยากลำบากในการพลิกฟื้นสถานะของการเป็นศูนย์กลางการเงินระดับโลก เนื่องจากฮ่องกงจำเป็นต้องดำเนินการตามแนวทางของจีนในการควบคุมจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ให้ลดลงมาอยู่ที่ระดับต่ำที่สุด สวนทางกับประเทศอื่น ๆ ในโลกที่เริ่มเปิดพรมแดนกันไปก่อนแล้ว

สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานว่า สิงคโปร์มีแนวโน้มที่จะต้อนรับนักท่องเที่ยวจำนวนมากกว่า 4 ล้านคนในปี 2565 นอกจากนี้ การที่สิงคโปร์จะเป็นเจ้าภาพจัดงานสำคัญต่าง ๆ ซึ่งรวมถึง การประชุม Milken Institute Asia Summit การประชุม Forbes Global CEO Conference  และการแข่งขัน Singapore Grand Prix  จะช่วยยกสถานะของสิงคโปร์ให้เป็นจุดหมายปลายทางการเดินทางชั้นนำของโลก

ส่วนเซี่ยงไฮ้ ปักกิ่ง และเซินเจิ้นของจีนยังคงติดโผศูนย์กลางการเงิน 10 อันดับแรกแรกของจีเอฟซีไอ แม้ว่าการใช้มาตรการเข้มงวดในการควบคุมโรคโควิด-19 จะส่งผลให้จีนถูกตัดขาดจากโลกภายนอกก็ตาม