‘จุรินทร์’ เบรกบะหมี่ซองขึ้นราคา 2 บาท

กรณีผู้ผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปขอขึ้นราคาจากซองละ 6 บาทเป็น 8 บาท ขณะนี้กรมการค้าภายในกำลังพิจารณา และหากต้องปรับขึ้นจะต้องเป็นไปตามต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจริง และหากต้นทุนปรับลดลงมา ผู้ผลิตจะต้องปรับราคาลงมาด้วย

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ระบุ กรณีผู้ผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปขอขึ้นราคาจากซองละ 6 บาทเป็น 8 บาท ขณะนี้กรมการค้าภายในกำลังพิจารณา และหากต้องปรับขึ้นจะต้องเป็นไปตามต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจริง และหากต้นทุนปรับลดลงมา ผู้ผลิตจะต้องปรับราคาลงมาด้วย โดยได้สั่งการให้กรมการค้าภายในติดตามสถานการณ์ต้นทุนอย่างใกล้ชิด ซึ่งขณะนี้ต้องยอมรับความจริงว่าต้นทุนเพิ่มขึ้นทั้งค่าพลังงาน ค่าไฟฟ้า ค่าแก๊ส ค่าขนส่งและต้นทุนการผลิตที่เป็นวัตถุดิบทั้งข้าวสาลีและน้ำมันพืช 

สำหรับการพิจารณาอนุญาตปรับราคาจำหน่ายบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปนั้น จะพิจารณาเป็นรายๆ โดยอยู่บนหลักการ วิน-วิน โมเดล ที่ผู้ประกอบการต้องยังคงผลิตและจำหน่ายต่อไปได้ ผู้บริโภคได้รับผลกระทบน้อยที่สุด

อย่างไรก็ตาม การปรับจากซองละ 6 บาทขึ้นเป็นซองละ 8 บาท มองว่าอาจจะมากเกินไป เพราะจะกระทบผู้บริโภคผู้มีรายได้น้อย

ขณะที่ผู้ผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมาม่า ระบุว่า ผู้ประกอบการผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปต้องการให้กรมการค้าภายในเร่งรัดและพิจารณาการขอปรับขึ้นราคาบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป โดยผู้ประกอบการคาดหวังให้มีการพิจารณาโดยเร็วที่สุด โดยระหว่างนี้ผู้ประกอบการจะหันไปส่งออกมากขึ้น จากปัจจุบันที่ส่งออก 30-35% เพราะมีกำไรมากกว่า

ทั้งนี้ หากยังไม่ได้รับการพิจารณา อาจจำเป็นต้องปรับสัดส่วนการขายเป็นการส่งออกมากขึ้น แต่ทางผู้ผลิตยืนยันว่าจะไม่เลิกขายในประเทศอย่างแน่นอน และยืนยันว่าขณะนี้กำลังการผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปยังเพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภคโดยปัจจุบันบริษัทเดินเครื่องผลิตเพียงแค่ 80% ของกำลังการผลิตเท่านั้น โดยไม่มีปัญหาสินค้าขาดแคลน กรณีเดียวที่จะทำให้บะหมี่ขาดแคลน คือ การกักตุนสินค้าดังนั้นผู้บริโภคไม่จำเป็นต้องซื้อกักตุนให้ซื้อเท่าที่จำเป็นเท่านั้น

ซึ่งระหว่างรอการพิจารณาปรับขึ้นราคาอาจพิจารณาใช้การบริหารจัดการต้นทุนในรูปแบบอื่นๆ เพื่อลดการขาดทุนให้น้อยลง ซึ่งต้นทุนการผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปขณะนี้ต้นทุนเพิ่มขึ้นเกินซองละ 1 บาทแล้ว