โยนภาระประชาชน ‘แบกหนี้’ กองทุนน้ำมัน

อดีตขุนคลังอัดยับ​ รัฐบาล​บริหารเศรษฐกิจล้มเหลว​ ไฟเขียว ออก "พ.ร.ก.ให้กระทรวงการคลังค้ำประกันหนี้กองทุนน้ำมัน 150,000 ล้านบาท" 'โยนภาระหนี้ให้ประชาชน' ฟังจากปากอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและหัวหน้า​พรรค​กล้า​ กรณ์ จาติกวณิช

อดีตขุนคลังอัดยับ​ รัฐบาล​บริหารเศรษฐกิจล้มเหลว​ ไฟเขียว ออก "พ.ร.ก.ให้กระทรวงการคลังค้ำประกันหนี้กองทุนน้ำมัน 150,000 ล้านบาท" 'โยนภาระหนี้ให้ประชาชน' ฟังจากปากอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและหัวหน้า​พรรค​กล้า​ กรณ์ จาติกวณิช

การบริหารเศรษฐกิจที่ล้มเหลว!

 

วันนี้รัฐบาลมีวาระในที่ประชุม ครม.ให้ ออก "พ.ร.ก.ให้กระทรวงการคลังค้ำประกันหนี้กองทุนน้ำมัน 150,000 ล้านบาท"

 

ความหมายคือ สุดท้ายรัฐบาลเลือกที่จะแก้ปัญหากองทุนน้ำมันขาดสภาพคล่องด้วยการ 'โยนภาระหนี้ให้ประชาชน' แทนที่จะบริหารต้นเหตุที่ทำให้ราคานํ้ามันแพงเกินควร

 

กองทุนนํ้ามันเป็นหนี้ เพราะนํ้ามันแพง นํ้ามันแพงก็เพราะค่าการกลั่นและค่าการตลาดสูงเกินไป จึงส่งผลให้บริษัทนํ้ามันกำไรเพิ่มขึ้นเป็นหลัก 10 เท่า หรือ 1,000%

 

พรรคกล้า ได้เสนอให้เก็บ #ภาษีลาภลอย นำเงินภาษีมาลดหนี้กองทุนนํ้ามัน และให้รัฐบาลกำกับ ’ค่าการกลั่น’ และ ‘ค่าการตลาด’ ให้เป็นธรรม

 

โดยก่อนนี้ รัฐมนตรีพลังงานบอกว่าจะไปเค้นกำไรจากโรงกลั่นมาช่วยลดภาระหนี้ 24,000 ล้านบาท

 

แต่สรุปไม่ได้มาแม้แต่บาทเดียว จนวันนี้ต้องเอาเงินภาษีไปค้ำหนี้ที่ยังเพิ่มขึ้นอยู่ทุกวัน

 

เดิมทีกฎหมายจำกัดหนี้กองทุนน้ำมันไว้ที่ 20,000 ล้านบาท แต่เมื่อต้นปีรัฐบาลได้มีมติรื้อเพดานออกหมด เพื่อใช้วิธี ‘สร้างหนี้’ แทนที่จะบริหารจัดการโครงสร้างการทำธุรกิจที่ไม่เป็นธรรมในสถานการณ์ปัจจุบัน

 

น่าผิดหวังมากครับ !

วันนี้รัฐบาลได้เปิดช่องทางใหม่ในการสร้างหนี้นอกระบบงบประมาณ สวนทางกับหลักวินัยทางการคลังที่รัฐบาลพูดมาตลอด และที่น่าสังเกตคือเรื่องนี้ กระทรวงพลังงานเป็นคนชง กระทรวงการคลังคงกระดากปากที่จะเป็นผู้เสนอ แต่ก็ไม่แข็งพอที่จะทักท้วง จนการบริหารเศรษฐกิจของทั้งคณะอ่อนปวกเปียกไปหมด

 

กรณ์ จาติกวณิช