เพิ่มความระวังต่อความผันผวนหลังหุ้นปรับขึ้นถึงเป้ารอบ 1,630-1,650 จุด

เพิ่มความระวังต่อความผันผวนหลังหุ้นปรับขึ้นถึงเป้ารอบ 1,630-1,650 จุด

รายงานการประชุมเฟดยืนยันการขึ้นดอกเบี้ยเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ ส่งผลให้ผลตอบแทนพันธบัตรดีดตัวขึ้น เป็นปัจจัยกดดันต่อบรรยากาศลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง โดยตลาดประเมินจะเห็นการขึ้นดอกเบี้ย 0.50% และ 0.25% ในการประชุม ก.ย. และ พ.ย. นี้

ทั้งนี้ปัจจัยส่วนใหญ่ยังบ่งชี้ไปในทางเงินเฟ้อผ่านจุดสูงสุดแล้ว อย่างไรก็ตามปัจจัยลบที่อาจทำให้ตลาดกังวลเงินเฟ้ออาจสูงหรือยาวนานกว่าคาด จะได้แก่ 1) การฟื้นตัวของราคาน้ำมันดิบ (สต็อคน้ำมันต่ำคาด / การเจรจาอิหร่านไม่ได้ข้อยุติ / ปัญหายูเครน-รัสเซีย-ยุโรป) 2) ปัญหาข้อขัดข้องห่วงโซ่อุปทาน จากการขาดแคลนพลังงานในจีน ซึ่งอาจกระทบต่อเซมิคอนดัคเตอร์และแผงพลังงานแสงอาทิตย์ เราประเมินตลาดอาจเริ่มผันผวนจากแรงทำกำไรสลับ

 

ยังคงกรอบ SET Index ที่ 1,540-1,730 จุด แต่ช่วงสั้นมีโอกาสชะลอ เรายังคงกรอบการซื้อขายปีนี้ที่ 1,540-1,730 จุด ผลักดันจากการฟื้นตัวของ GDP ที่มาจากการเปิดเมืองและเปิดประเทศ และเงินทุนสำรองในระดับสูงทำให้หุ้นไทยปลอดภัยเมื่อเทียบกับหลายประเทศ แม้ต่างชาติซื้อต่อเนื่อง แต่การทดสอบ 1,630-1,650 จุด หรือปรับขึ้นแล้วราว 120 จุด หรือ 8% จากจุดต่ำสุดของรอบ ทำให้อาจต้องเริ่มระวังความผันผวนของหุ้นรายตัวและดัชนีที่จะเพิ่มสูงขึ้น การเก็งกำไรเน้นหุ้นที่ยังปรับขึ้นน้อยและไม่ไล่ราคา โดยมองการทยอยประกาศจ่ายปันผลของกลุ่มธนาคาร จะยังเป็นปัจจัยบวกช่วยประคองบรรยากาศลงทุน
 

ประเด็นเก็งกำไรอื่น 1) กลุ่มเครื่องดื่ม อาทิ OSP, CBG, ICHI, SAPPE 2) กลุ่มท่องเที่ยว AOT, CENTEL, ERW, MINT, BAFS, AAV, SHR, VRANDA, SPA 3) กลุ่มเปิดเมือง CPALL, MAKRO, MAJOR, MBK 4) กลุ่มอาหารและเกษตร CPF, GFPT, TFG, TU, KSL, KTIS, KBS, BIS, ASIAN  5) หุ้นได้ประโยชน์จากการกระตุ้นเศรษฐกิจจีน BABA80, TENCENT80, CHINA, STAR5001 6) เก็งกำไรทางเทคนิค CPALL, SCGP, TOP, RATCH, CRC, CPF, RS, SC, TH, TLI, BAM

ภาพรวมกลยุทธ์: คาดความผันผวนจะเริ่มสูงขึ้นหลังดัชนีปรับขึ้นถึงเป้าหมายของราย 1,630-1,650 จุด เน้นเลือกรายตัวหุ้นที่ยังขึ้นไม่มากและไม่ไล่ราคา ภาพใหญ่เน้นเลือกซื้อ กลุ่มหุ้นเปิดเมือง (ซื้อท่องเที่ยว ห้างสรรพสินค้า ธนาคาร กองรีทส์/ สะสมค้าปลีก) สำหรับ DR หุ้นจีน ทยอยสะสม   //หุ้นแนะนำ:  TLI*, BANPU*, MAJOR*, SVT*

แนวรับ: 1,620-1,630 / แนวต้าน : 1,650 จุด สัดส่วน : เงินสด 50% : พอร์ตหุ้น 50%
 

ประเด็นการลงทุน
 

สหรัฐเผยยอดค้าปลีกทรงตัว – ทรงตัวในเดือนก.ค. หรือเพิ่มขึ้น 0.0% โดยต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าเพิ่มขึ้น 0.1% หลังจากเพิ่มขึ้น 0.8% ในเดือนมิ.ย

เศรษฐกิจยูโรโซนขยายตัวลดลงจากการประเมินเบื้องต้นใน Q2/65 – GDP ของยูโรโซน ปรับตัวขึ้น 0.6% qoq ในไตรมาส 2 และปรับขึ้น 3.9% yoy ขณะที่ก่อนหน้านี้ยูโรสแตทประมาณการว่า จีดีพีของยูโรโซนขยายตัว 0.7% qoq และ 4.0% yoy

นายกฯจีนเตรียมออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม – นายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อเฉียงของจีนแถลงจะเพิ่มการสนับสนุนนโยบายเศรษฐกิจมหภาค ทางการจีนจะใช้มาตรการเชิงนโยบายที่เผยแพร่ในเดือนพ.ค.ด้วยความละเอียดรอบคอบ และจะเพิ่มความเอาจริงเอาจังในการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจมหภาค 

แบงก์ชาติจีนอัดฉีดเงิน 2 พันล้านหยวนเสริมสภาพคล่องระบบธนาคาร - ธนาคารกลางจีน (PBOC) ประกาศอัดฉีดเงิน 2 พันล้านหยวน (ประมาณ 295 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) เข้าสู่ระบบการเงินในวันนี้ (17 ส.ค.) ผ่านข้อตกลง reverse repo ประเภทอายุ 7 วัน โดยกำหนดอัตราดอกเบี้ยที่ 2%

Tencent รายได้ลดลงครั้งแรก – รายได้ลดลง qoq เป็นครั้งแรก เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการขาดการอนุมัติเกมใหม่ ๆ และมาตรการจำกัดเวลาเล่นเกม รายได้ลดลง 3% สู่ระดับ 1.34034 แสนล้านหยวน (1.978 หมื่นล้านดอลลาร์) ในช่วงเวลาสามเดือนซึ่งสิ้นสุดวันที่ 30 มิ.ย. vs คาดการณ์ที่ระดับ 1.346 แสนล้านหยวน

Apple จะผลิต "แอปเปิลวอตช์-แมคบุ๊ก" ในเวียดนามครั้งแรก ลดพึ่งพาจีน – ยังอยู่ระหว่างเจรจา เพื่อลดการพึ่งพาจีน ขณะที่ ลักซ์แชร์ พรีซิชัน อินดัสทรีย์ (Luxshare Precision Industry) และฟ็อกซ์คอนน์ (Foxconn) ซึ่งเป็นซัพพลายเออร์ของแอปเปิล ได้เริ่มทดสอบการผลิตแอปเปิล วอตช์ และแมคบุ๊กในเวียดนามแล้ว โดยตั้งเป้าผลิตอุปกรณ์ประเภทดังกล่าวนอกประเทศจีนเป็นครั้งแรก

BOI เผย H1/65 ยอดขอส่งเสริมลงทุน 784 โครงการ มูลค่ากว่า 2.2 แสนลบ. – ลดลง 42% yoy เนื่องจากในปี 2564 มีการขอรับการส่งเสริมการผลิตพลังงานไฟฟ้าซึ่งเป็นโครงการลงทุนขนาดใหญ่จำนวนมาก มีเงินลงทุนรวมสูงถึง 75,780 ล้านบาท

Opportunity day – 18 ส.ค. – CENTEL, PSH, NVD, JUBILE, ASP, WICE, PTL, BRI, SABINA, TK, AS, MINT, SICT, BAM / 19 ส.ค. – TVO, PTTGC, ORI, NOBLE, TIPH, JWD, GGC, RBF, KCC, TM, UKEM, SONIC, UAC, WHAIR / 22 ส.ค. – ALLY, JMART+SINGER, PTT, JMT, MGT, J, PTG, SPVI, BJC, PLUS, TOP, AGE, GRAMMY

 

ประเด็นติดตาม: 18 ส.ค. – EU CPI, US Existing Home Sales / 23 ส.ค. – US New Home Sales / 24 ส.ค. - US Pending Home Sales / 25 ส.ค. – US GDP / 26 ส.ค. – US Core PCE Price Index

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)