โฟกัสรายตัว (วันที่ 16 สิงหาคม 2565)

โฟกัสรายตัว (วันที่ 16 สิงหาคม 2565)

ตลาดหุ้นวานนี้ SET Index ปิดบวก 3 จุด Fund flow ไหลเข้าหนุนดัชนี โดยวันนี้นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 5,775 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ดัชนีปรับขึ้นในกรอบจำกัด เนื่องจากมีแรงขายทำกำไรของนักลงทุนในประเทศ

หุ้นที่ปรับขึ้นเด่นส่วนใหญ่เป็นกลุ่มโรงกลั่น เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อดักเงินปันผลหลังจาก SPRC ประกาศจ่ายปันผลระหว่างกาลให้  Dividend yield สูงถึง 8%

 

แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้      

ประเมิน SET แกว่งตัว 1,615 - 1,635 จุด แม้จะได้แรงหนุน Fund flow ต่างชาติไหลเข้าต่อเนื่องจากคาดการณ์เงินเฟ้อสหรัฐผ่านจุดสูงสุดไปแล้วส่งผลให้ FED ชะลอการเร่งขึ้นดอกเบี้ย  อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลงแรงจากตัวเลขเศรษฐกิจจีนที่อ่อนแอเป็นลบต่อกลุ่มพลังงาน นอกจากนี้การที่ดัชนีขึ้นแรงจนเข้าใกล้เขต Overbought จะเป็นอีกแรงกดดันให้ดัชนีสลับอ่อนตัวลง

 

กลยุทธ์การลงทุน: Selective Buy

         KBANK BBL SCB KTB TTB  อานิสงส์ดอกเบี้ยขาขึ้น 

         GPSC BGRIM GULF RATCH SCGP SCC EPG  อานิสงส์ราคาน้ำมันดิบอ่อนตัวลง

         KCE HANA DELTA อานิสงส์หุ้นกลุ่ม Tech ฟื้นตัวขึ้น

 

หุ้นแนะนำวันนี้

KBANK (ปิด 151.5 ซื้อ/เป้า 170 บาท) ยังได้ Sentiment บวกจาก MSCI ประกาศนำ KBANK กลับเข้ามาคำนวณในดัชนี MSCI Global Standard อีกครั้งคาดว่าจะมีเม็ดเงินลงทุนจากบรรดากองทุน Active Fund ทยอยเข้าซื้อดักเก็งกำไรก่อนมีผลบังคับใช้จริงในวันที่ 31 ส.ค. 2022

HMPRO (ปิด 13.8 ซื้อ/เป้า IAA Consensus 17) เป็นหุ้นธีมเปิดเมืองและกลุ่มค้าปลีกที่ราคายัง Laggard ที่สุด โดย YTD ราคาหุ้น HMPRO ติดลบ 4.8% ขณะที่หุ้นในกลุ่มเปิดเมืองปรับขึ้นเฉลี่ย 10%-20% HMPRO มีสัดส่วนรายได้จากเมืองหลักและท่องเที่ยวคิดเป็น 70%ของรายได้รวม

 

 

 

 

บทวิเคราะห์วันนี้

BCH, BTS, CHG, LH, MAJOR, PLANB, SIRI, TRUE

ประเด็นสำคัญวันนี้

  (+) GDP ไทยขยายตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 3 จากการใช้จ่ายและบริโภคในประเทศ: สภาพัฒฯ ประกาศ GDP ไตรมาส 2/22 ขยายตัว 2.5% เพิ่มขึ้นจาก 2.3% ในไตรมาส 1/22 นับเป็นการขยายตัวเพิ่มขึ้นเป็นไตรมาสที่ 3 ติดต่อกัน โดยมีปัจจัยหนุนมาจากการการใช้จ่ายและบริโภคในประเทศที่ขยายตัวเพิ่มขึ้น 6.9% จาก 3.5% ในไตรมาส 1/22 เป็นปัจจัยหนุนหลัก จากการผ่อนคลายมาตรการป้องกันโควิด-19 และการเปิดรับนักท่องเที่ยว

  (-) กังวล ศก.จีนชะลอตัวหลังแบงชาติจีนปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย: ธนาคารกลางจีน (PBOC) มีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ระยะกลาง (MLF) ระยะ 1 ปีซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของจีน ลง 0.10% สู่ระดับ 2.75% และปรับลดอัตราดอกเบี้ย reverse repurchase ประเภท 7 วัน ลง 0.10 % สู่ระดับ 2.0% ซึ่งสวนทางกับธนาคารกลางอื่นๆ ที่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย สะท้อนให้เห็นว่า ศก. จีนยังไม่ฟื้นตัวจำเป็นต้องกระตุ้นด้วยนโยบายการเงิน

  (-) กลุ่มน้ำมัน - น้ำมันดิบ WTI ร่วงต่ำกว่าระดับ 90$/bbl อีกครั้งกังวล ศก.จีนชะลอตัว: ราคาน้ำมันดิบ WTI ลดลง 2.68 ดอลลาร์ หรือ 2.9% ปิดที่ 89.41 ดอลลาร์/บาร์เรล จาก 1) ดอลลาร์แข็งค่า, 2) กังวลดีมานด์น้ำมันจากจีนชะลอตัวหลังจาก ศก.จีนโดยรวมยังไม่ดี และ 3)การเจรจานิวเคลียร์อิหร่านมีความคืบหน้าส่งผลให้อิหร่านจะกลับมาส่งออกน้ำมันได้ในอนาคต