‘เซ็นทารา’ ตั้งเป้ารายได้ปี 69 โต 10-15% พร้อมเปิด 8 โรงแรมใหม่ในเอเชีย-ตะวันออกกลาง
‘เซ็นทารา’ เตรียมเปิด 8 โรงแรมใหม่ในเอเชียและตะวันออกกลางปี 69 ส่งแบรนด์ 6 ดาว ‘เซ็นทารา รีเซิร์ฟ’ ปักธงเพิ่มใน จ.กระบี่ พร้อมคาดการณ์รายได้ธุรกิจโรงแรมปี 69 เติบโต 10-15% เทียบกับปีนี้ ปรับแผนรับมือความผันผวน หาทางเอาชนะปัจจัยภายนอกที่ควบคุมไม่ได้ เดินหน้าเจาะตลาดอื่นๆ ขณะรอนักท่องเที่ยวจีนฟื้นตัว
ธีระยุทธ จิราธิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร โรงแรมและรีสอร์ทในเครือเซ็นทารา กล่าวว่า เครือ “เซ็นทารา” คาดการณ์รายได้ปี 2569 ว่าจะเติบโต 10-15% เทียบกับปี 2568 ที่ประเมินว่ารายได้น่าจะเติบโตราว 8% จากปีที่แล้ว หลังทำรายได้ต่อห้องพัก (RevPAR) ได้เพิ่มขึ้น 5% เฉพาะไฮซีซันไตรมาส 4 ปีนี้มีแนวโน้มดี ยอดจองห้องพักล่วงหน้าช่วงพีคปลายปีในสมุยดี ภูเก็ตกลับมา ขณะที่กรุงเทพฯ เริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ ท่ามกลางสถานการณ์ภาพรวมนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยในปีนี้ติดลบ 7% ทำให้เครือเซ็นทาราปรับกลยุทธ์เจาะตลาดอื่นๆ เพื่อชดเชยนักท่องเที่ยวจีนที่หายไปในภาพรวมกว่า 30% อย่างลูกค้าชาวยุโรปกับอินเดียก็เติบโตขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ส่งผลให้เครือเซ็นทาราไม่ได้รับผลกระทบมากนักตลอดทั้งปีนี้
“เรามองว่าแนวโน้มธุรกิจโรงแรมในปี 2569 จะสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง แม้ระหว่างทางอาจจะมีปัจจัยภายนอกมากระทบเหมือนปีนี้ เช่น แผ่นดินไหว การสู้รบกันในพื้นที่ต่างๆ ที่เราไม่สามารถควบคุมได้ แต่การตั้งเป้าหมายสร้างการเติบโตยังมีอยู่ ต้องหาทางเอาชนะสถานการณ์แย่ๆ ไปให้ได้ อย่างตลาดนักท่องเที่ยวจีนหายไป เราก็ต้องไปเอาตลาดอื่นมาช่วย ทำให้สัดส่วนลูกค้าชาวจีนที่เข้าพักโรงแรมในเครือฯ อยู่ที่ 8% ของลูกค้าทั้งหมด และถ้าจีนกลับมา ก็ถือเป็นเรื่องบวกสำหรับเรา”
ขณะที่สถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้ เครือเซ็นทารามีโรงแรมเซ็นทารา หาดใหญ่ ซึ่งมีรายได้ไม่ถึง 1% ของทั้งเครือฯ โดยปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวติดค้างประมาณ 130 คน ถ้าในสถานการณ์ปกติ โรงแรมที่นี่มีการเติบโตเพิ่มทุกปี ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นชาวมาเลเซีย พอเกิดเหตุน้ำท่วมก็คาดว่าน่าจะหายไปประมาณ 1 เดือน และกลับมาเข้าพักในช่วงเทศกาลปลายปี
สำหรับแผนขยายธุรกิจโรงแรมในปี 2569 เฉพาะโรงแรมที่เครือเซ็นทาราเป็นเจ้าของ เตรียมเปิด 2 แห่ง ได้แก่ โรงแรม เซ็นทารา ไลฟ์ โอซาก้า แบรนด์ระดับ 3 ดาว ซึ่งเป็นการร่วมทุนกับบริษัท ไทเซอิ คอร์ปอเรชั่น เพื่อเปิดโรงแรมแห่งที่ 2 ในญี่ปุ่นช่วงไตรมาส 2 สอดรับกับสถานการณ์เงินเยนอ่อนค่า สร้างความได้เปรียบทั้งในเชิงการลงทุน และนักท่องเที่ยวต่างชาตินิยมเดินทางเข้ามาใช้จ่ายมากขึ้น หลังจากร่วมทุนกันเปิดโรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ โอซาก้า เป็นแห่งแรกไปแล้ว นอกจากนี้คาดหวังว่าจะสามารถเปิดโรงแรม เซ็นทารา รีเซิร์ฟ กระบี่ แบรนด์ระดับ 6 ดาว ได้ในช่วงปลายปีหน้า ซึ่งเป็นการรีโนเวตใหญ่และรีแบรนด์จากโรงแรม เซ็นทารา แกรนด์ บีช รีสอร์ท แอนด์ วิลล่า กระบี่
ด้านโรงแรมที่เครือเซ็นทาราเข้ารับบริหารในปี 2569 จะมีประมาณ 6 แห่ง อาทิ เนปาล กาตาร์ ซาอุดีอาระเบีย และเวียดนาม
ล่าสุดเมื่อปลายเดือน ต.ค. เซ็นทาราได้ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับบริษัท NUO International Hotel Management Co., Ltd. เพื่อพัฒนาศักยภาพแบรนด์และผลักดันการขยายธุรกิจในระดับนานาชาติ ความร่วมมือในครั้งนี้นับเป็นการผสานจุดแข็งของ 2 แบรนด์ชั้นนำด้านการบริการ พร้อมการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ระหว่างการบริการแบบจีนและการบริการแบบไมตรีจิตไทย เพื่อมอบประสบการณ์การเข้าพักอันน่าประทับใจให้แก่นักเดินทางทั่วโลก
ความร่วมมือดังกล่าวเป็นการนำเสนอนวัตกรรมโมเดลการแลกเปลี่ยนแบรนด์แบบสองทาง (Two-Way Brand Licensing) ที่ผนึกกำลังทรัพยากรและจุดแข็งของทั้งสององค์กรได้อย่างลงตัว โดย NUO International จะนำแบรนด์ยอดนิยมที่สะท้อนเสน่ห์ทางวัฒนธรรมจีน อาทิ “Jianguo” และ “Brilliant” สู่ประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ขณะที่เซ็นทาราจะนำแบรนด์ที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล อาทิ “เซ็นทารา” และ “เซ็นทารา แกรนด์” พร้อมถ่ายทอดการบริการด้วยไมตรีจิตแบบไทยสู่ตลาดจีน
