อดีตผู้ว่าการ ททท. แนะ ‘ฮาวทู’ หยุดวิกฤติ! เมื่อ ‘ท่องเที่ยวไทย’ ตกอยู่ในภาวะ Freefall

อดีตผู้ว่าการ ททท. แนะ ‘ฮาวทู’ หยุดวิกฤติ! เมื่อ ‘ท่องเที่ยวไทย’ ตกอยู่ในภาวะ Freefall

หากย้อนกลับไปในปี 2562 ก่อนโควิดระบาด ประเทศไทยมี “นักท่องเที่ยวจีน” จำนวนมากถึง 11 ล้านคน จากนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมด 39.8 ล้านคน คิดเป็นสัดส่วน 27% ของนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมด เฉลี่ยเดือนละ 900,000 คน วันละ 30,000 คน

แต่ในปี 2568 ตั้งแต่เดือนม.ค. จำนวนนักท่องเที่ยวจีนลดลงตามลำดับ จากเดือนละ 22,000 คนในเดือนม.ค. เหลือประมาณ 10,000 คนเมื่อสิ้นเดือนเม.ย. หรือในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ มีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้าไทยเฉลี่ยวันละ 13,000 กว่าคน

ยุทธศักดิ์ สุภสร ประธานคณะกรรมการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.)และอดีตผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า อุตสาหกรรม “ท่องเที่ยวไทย” กำลังเผชิญภาวะ “Freefall” หรือ การตกแบบอิสระ จากการลดลงอย่างรวดเร็วของ “นักท่องเที่ยวจีน” หลังจำนวนนักท่องเที่ยวจีนต่ำกว่า 10,000 คน ตั้งแต่ต้นเดือนพ.ค. โดยวันที่ 4 พ.ค.68 มีจำนวน 7,770 คน วันที่ 5 พ.ค.68 มีจำนวน 7,288 คน วันที่ 6 พ.ค.68 มีจำนวน 8,628 คน ล่าสุดวันที่ 11 พ.ค.68 มีจำนวน 8,612 คน วันที่ 12 พ.ค.68 มีจำนวน 9,059 คน และวันที่ 13 พ.ค.68 มีจำนวน 8,379 คน

“การหดหายไปของนักท่องเที่ยวจีน ส่งผลทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวระหว่างประเทศทั้งหมดที่เดินทางเข้าประเทศไทยลดลง จนต่ำกว่า 60,000 คนต่อวันไปแล้ว เช่น วันที่ 12 พ.ค.68 มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ 59,696 คน และวันที่ 13 พ.ค.68 จำนวน 57,211 คน”

อดีตผู้ว่าการ ททท. แนะนำว่า ให้เร่ง “Stop the Freefall” หยุดวิกฤติท่องเที่ยวไทย! ดึงนักท่องเที่ยวกลับมา และถือโอกาสนี้ปรับโครงสร้างนักท่องเที่ยวไปสู่กลุ่มคุณภาพเพิ่มขึ้น เริ่มด้วยการ “Rebrand” เพื่อที่จะ “Rebuild” ความเชื่อมั่น ทำให้ประเทศไทยเป็นที่รู้จักในฐานะ “ประเทศแห่งรอยยิ้มของคุณภาพ และความปลอดภัย”

ไม่ใช่แค่การเปลี่ยนแปลงสร้างภาพลักษณ์ใหม่ แต่ต้องเน้นสร้างมั่นใจ ความรู้สึกปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยว และโครงสร้างพื้นฐานบริการนักท่องเที่ยวเพื่อยกระดับคุณภาพการให้บริการของ “Thai Hospitality” และไม่ใช่แค่ “Free Visa” หรือ การยกเว้นวีซ่า แต่รวมถึงปัจจัยที่เอื้อต่อการเดินทางอย่างสะดวก และปลอดภัย (Ease & Safe of Traveling) เพื่อสร้างความทรงจำที่ประทับใจตั้งแต่ก้าวแรกที่มาถึง และตลอดระยะเวลาที่เดินทางท่องเที่ยว “สร้างความปลอดภัย” แก่นักท่องเที่ยวในทุกมิติ

อดีตผู้ว่าการ ททท. แนะ ‘ฮาวทู’ หยุดวิกฤติ! เมื่อ ‘ท่องเที่ยวไทย’ ตกอยู่ในภาวะ Freefall

โดยเฉพาะเรื่องมาตรฐานด้านความปลอดภัย และสุขอนามัย ปัญหาอาชญากรรมต่อทรัพย์สินส่วนบุคคลของนักท่องเที่ยว อุบัติเหตุ ตลอดจนปัญหาการเอารัดเอาเปรียบ และหลอกลวงนักท่องเที่ยว ในขณะที่แก้ปัญหาการคมนาคมยังไม่เป็นที่พึงพอใจของนักท่องเที่ยวมากนัก ทั้งด้านความพร้อมของสาธารณูปโภค คมนาคม (ถนน รถไฟ) และด้านคุณภาพการบริการ (แท็กซี่) พัฒนาระบบเตือนอุบัติเหตุ และอุบัติภัย มีหลากหลายภาษา

ขณะเดียวกัน สามารถชู “ซอฟต์พาวเวอร์” ของประเทศไทย และ “เมืองรอง” (เมืองน่าเที่ยว) เป็นจุดขายใหม่ สร้างภาพจำใหม่ โดยให้สะท้อนถึงความเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีคุณภาพ และเป็นส่วนตัว ลบภาพเดิม และแบบแผนเดิมๆ ที่เน้น “เกาะ” และ “อาหาร” โดยสร้างเสริมแหล่งท่องเที่ยวใหม่ในเมืองน่าเที่ยวบนพื้นฐานของอัตลักษณ์ท้องถิ่น ธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และวิถีชีวิต มาสร้างเป็นจุดหมายปลายทางที่สดใหม่ ไม่ว่าจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวตามธรรมชาติ แหล่งท่องเที่ยวที่มนุษย์สร้างขึ้น หรือการสร้างสรรค์กิจกรรมด้านดนตรี กีฬา ศิลปะ วัฒนธรรม อาหารถิ่น งานประเพณี และความเชื่อศรัทธา

อดีตผู้ว่าการ ททท. แนะ ‘ฮาวทู’ หยุดวิกฤติ! เมื่อ ‘ท่องเที่ยวไทย’ ตกอยู่ในภาวะ Freefall

อีกกลยุทธ์ในการสื่อสารการตลาด เน้นความสนุก เพราะ “สนุก” ไม่ใช่แค่ความสุขชั่วคราว แต่เป็นหลักการที่เน้นย้ำถึงการนำความสุข และความเพลิดเพลินมาเป็นส่วนหนึ่งของการท่องเที่ยว

นอกจากนี้ ต้องเร่ง “Reboot” เพื่อที่จะ “Revive” อุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยให้กลับมาเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศเหมือนในช่วงที่ผ่านมา โดยเน้นการเพิ่มรายได้จำนวนนักท่องเที่ยว ความถี่ และจำนวนที่นั่งของเที่ยวบินเข้าสู่ประเทศไทย เพิ่มการทำตลาดกับนักท่องเที่ยวกลุ่ม “Quality Mass” เช่น กลุ่มไมซ์ (MICE: ประชุม เดินทางเพื่อเป็นรางวัล สัมมนา และแสดงสินค้า) เพื่อเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวเชิงคุณภาพในระยะสั้น ขณะเดียวกันต้องเร่งส่งเสริมการขายในการนำเข้านักท่องเที่ยวคุณภาพที่มีศักยภาพในการใช้จ่ายสูง (Big Spender) ด้วย

รวมไปถึง “Reform” เพื่อที่จะ “Restructure” อุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยก้าวต่อไปอย่างยั่งยืน ปรับเปลี่ยนแนวทางการพัฒนา และส่งเสริมการท่องเที่ยวจาก “Demand-driven” ไปสู่ “Supply-driven” ด้วยการพัฒนาสินค้า และบริการที่ดีมีคุณภาพ และมีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้น เพื่อให้สอดรับกับความต้องการของกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพ

 

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์