มรดกหมื่นล้าน! 3 พี่น้องแบ่งขั้ว สู่มหากาพย์ศึกสายเลือด!

จากศึกชิงหุ้น "วินด์ เอนเนอร์ยี่" ชนวนเหตุแห่งรอยร้าว 3 พี่น้อง "กฤษณ์-กรณ์-ณพ ณรงค์เดช" มหากาพย์ศึกสายเลือด 8 ปี และยังดำเนินต่อสู้ "แบ่งมรดกหมื่นล้าน"
กรุงเทพธุรกิจ นำเสนอข่าวความขัดแย้งของ 3 พี่น้อง "กฤษณ์-กรณ์-ณพ ณรงค์เดช" ที่ฟ้องร้องกันเกี่ยวกับธุรกิจ และคดีเกี่ยวข้องกับ “มรดก” จนต้องขึ้นโรงขึ้นศาลกันอยู่เนืองนิตย์
ทั้งนี้ มีผู้อ่านแสดงความคิดเห็นอันเฉียบแหลมว่า “เงิน เป็นกระดาษที่คมที่สุด ตัดได้กระทั่งญาติพี่น้อง และมิตรภาพ” สะท้อนสถานการณ์ของทายาท นักธุรกิจ ตระกูลดังได้อย่างดี
สำหรับคดีล่าสุด ณพ ณรงค์เดช ทายาทคนกลางของ “คุณหญิงพรทิพย์ ณรงค์เดช” ผู้ล่วงลับ เป็นโจทก์ฟ้องพี่ชาย “กฤษณ์ ณรงค์เดช” จำเลยฐานยักยอกทรัพย์ค่าเช่าที่ดินจังหวัดสมุทรปราการ มูลค่ารวม 35 ล้านบาท ซึ่งศาลแขวงพระนครใต้ ได้มีคำพิพากษาสั่งจำคุก “กฤษณ์” 44 เดือน โดยไม่รอลงอาญา
หลังคำพิพากษาของศาล “ณพ” ได้เดินออกมาให้สัมภาษณ์แก่สื่อมวลชนบริเวณทางเข้าศาลแขวงพระนครใต้ โดยเปิดประโยคว่า “จะถามประเด็นเรื่องอื่นก็ได้นะครับ” จากนั้นจึงเล่าที่มาที่ไปของการฟ้องร้องคดียักยอกทรัพย์ค่าเช่าที่ดิน
“คดียักยอกทรัพย์ ผมเป็นโจทก์ฟ้องพี่ชายผมซึ่งเป็นจำเลยเกี่ยวกับทรัพย์มรดกของคุณแม่ เป็นที่ดินนำไปปล่อยเช่า แล้วไม่บอกผม และไม่เคยแบ่งผม” คดีลักษณะนี้เคยเกิดขึ้น ฟ้องร้อง และศาลมีคำพิพากษาสั่งจำคุก 12 เดือน โดยไม่รอลงอาญาเช่นกัน แต่คดีล่าสุดจำนวนกรรมมากกว่าคดีแรก ศาลจึงมีคำสั่งจำคุก 44 เดือน แต่จำเลยได้ประกันตัวในวงเงิน 4 แสนบาท และเดินหน้ายื่นอุทธรณ์ต่อไป
“โจทก์มีพฤติกรรมเหมือนเดิม จึงฟ้องคดีใหม่ ต่างกรรมต่างวาระ”
3 พี่น้อง ฟ้องร้องกันนับ 10 คดี
ณพ เล่าว่า นับตั้งแต่เกิดความขัดแย้งภายในครอบครัว “ณรงค์เดช” ประมาณปี 2561 มีมูลเหตุจากคดีซื้อขายหุ้นร้อน “วินด์ เอนเนอร์ยี่” ซึ่งปัจจุบันคดียังอยู่ระหว่างการอุทธรณ์
ชนวนเหตุแรก ยังนำไปสู่การฟ้องร้องคดีอื่นๆ ตามมาอีกมากมาย เฉพาะคดีวินด์ เอนเนอร์ยี่ ก่อเกิดการฟ้องร้องทั้งสิ้น 5 คดี เช่น การปลอมลายเซ็น คดีปลอมเอกสาร เป็นต้น
“จนถึงวันนี้..คดีระหว่างพี่น้อง..เยอะครับ เกิน10 คดี และผมไม่เคยให้ข่าวเลย ผมไม่อยากเป็นข่าว แต่พอเรื่องเป็นอย่างนี้ ผมคงหลีกเลี่ยงยากแล้ว เพราะมีการพูดไปว่าร้อยกิโลอะไรพวกนี้ ผมมีความจำเป็นต้องออกมาพูด” (FYI:ร้อยโล คือ ประเด็นเงินร้อยล้านบาท ที่วางตามคำสั่งศาลซึ่งคู่กรณีใช้สิทธิให้คุ้มครองชั่วคราวทรัพย์สิน 3,400 ล้านบาท)
สำหรับชนวนเหตุใหญ่คดีวินด์ เอนเนอร์ยี่ ณพ ระบุว่า ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาให้ตนชนะทุกคดีแล้ว โดยเฉพาะประเด็นใครเป็นคนลงทุนในบริษัท วินด์ เอนเนอร์ยี่
“คดีวินด์ เอนเนอร์ยี่..ผมไม่ได้ มีคำพิพากษาชัดเจนว่าใครเป็นคนลงทุน ทางการเงินเป็นข้อยุติแล้วว่าพี่กับน้อง ไม่ได้ลงทุน”
ล่าสุด คดียักยอกทรัพย์ค่าที่ดิน 35 ล้านบาท ตั้งแต่เดือนมิ.ย.นี้ จะมีการไต่สวนอีก 2 คดี ซึ่งเป็นคดีที่เกี่ยวข้องกับ “ทรัพย์มรดก” ของคุณหญิงพรทิพย์ ผู้เป็นมารดาทั้งสิ้น
“คดีระหว่างพี่น้องที่ผมเป็นจำเลย ตลอดระยะเวลา 5-6 ปีที่ผ่านมา ผมชนะคดีหมดแล้ว ตอนนี้เป็นเรื่องมรดกเป็นหลัก ซึ่งคุณแม่เสียไปเมื่อปี 2556 จนถึงวันนี้เป็นเวลา 12 ปีแล้ว การจัดสรรมรดกยังไม่เป็นที่เรียบร้อย ทั้งที่คุณแม่ได้ลงรายละเอียดไว้อย่างชัดเจนนะครับ กว่าจะมีเหตุในครอบครัว ก็เกิดขึ้นปี 2561 ตลอด 5 ปี(หลังคุณแม่เสีย)ไม่มีประเด็นอะไรกัน ก็ไม่มีการจัดแบ่งมรดกตามเจตนารมณ์ของคุณแม่ นอกจากนั้นบัญชีทรัพย์มรดกก็ไม่เคยทำ จนถึงปัจจุบันนี้”
8 ปี มหากาพย์รอยร้าว “ณรงค์เดช”
จากคดีวินด์ เอนเนอร์ยี่ ถึง “คดีมรดก” ทำให้ 3 พี่น้อง “กฤษณ์-กรณ์-ณพ ณรงค์เดช” ที่รักกันดุจ 3 ทหารเสือของคุณหญิงพรทิพย์ ต้องกลายเป็น “คู่ขัดแย้ง” โดย “กฤษณ์-กรณ์” อยู่ขั้วเดียวกัน และอยู่กับบิดา “ดร.เกษม ณรงค์เดช” ส่วน "ณพ" ต่อสู้โดยมีภรรยา ลูกชาย และแม่ยาย เคียงข้างโดยศึกตระกูล “ณรงค์เดช” ยังกินเวลายาวนานเข้าสู่ปีที่ 8 แล้ว
Cr.kornnarongdej
ที่ผ่านมา 3 พี่น้องพยายามหาทางประสานรอยร้าวในครอบครัว โดยมีผู้ใหญ่หลายท่านที่ทุกคนให้ความเคารพนับถือเป็น “ตัวกลาง” เพื่อพูดคุยพยายามไกล่เกลี่ยให้หลายครั้งทั้งใน และนอกศาล แต่ไม่สามารถพูดคุยกันได้ เพราะการคุยกันต้องอยู่บนหลักการ อยู่บนข้อเท็จจริง และอยู่บนเหตุผล
“โอกาสประสานรอยร้าว..ผมว่าเลยจุดนั้นไปแล้ว อย่างที่ผมเรียน ถ้าเราคุยกันด้วยข้อเท็จจริง คุยกันบนเหตุผล คงคุยกันได้ (เรื่องแบ่งทรัพย์มรดก)คุณแม่เขียนไว้ละเอียดมาก..ละเอียดมากเลยครับ”
ทั้งนี้ ณพ ให้ข้อมูลว่า จนถึงปัจจุบัน บัญชีทรัพย์มรดกยังไม่เคยจัดทำ แม้ศาลอุทธรณ์จะมีคำสั่งให้ตนเป็น “ผู้จัดการมรดกร่วม” กับ “กฤษณ์” ตั้งแต่ต้นปี 2566 ปัจจุบันก็ยังจัดไม่ได้ เพราะไม่ได้รับความร่วมมือ ซึ่งรายละเอียดคือ
“พี่ชายผม(กฤษณ์) เป็นผู้จัดการมรดกมาตลอด จนกระทั่งผมเป็นผู้จัดการมรดกร่วมเมื่อปี 2566 ก็ไม่ได้รับความร่วมมือ เพราะการจะทำบัญชีทรัพย์สินต่างๆ ต้องได้รับความร่วมมือจากผู้จัดการมรดกท่านอื่นด้วย(กฤษณ์)”
คุณแม่มีทรัพย์มรดกกว่าหมื่นล้าน!
ณพ เล่าว่า เมื่อตนได้เป็นผู้จัดการมรดกร่วม มีโอกาสตรวจสอบข้อมูล และเห็นบางอย่าง แต่ไม่ทั้งหมด เนื่องจากทรัพย์สินของมารดามีมากพอสมควร โดยสิ่งที่ตั้งข้อสังเกตการแบ่งทรัพย์มรดก
“ผมขออนุญาตยกตัวอย่าง คุณแม่เขียนพินัยกรรมไว้ชัดเจนในส่วนของหลานๆ ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องกับคดีอะไรต่างๆ อยู่แล้ว หลานๆคือ ลูกชายผมเพิ่งได้รับการแบ่งมรดกเมื่อปีที่แล้วเอง แล้วได้คนละล้านกว่าบาท ในขณะที่เลขาฯของคุณพ่อ หลังคุณแม่เสียไปแล้ว 4 เดือน ก็ได้รับการจัดสรร แล้วผมเพิ่งรับทราบว่าจัดสรรให้แม่บ้านด้วย เรื่องเหล่านี้ผมต้องมาตรวจสอบอีกทีทั้งหมดนะครับ"
เมื่อถามถึงทรัพย์มรดกของมารดามีมากเพียงใด ณพ ประเมิน “มากกว่าหมื่นล้านบาท”
“ส่วนทรัพย์สินของคุณแม่นี่ เรียนว่ามีมากกว่าหมื่นล้านบาท..เยอะครับ แต่ถามว่าจำนวนเท่าไร ผมยังไม่มีบัญชีทรัพย์สิน ผมยังตรวจสอบไมได้”
ณพ ขยายความว่า ตั้งแต่คุณหญิงพรทิพย์จากไป ธุรกิจที่ตนเองทำ เช่น เคพีเอ็น มิวสิค อคาเดมี สถาบันดนตรี สถาบันสอนภาษา เป็นธุรกิจส่วนตัวทั้งสิ้น ธุรกิจพลังงานที่มีข้อพิพาท ตนก็เป็นผู้ลงทุน ธุรกิจโรงพยาบาลนวเวช ที่ถือหุ้นอยู่ ก็เป็นคนลงทุน รวมถึงธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ “เคพีเอ็น แลนด์” ตนถือหุ้นสัดส่วน 1 ใน 3 ซึ่งปัจจุบันเคพีเอ็น แลนด์เป็นผู้ถือหุ้นบริษัทมหาชนใหญ่แห่งหนึ่ง ตนจึงเป็นผู้ถือหุ้นทางอ้อม เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม แนวทางการจัดการมรดก ณพ ระบุว่า ต้องปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม
พ่อฟ้องเรียกสินสมรสคืนทั้งหมด ศาลพิพากษาให้ชนะคดี!
ท่ามกลางประเด็นความขัดแย้งของ 3 พี่น้อง ฝั่ง “กฤษณ์-กรณ์” ผู้พี่มักจะไม่ให้สัมภาษณ์มากนัก แต่น้องชายคนเล็ก “กรณ์” จะทำหน้าที่แทน เช่นเดียวกัน เมื่อศาลพิพากษาคดียักยอกทรัพย์ค่าเช่าที่ดิน 35 ล้านบาท “กรณ์” พร้อมกับ “พิชา ป้อมค่าย” ทนายความ ได้ให้ข้อมูลกับสื่อมวลชน
การแบ่งทรัพย์มรดก ได้มีคดีใหม่เกิดขึ้น เมื่อ ดร.เกษม ได้ฟ้องเรียกคืนสินสมรสทั้งหมด และศาลพิพากษาให้ดร.เกษม ชนะคดี
“คู่กรณีจึงต้องคืนทรัพย์สินทั้งหมด รวมถึงที่ดินแปลงนี้(แปลงที่ฟ้องร้องยักยอกค่าเช่าที่ดิน 35 ล้านบาท)ในส่วนของคุณพ่อด้วย” ณพ เรียกพี่ชายคนรองว่า “คู่กรณี”
แจงเงินร้อยโล และผู้พิพากษาเข้า-ออกบ้าน
คู่กรณีมีการพาดพิงถึง “เงินร้อยโล” กรณ์ กล่าวว่า เมื่อศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องคดีเกี่ยวกับคดีหุ้นวินด์ เอนเนอร์ยี่ จึงใช้สิทธิตามกฎหมายให้มีการคุ้มครองชั่วคราวทรัพย์มูลค่า 3,400 ล้านบาท ซึ่งศาลให้วางเงินประกันความเสี่ยงเสียหายมูลค่า 100 ล้านบาท โดยไม่มีจ่ายนอกจ่ายใน และมีหลักฐานทุกอย่าง สามารถไปตรวจสอบที่ระบบศาลได้
ส่วนข้อร้องเรียนอธิบดีผู้พิพากษา และรองอธิบดีผู้พิพากษาศาลแห่งหนึ่งต่อ คณะกรรมการตุลาการ (ก.ต.) พร้อมระบุมีการเข้าออกบ้านของอีกฝ่าย โดยมีคลิปหลักฐาน เป็นสิ่งที่คู่กรณีกล่าวมานานหลายปีแล้ว หากมีหลักฐานคลิปให้นำมายืนยันเท่านั้น
“เพราะเราก็ยืนยันความบริสุทธิ์ของเรา และยืนยันไม่รู้จักผู้พิพากษาที่คู่กรณีร้องเรียนทั้ง 2 ท่าน เคยเจอเพียงครั้งเดียวที่ศาล ตอนที่ไปให้ความเท่านั้นเอง ส่วนเงินร้อยโล เพิ่งได้ยินเมื่อครู่ที่เขาแจ้งต่อศาล(ณ วันที่ 19 มี.ค.ที่ศาลพิจารณาคดียักยอกค่าเช่าที่ดิน 35 ล้านบาท)”
รอ 6-7 ปีค่อยมาเอาเรื่องแบ่งมรดก ดูไม่ Make sense
ปัจจุบันปมใหญ่คือ “แบ่งมรดก” กรณ์ มองประเด็นที่ “คู่กรณี” กล่าวอ้างว่าไม่เคยได้แบ่งทรัพย์ของมารดา โดยตั้งแต่ท่านเสียไป 6-7 ปี ก็ไม่เคยมีข้อโต้แย้ง กระทั่งเกิดคดีฟ้องร้องกัน จึงมีเรื่องมีราวว่าไม่ได้รับการแบ่งทรัพย์สิน
“ถ้าถามผม..ในฐานะผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ผมก็ได้รับทุกอย่างครบหมดแล้ว แล้วก็ถามอีกอย่าง ถ้าสมมติผมไม่ได้จริงๆ ผมจะรอ 6-7 ปีแล้วมาเอาเรื่องเหรอ ก็ดูไม่ Make sense นะครับ”
พ่อตรอมใจสุด ไม่โทษ ไม่โกรธใคร มูฟออนใช้ชีวิต
กรณ์ เล่าว่า ปี 2568 เข้าปีที่ 8 ของความร้าวฉาน 3 พี่น้องตระกูล “ณรงค์เดช” โดย 2-3 ปีแรก ที่ครอบครัวเกิดปัญหา “ท้อมาก” เนื่องจากชีวิตเจอเรื่องดีๆ มา และมองโลกสวยมาโดยตลอด มองคนดีไปหมด คนคิดดีกับตนเอง ซึ่งไม่ใช่แบบนั้นเสมอไป และสุดท้าย ความเป็นจริงให้บทเรียนที่ดีในการสอนลูกหลาน เมื่อเกิดเรื่องในอนาคตจะได้แข็งแรง จัดการปัญหาต่างๆได้
“กรณีนี้สงสารจับใจที่สุดคือ คุณพ่อ ช่วงที่เจอปัญหาหนักมาก คุณพ่อน้ำหนักลดเหลือ 42 กิโลกรัม ต้องนั่งป้อนข้าวทีละคำ เพราะคุณพ่อตรอมใจมาก ไม่ยอมทานข้าว วันนี้ก็ดีใจที่ท่านกลับมาแข็งแรง ซึ่งคุณพ่อบอกว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตไม่โกรธ ไม่โทษใครทั้งสิ้น แต่ละคนมีวิถีในการดำเนินชีวิตตัวเอง สิ่งที่เกิดขึ้นเรานำมาเป็นภูมิคุ้มกัน สอนลูก สอนหลานเราดีกว่า เพราะทุกคนมีปัญหาหมด ไม่ใช่แค่ครอบครัวผม แต่จะเล็กจะใหญ่เท่านั้น และชีวิตที่เหลืออยู่ คุณพ่ออยากจะมูฟออน และใช้ชีวิตกับลูกหลาน”
อย่างไรก็ตาม รอยร้าวนี้ กรณ์ ย้ำว่ายากประสาน และเลยจุดนั้นมาแล้ว ส่วนปัญหาที่ยังคงอยู่ มองเป็น Part หนึ่งของชีวิต อยู่กับสิ่งนี้ได้คุ้นชินมากขึ้น จากเคยมองเป็นปัญหาใหญ่ ขอเดินหน้าทำธุรกิจการค้า เลี้ยงลูก และจัดการปัญหาที่มี
“ที่ทำตอนนี้คือ ทำใจ”
สรุปข้อโต้แย้ง
เนื่องจากคู่กรณีตั้งปมสงสัยหลายประเด็น ทนายพิชา จึงให้ข้อมูลประเด็นยักยอกทรัพย์ค่าเช่าที่ดิน 35 ล้านบาท โจทก์ฟ้องว่า เงินที่บริษัทได้รับมาเป็นเงินที่นายกฤษณ์ รับไป ทั้งที่ความเป็นจริงไม่ใช่ เนื่องจากเป็นเงินที่บริษัทจ่ายให้กับบริษัท ซีบีเอ็นพี จำกัด แต่ศาลได้วินิจฉัยว่าเกี่ยวข้องกับ “กฤษณ์ “เพราะถือหุ้นในบริษัทดังกล่าว แต่จำเลยก็เคารพคำพิพากษา แต่ฝั่งจำเลย และทนายความไม่เห็นพ้องด้วย ประเด็นนี้ต้องดำเนินการต่อสู้ในศาลชั้นอุทธรณ์ และศาลฎีกาต่อไป
สำหรับที่ดินแปลงดังกล่าว เดิม “กฤษณ์” เป็นผู้จัดการมรดกเพียงผู้เดียว แต่มีการโอนกรรมสิทธิ์ใส่ชื่อทั้ง 3 คน และมีการปล่อยเช่าช่วงให้บริษัทอื่น โดยรายได้ค่าเช่ามีการจ่ายเข้าบัญชีกองมรดก ซึ่งกองมรดกดังกล่าวแบ่งให้เจ้าของมรดกไปหมดแล้ว แต่ตอนนี้คู่กรณีต้องการแตะเงินค่าเช่าช่วงด้วย
เดิมการแบ่งกองมรดกที่ดินแปลงนี้ต้องหาร 3 แต่ปัจจุบันเหลือ 1 ใน 6 เนื่องจากที่ดินแปลงนี้เป็น “สินสมรส” ของ ดร.เกษม
“หากโจทก์ต้องการเงินค่าเช่า ขอเรียนว่าทาง 2 พี่น้อง(กฤษณ์-กรณ์) เคยมีหนังสือไปให้โจทก์มาทำสัญญาเช่าด้วยกัน ก็ไม่ยอมมาทำ จนปัญญา..ตอนนี้ต้องพูดว่าจนปัญญา ไม่รู้จะทำอย่างไร จึงขอให้ศาลใช้ดุลยพินิจ”
ส่วนประเด็นการเป็นผู้จัดการมรดกร่วม การแบ่งทรัพย์มรดกของคุณหญิงพรทิพย์ เรียนให้ทราบว่า มีการจัดทำบัญชีทรัพย์ยื่นต่อศาล รายละเอียดทุกอย่างมีการชี้แจงต่อศาลทั้งหมด หากมีข้อสงสัย ข้อโต้แย้งประการใด “คู่กรณี” สอบถามมาได้ทั้งหมด ไม่มีอะไรปกปิด
นอกจากนี้ ยังมีพินัยกรรมยกทรัพย์สินเกินกว่าส่วนของตน เช่น ที่ดินซึ่งมีบริษัทเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ ไม่ใช่ชื่อคุณหญิงพรทิพย์ จะยกให้ใครไม่ได้ ตรงนี้ก็จนปัญญาแบ่ง ถ้าทรัพย์ที่เป็นชื่อคุณหญิงพรทิพย์ ถูกแบ่งให้หมด เป็นต้น
“ทรัพย์อะไรที่แบ่งเราแถลงต่อศาลทั้งหมด ไม่มีอะไรปกปิด สงสัยตรงไหนตรวจสอบได้ เรายื่น แถลงต่อศาลหมดแล้วทั้งโฉนดที่ดิน หุ้น ฯลฯ ทรัพย์ส่วนใหญ่แบ่งแล้ว มีบางอย่างมีปัญหา เช่น พินัยกรรมสั่งให้นำที่ดินใส่ชื่อร่วม 3 คน แบ่งไม่ได้ เพราะพินัยกรรมระบุไม่ให้ขายที่ดิน ที่ดินบางโฉนดมูลค่าน้อย คุณกฤษณ์ไม่สนใจ หากอยากได้ก็เอาไปเลย"
อ่าน ปมซื้อขายหุ้นร้อน วินด์ เอนเนอร์ยี่
อ่าน มหากาพย์ศึกสายเลือด "ณรงค์เดช"
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์