ยักษ์รีเทลหวัง มาตรการรัฐดันใช้จ่าย ค้าปลีกภูธรห่วงเงินดิจิทัลไม่ทั่วถึง

ยักษ์รีเทลหวัง มาตรการรัฐดันใช้จ่าย ค้าปลีกภูธรห่วงเงินดิจิทัลไม่ทั่วถึง

'ค้าปลีกรายใหญ่' หวังงบประมาณภาครัฐ ดิจิทัลวอลเล็ต ปลุกกำลังซื้อครึ่งปีหลัง ด้านค้าปลีก-ค้าส่งต่างจังหวัด ห่วงนโยบายเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท ไม่ชัด ซ้ำเติมผู้ประกอบการหนัก แนะรัฐพิจารณาเงื่อนไขรัดกุม เอื้อทุกกลุ่มได้ประโยชน์

สมาคมผู้ค้าปลีกไทย ได้มีการประเมินภาพรวมธุรกิจค้าปลีกและบริการในประเทศไทยช่วงครึ่งปีหลัง มีแรงหนุนจากนโยบายของภาครัฐ ทั้งโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจใหม่ๆ และโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาท ส่งผลให้กำลังซื้อในประเทศกลับมาคึกคักมากขึ้น แต่สิ่งสำคัญต้องดำเนินการให้ได้ตามเป้าหมายของโครงการนี้ พร้อมกระจายรายได้เข้าถึงทุกพื้นที่ เพิ่มกำลังซื้อผู้บริโภคและส่งเสริมธุรกิจของผู้ประกอบการทุกระดับ เชื่อว่าจะทำให้ค้าปลีกไทยในครึ่งปีหลัง กลับมาขยายตัวได้ดี

สำหรับภาพรวมตลอดปี 2567 สมาคมผู้ค้าปลีกไทย ได้การประเมินธุรกิจจะมีการขยายตัว 3-5% มีมูลค่าประมาณ 4.4 ล้านล้านบาท เป็นการขยายตัวในระดับต่ำใกล้เคียงกับจีดีพี จากแรงกดดัน ทั้งอัตราดอกเบี้ย ต้นทุนราคาสินค้า และหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูงต่อเนื่อง ทำให้ตลาดค้าปลีกในต่างจังหวัด​โดยเฉพาะภาคอีสานอยู่ในภาวะหดตัวมากกว่าภูมิภาคอื่นๆ

 

นายญนน์ โภคทรัพย์ ประธานสมาคมผู้ค้าปลีกไทย ได้ให้มุมมองต่อโครงการดิจิทัลวอลเล็ตไว้ว่า เป็นนโยบายที่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้ขยายตัวได้ในระยะสั้นทั้งช่วยเอัดฉีดเม็ดเงินให้เข้าถึงทุกพื้นที่ เกิดการหมุนเวียนเม็ดเงินอย่างมีศักยภาพ ช่วยบรรเทาภาระ ค่าครองชีพ ส่งเสริมธุรกิจของผู้ประกอบการในทุกระดับ

ยักษ์รีเทลหวัง มาตรการรัฐดันใช้จ่าย ค้าปลีกภูธรห่วงเงินดิจิทัลไม่ทั่วถึง

อย่างไรก็ตาม สมาคมฯ มีข้อคิดเห็นแนวทางการดำเนินมาตรการ อาทิ  มีความชัดเจนในการออกมาตรการและเงื่อนไข เพื่อสร้างความเข้าใจและมั่นใจให้กับประชาชนและผู้ประกอบการโดยเฉพาะร้านค้ารายย่อย ร้านสตรีทฟู้ด โชห่วย หาบเร่ แผงลอย  การพิจารณาหลักเกณฑ์อย่างรัดกุมให้ปฏิบัติได้จริงเพื่อให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างทั่วถึง สอดคล้องกับความต้องการ ความสะดวกในการใช้งาน และเอื้อประโยชน์อย่างแท้จริงต่อประชาชนและผู้ประกอบการ

 

ยักษ์รีเทลหวัง มาตรการรัฐดันใช้จ่าย ค้าปลีกภูธรห่วงเงินดิจิทัลไม่ทั่วถึง

บิ๊กค้าปลีกเชื่อมั่นครึ่งปีหลังกำลังซื้อคึกคัก

นายอัศวิน เตชะเจริญกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ภาพรวมค้าปลีกไทยในช่วงครึ่งปีหลัง มีปัจจัยบวกมาจากนโยบาย ดิจิทัลวอลเล็ตที่ออกมาในช่วงไตรมาส 4 และการเร่งงบประมาณออกมา รวมถึงนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนโครงการใหม่ๆ ในประเทศ เชื่อว่าจะทำให้ค้าปลีกครึ่งปีหลังและตลาดต่างจังหวัดกลับมาคึกคักได้อีกครั้ง จึงส่งผลต่อภาพรวมเศรษฐกิจในประเทศไทยกลับมาขยายตัวได้ดี

ขณะที่ภาพรวมช่วงไตรมาสแรกค้าปลีกยังไม่คึกคัก ตามแรงกดดันของภาวะกำลังซื้อของลูกค้าที่ชะลอตัว และภาวะเศรษฐกิจ ไปจนถึงหนี้ครัวเรือนที่สูง รวมถึงการท่องเที่ยวที่ยังไม่กระจายตัวไปในเมืองรอง ทำให้ค้าปลีกโดยเฉพาะตลาดในต่างจังหวัดชะลอตัว เห็นได้ชัดเจนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่จะซบเซามากกว่าภาคอื่นๆ และลูกค้าลดการเลือกซื้อสินค้าที่มีขนาดใหญ่อย่างเครื่องใช้ไฟฟ้า เป็นต้น

 

ยักษ์รีเทลหวัง มาตรการรัฐดันใช้จ่าย ค้าปลีกภูธรห่วงเงินดิจิทัลไม่ทั่วถึง

ยักษ์รีเทลหวัง มาตรการรัฐดันใช้จ่าย ค้าปลีกภูธรห่วงเงินดิจิทัลไม่ทั่วถึง

หวังดิจิทัลวอลเล็ตเข้าถึงทุกกลุ่ม

นายอธิพล ตีระสงกรานต์  รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟู้ดแลนด์ซุปเปอร์มาร์เก็ต จำกัด กล่าวว่า อยากให้นโยบาย ดิจิทัลวอลเล็ต ออกมาให้ผู้ประกอบการในต่างจังหวัด ผู้ประกอบการรายย่อยได้ประโยชน์มากกว่า เพราะเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบมากสุดจากภาวะเศรษฐกิจและกำลังซื้อ หากสามารถเข้าไปช่วยกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจริง จะเป็นตัวแปรสำคัญทำให้ค้าปลีกและเศรษฐกิจกลับมาขยายตัวได้ดีในระยะยาวได้ การผลักดันนโยบายนี้ให้เข้าถึงผู้ประกอบการ ร้านค้า ในต่างจังหวัดมากที่สุด เพื่อทำให้กำลังซื้อกลับมาฟื้นตัว หากภาครัฐดำเนินนโยบายได้ตามแผนที่วางไว้ เชื่อว่าจะเป็นผลดีต่อเศรษฐกิจไทยในครึ่งปีหลัง

“ในมุมมองของฟู้ดแลนด์อยากให้นโยบาย ดิจิทัลวอลเล็ต ออกมาให้ผู้ประกอบการในต่างจังหวัด และผู้ประกอบการรายย่อยได้ประโยชน์มากกว่า เพราะเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบมากสุดจากภาวะเศรษฐกิจและกำลังซื้อ แต่ฟู้ดแลนด์ไม่ได้เข้าเงื่อนไขตามหลักเกณฑ์ที่ภาครัฐประกาศออกมาอยู่แล้ว โดยหากนโยบายนี้สามารถเข้าไปช่วยกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจริง จะเป็นตัวแปรสำคัญทำให้ค้าปลีกและเศรษฐกิจกลับมาขยายตัวได้ดีในระยะยาวได้”

นายมิลินทร์ วีระรัตนโรจน์ ผู้บริหารตั้งงี่สุน จังหวัดอุดรธานี กล่าวว่า มาตรการเงินดิจิทัลวอลเล็ตที่มีผลในช่วงไตรมาส 4 ของปีนี้ กำหนดหลักเกณฑ์ร้านค้าขนาดเล็กที่เข้าเกณฑ์ต้องมีขนาดไม่เกิน 300 ตร.ม. ทำให้ร้านค้าปลีก-ค้าส่งในตลาดต่างจังหวัดจำนวนมาก รวมถึงร้านค้าปลีก-ค้าส่ง “ตั้งงี่สุน” ไม่สามารถเข้าร่วมโครงการได้ จากขนาดพื้นที่สาขาที่มีมากกว่า 300 ตร.ม.

ทั้งนี้อยากให้ภาครัฐมีการพิจารณาอย่างรอบคอบ นโยบายดิจิทัลวอลเล็ตออกมาแล้วไม่ได้เป็นผลดีต่อผู้ประกอบการค้าปลีกในต่างจังหวัดผู้ประกอบการโลคอลค้าปลีก-ค้าส่งไม่สามารถเข้าร่วมโครงการได้ หากยังกำหนดหลักเกณฑ์ร้านค้าขนาดเล็ก ที่ต้องมีขนาดต่ำกว่า 300 ตร.ม.

ยักษ์รีเทลหวัง มาตรการรัฐดันใช้จ่าย ค้าปลีกภูธรห่วงเงินดิจิทัลไม่ทั่วถึง

"อยากให้ภาครัฐมีการพิจารณานโยบายนี้อย่างรอบคอบและกำหนดนโยบายให้ชัดเจน แต่หากภาครัฐยังคงดำเนินนโยบายแบบเดิม เชื่อว่าภาพรวมตลาดค้าปลีกในต่างจังหวัดครึ่งปีหลังยังไม่ฟื้นตัว เนื่องจากมีแรงกดดันจากซัพพลายเออร์ที่ลดการทำโปรโมชั่น และคุมเข้มเรื่องเครดิตการค้ากำหนดให้ในเวลา 60 วันเท่านั้น เพื่อควบคุมต้นทุนและทำให้เงินสดเข้าสู่บริษัทเร็วที่สุด จึงประเมินภาพรวมตลาดค้าปลีกโลคอลทั้งปีนี้จะชะลอตัวจากปีก่อน ส่วนแนวทางการปรับตัวของผู้ประกอบการต้องมุ่งบริหารต้นทุนให้ดีที่สุด"

สำหรับช่วงไตรมาสแรกในตลาดต่างจังหวัดอยู่ในภาวะทรงตัวเมื่อเทียบกับปีก่อน เนื่องจากกลุ่มลูกค้ายังได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจในประเทศและกำลังซื้อ รวมถึงผลกระทบจากหนี้ครัวเรือน ทำให้ลูกค้าระมัดระวังในการใช้จ่ายสูงและประหยัดมากขึ้น รวมถึงภาครัฐยังไม่มีนโยบายออกมากระตุ้นกำลังซื้อในตลาดต่างจังหวัดโดยตรง