ศรีไทยฯ ทุ่มพันล้านลงทุนเวียดนามต่อยอดธุรกิจ แนะเอกชนเร่งยกระดับการผลิต

ภาพรวมอุตสาหกรรมไทยนอกจากเผชิญภาวะเศรษฐกิจและกำลังซื้อชะลอตัวแล้ว ยังต้องรับมือการแข่งขัน “สงครามราคา” ช่วงชิงยอดขาย ดังนั้นการเร่งปรับตัวรับมือกับสถานการณ์และความผันผวนต่างๆ เป็นสิ่งสำคัญอย่างมากของผู้ประกอบการไทย

สนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการ บริษัท ศรีไทยซุปเปอร์แวร์ จำกัด (มหาชน) ในฐานะประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวกับ กรุงเทพธุรกิจ กับ การปรับตัวของภาคเอกชนไทยในปี 2567 จำเป็นต้องเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าให้สูงมากขึ้น เพื่อเพิ่มศักยภาพรับมือการแข่งขันที่มีความรุนแรงมากขึ้น รวมถึงรับมือกับต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจากค่าแรงที่มีโอกาสปรับขึ้นในเดือน พ.ค.นี้

“การปรับตัวของผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทยสิ่งสำคัญคือการมุ่งสร้างนวัตกรรม ร่วมเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้า พร้อมหาทางทำให้เข้าถึงแหล่งเงินทุนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าในอนาคต”

ทั้งนี้ หอการค้าไทยได้คาดการณ์ภาพรวมเศรษฐกิจไทยปี 2567 มีโอกาสขยายตัวดีขึ้นและจากสัญญาณเศรษฐกิจโลกที่ขยายตัว รวมถึงแนวโน้มเศรษฐกิจไทยในครึ่งปีหลังมีโอกาสเติบโตดีขึ้นจากแรงหนุนของอัตราดอกเบี้ยในประเทศที่มีโอกาสปรับลดลง และทิศทางการลงทุนในประเทศที่เพิ่มขึ้น

ต่างชาติลงทุนไทย อินเดียเข้ามาลงทุนดาต้า มูลค่า 1.50 หมื่นล้าน

ล่าสุด บริษัทด้านไอทีจากประเทศอินเดีย ประกาศแผนลงทุนในประเทศไทย มูลค่า 15,000 ล้านบาท เข้ามาลงทุนในเทคโนโลยีดาต้า รวมถึงบริษัทประเทศจีน ได้ประกาศแผนเข้ามาลงทุนจำนวนหลายแห่งในก่อนหน้านี้ ช่วยหนุนเศรษฐกิจของประเทศไทยอีกด้าน

ประกอบกับภาครัฐบาลมีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงที่ผ่านมา และการเร่งเจรจาเปิดเสรีการค้า (เอฟทีเอ) ในหลายประเทศและการจัดงานเทศกาลสงกรานต์ครั้งใหญ่ในเดือน เม.ย.นี้

แผนของศรีไทยซุปเปอร์แวร์ในปี 2567 ขยายลงทุนเวียดนาม

สำหรับแผนการลงทุนของ ศรีไทยซุปเปอร์แวร์ ในปี 2567 บริษัทได้เตรียมงบกว่า 1,000 ล้านบาท สำหรับการเข้าไปซื้อธุรกิจในประเทศเวียดนามในกลุ่มพลาสติกเพื่อต่อยอดธุรกิจในเครือ รวมถึงการเข้าไปลงทุนในธุรกิจอื่นๆ ที่มีศักยภาพ โดยในปีนี้งบลงทุนของบริษัทสูงกว่าปีก่อน ที่ใช้งบลงทุนประมาณ 200 ล้านบาท ร่วมปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตภายใน

ปัจจุบันโรงงานของบริษัทมีอยู่ทั้งในประเทศไทย เวียดนาม อินเดีย เมียนมา และอินโดนีเซีย โดยสัดส่วนยอดขายมาจากตลาดในประเทศ 50% ต่างประเทศ 50% ประเมินว่า ในอนาคต ยอดขายจากตลาดต่างประเทศจะขยายตัวสูงมากขึ้นเนื่องจากมีขนาดใหญ่ขึ้น

“ศรีไทยซุปเปอร์แวร์ มีสถานะทางการเงินที่มีความแข็งแกร่ง และมีสภาพคล่อง รวมถึงมี DE อยู่ในระดับที่ต่ำ ทำให้บริษัทพร้อมขยายและหาโอกาสลงทุนใหม่ๆ ในปีนี้ เพื่อต่อยอดธุรกิจในเครือให้แข็งแกร่งมากขึ้น”

อย่างไรก็ตาม บริษัทประเมินว่า ภาพรวมยอดขายของบริษัทในสิ้นปี 2567 จะกลับมาขยายตัว 8-10% จากในปีก่อน ที่ภาพรวมยอดขายอยู่ในระดับทรงตัว เนื่องจากภาพรวมกำลังซื้อในประเทศและเศรษฐกิจโลกกำลังฟื้นตัว ส่วนตลาดในประเทศ ประเมินว่ายอดขายจะขยายตัว 2-3%