รุกจัด คินอันยูเก้น อาเซียน งานแสดงสินค้าเพื่อแม่และเด็ก ดันไทยฮับอาเซียน

Key Points: 

• เดินหน้าจัดงาน“Kind + Jugend ASEAN 2024 ที่ประเทศไทย
• ชี้ตลาดของเล่นเพื่อแม่และเด็กขยายตัวสูง มูลค่า 2 หมื่นล้าน
• ภาคเอกชนต่างประเทศนใจร่วมงานในไทยคึกคัก จากมองโอกาสตลาด 
• หอการค้าชี้สัญญาณบวกไทยตลาดศูนย์กลางส่งออกในภูมิภาค
• สถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ ทีเส็บ  อพวช. ร่วมหนุนตลาดของเล่นเด็ก

อีกหนึ่งงานใหญ่ประจำปีของประเทศไทยกับการจัดงาน “Kind + Jugend ASEAN 2024 (คินอันยูเก้น อาเซียน) ที่โคโลญเมสเซ่ จากเยอรมนี และ บริษัท โคโลญเมสเซ่ ประเทศไทย เลือกจัดงานในประเทศไทย เป็นลำดับที่สามของโลก ต่อจาก เยอรมนี และบราซิล พร้อมเดินหน้าจัดงานต่อเนื่องเป็นปีที่สอง จากความเชื่อมั่นในตลาดและกลุ่มลูกค้า รวมถึงแรงดึงดูดของประเทศไทยที่มีศักยภาพสูง

“ภูษิต ศศิธรานนท์” ที่ปรึกษาคณะกรรมการบริหาร บริษัท เอ็กซ์โปลิงค์ โกลบอล
เน็ทเวอร์ค บริษัท โคโลญเมสเซ่ ประเทศไทย ฉายภาพการจัดงาน แสดงสินค้านานาชาติที่เกี่ยวเนื่องกับผลิตภัณฑ์และของใช้จำเป็นสำหรับแม่และเด็กแห่งภูมิภาคอาเซียน “Kind + Jugend ASEAN” ในประเทศไทย ต่อเนื่องเป็นปีที่สองแล้ว แสดงถึงศักยภาพของตลาดในประเทศไทยที่มีทิศทางการขยายตัว ในกลุ่มผลิตภัณฑ์แม่และเด็ก โดยโคโลญเมสเซ่ จากเยอรมนี บริษัทที่ได้จัดงานแสดงสินค้า มีการจัดงานระดับโลกปีละ 60 งาน วางแผนจะขยายหลักมาจัดในไทยเพิ่มมากขึ้น

สำหรับในปี 2567 วางแผนจัดงานใหญ่รวม 5-6 งาน เริ่มจาก Kind + Jugend ASEAN โดยในปีนี้ ได้รับความสนใจจากกลุ่มพาร์ทเนอร์ในทั่วโลกเข้ามาร่วมงาน จึงต้องการขยายพื้นที่จัดงานถึง 35% เพื่อรองรับความต้องการของพาร์ทเนอร์ โดยเฉพาะจากประเทศจีนที่สนใจเข้ามาร่วมจัดในไทย และปักหลักในประเทศไทยเป็นประเทศแรกที่ทำตลาด ก่อนขยายไปในตลาดอื่นๆ ของภูมิภาคอาเซียน

ทั้งนี้มีแบรนด์สินค้าแม่และเด็กชั้นนำกว่า 300 แบรนด์ 7 โปรไฟล์ตามประเภทของสินค้า ครอบคลุมทุกความต้องการ โดยมุ่งเน้นสินค้าเชิงนวัตกรรม สินค้าที่ทำจากส่วนผสมธรรมชาติ ปลอดสารเคมี บรรจุภัณฑ์ที่มีความยั่งยืน สามารถใช้ซ้ำ และไม่เป็นขยะหรือสารเคมีต่อโลก 

 

สำหรับผู้เข้าชมงาน Kind + Jugend ASEAN 2024 ประเมินไว้กว่า 4,000 ราย มาจากภูมิภาคอาเซียน และมีการเจรจาธุรกิจที่คาดว่าจะสร้างมูลค่าการซื้อขายในงานมูลค่ากว่า 2,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเท่าตัวจากปีก่อน ที่สามารถสร้างมูลค่าการซื้อขายในงานกว่า 1,000 ล้านบาท

"ตลาดสินค้าที่เกี่ยวข้องกับแม่และเด็กในประเทศไทยมีมูลค่ามากกว่า 2.5 - 3 หมื่นล้านบาท เป็นตลาดที่มีการขยายตัวสูง และมีการส่งออกไปต่างประเทศปีละประมาณ 7,000 ล้านบาท มีแนวโน้มเติบโต 5%"

สนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการ หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย   กล่าวเสริมถึง ตลาดสินค้าแม่และเด็กในประเทศไทยว่า มีศักยภาพและมีโอกาสสูงจากการที่ประเทศไทยเป็นผู้ส่งออกสินค้าของเล่นเด็กที่มีความโดดเด่นด้านคุณภาพมาตรฐานของสินค้าและเป็นที่ยอมรับในตลาดต่างประเทศ ส่งผลให้ของเล่นเด็กเป็นสินค้าที่มีและมีแนวโน้มเติบโต โดยตลาดส่งออกสำคัญ คือ สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น จีน เยอรมนี เม็กซิโก และสหราชอาณาจักร ตามลำดับ

สำหรับสินค้าที่มีการส่งออกสูงคือ รถจักรยานสามล้อ สกูตเตอร์ รถยนต์ที่ใช้เท้าถีบ และของเล่นมีล้อที่คล้ายกัน รถเข็นสำหรับตุ๊กตา ของเล่นสำหรับฝึกสมองทุกชนิด สำหรับกานร่วมสนับสนุนงานในปีนี้ จึงร่วมผลักดันผู้ประกอบการไทยในการส่งออกสู่ตลาดต่างประเทศ พร้อมสร้างโอกาสการลงทุน

“ปัจจุบันประชากรในภูมิภาคอาเซียน มีจำนวนกว่า 660 ล้านคน และมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น โดยจากข้อมูลพบว่า กลุ่มประเทศอาเซียนที่มีอัตราการเกิดสูงที่สุด 5 อันดับแรกได้แก่ ลาว ฟิลิปปินส์ กัมพูชา เมียนมาร์ และอินโดนีเซีย ส่วนประเทศผู้นำด้านตลาดสินค้าแม่และเด็ก ได้แก่ ไทย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย และเวียดนาม”

ดร.ชาญชัย สิริเกษมเลิศ ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ กล่าวว่า สถาบันฯ พร้อมร่วมเป็นศูนย์กลางส่งเสริมและพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มของประเทศให้ขยายตัว โดยเป็นหน่วยงานกลางประสานงานกับ สสว. ส่งเสริมและอำนวยความสะดวกผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ที่ต้องการทั้งเงินทุนและองค์ความรู้ในด้านต่าง ๆ เพื่อยกระดับมาตรฐานของอุตสาหกรรม ให้สามารถเข้าร่วมงานแสดงสินค้านานาชาติในประเทศไทย ร่วมเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันระดับต่างประเทศ ผ่านมาตรการส่งเสริมและสนับสนุนผู้ประกอบการ ภายใต้โครงการส่งเสริมผู้ประกอบการผ่านระบบ BDS

นายดวงเด็ด ย้วยความดี ผู้อำนวยการฝ่ายอุตสาหกรรมการแสดงสินค้านานาชาติ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ ย้ำว่า การจัดงานแสดงสินค้านานาชาติ เป็นงานที่มีศักยภาพสูง และดึงดูดรายได้เข้าสู่ประเทศจำนวนมาก เห็นได้จากยอดผู้เข้ามาร่วมงาน จะมีการใช้จ่ายสูงถึง 6 หมื่นบาทต่อคนต่อครั้ง มากกว่าท่องเที่ยวทั่วไทยถึง 3 เท่า 

"ทีเส็บมีนโยบายส่งเสริมให้เกิดการขยายตัวของตลาดและเพิ่มศักยภาพการค้าการลงทุนในแต่ละอุตสาหกรรมผ่านงานแสดงสินค้านานาชาติ"

ทั้งนี้การจัดงานแสดงสินค้า Kind + Jugend ASEAN จึงเป็นงานแสดงสินค้าที่เปิดให้ผู้ประกอบการทั้งในและต่างประเทศ ได้มีโอกาสนำเสนอสินค้า พบปะกับผู้ประกอบการในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องและเกิดการจับคู่ธุรกิจระหว่างผู้ผลิต ผู้นำเข้าและผู้ส่งออก โดยทีเส็บได้สนับสนุนการจัดงานในครั้งนี้ โดยเฉพาะการสนับสนุนทางด้านการตลาดและประชาสัมพันธ์ เพื่อส่งเสริมให้ผู้จัดงานเพิ่มตัวเลขผู้เข้าร่วมงานจากต่างประเทศ สร้างโอกาสให้เกิดการเชื่อมโยงและต่อยอดธุรกิจ ยกระดับงานแสดงสินค้าแม่และเด็กให้เป็นแพลตฟอร์มสำคัญในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ นวัตกรรมที่มีความสร้างสรรค์และบริการของผู้ประกอบการ พร้อมให้ไทยเป็นศูนย์กลางของตลาดระดับภูมิภาคและขยายตลาดสินค้าแม่และเด็กไปสู่ตลาดโลก

นายสุวรงค์ วงษ์ศิริ รองผู้อำนวยการองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) กล่าวว่า งานในปีนี้ อพวช. ได้สนับสนุนและนำนิทรรศการชุด Plearn Science Explorer, ชุดสื่อการเรียนรู้ NSM Plearn Science และกิจกรรม I-SCREAM มาจัดแสดงเพื่อส่งเสริมให้เด็กได้เรียนรู้และเข้าถึงวิทยาศาสตร์ได้ง่ายขึ้น ตอกย้ำว่าวิทยาศาสตร์มีความสำคัญกับเด็กปฐมวัย เนื่องจากเป็นวัยที่มีความอยากรู้อยากเห็น การปลูกฝังเด็กให้เติบโตไปพร้อมกับกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ถือเป็นการวางรากฐานทางด้านวิทยาศาสตร์ให้กับเด็กและเยาวชน นำไปสู่การเกิดความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐและเอกชนในการส่งเสริมกิจกรรมวิทยาศาสตร์ ซึ่งจะเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนและพัฒนาประเทศต่อไป อีกทั้งช่วยสร้างศักยภาพให้ตลาดสินค้าแม่และเด็กภูมิภาคอาเซียนเติบโตต่อเนื่อง

สำหรับงาน Kind + Jugend ASEAN 2024 มีกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 25-27 เมษายน 2567 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ฮอลล์ 5-6 กรุงเทพฯ