ลุ้นงบรัฐ-สงกรานต์-ซอฟต์พาวเวอร์ คินชีพ ‘ธุรกิจอีเวนต์ปี67’ โตเต็มร้อย

ลุ้นงบรัฐ-สงกรานต์-ซอฟต์พาวเวอร์ คินชีพ ‘ธุรกิจอีเวนต์ปี67’ โตเต็มร้อย

ผ่าสถานการณ์อุตสาหกรรมอีเวนต์ปี 2567 กลับมาฟื้นตัวเต็มร้อย จับตาแรงส่งสำคัญจากภาครัฐขับเคลื่อน “ซอฟต์พาวเวอร์” นำร่องงานใหญ่ “มหาสงกรานต์” เดสทิเนชันดึงนักท่องเที่ยว คาดเงินสะพัด 3 หมื่นล้านบาท

Key Points :

  • อีเวนต์ปี 2567 จะกลับมาเติบโตเต็มร้อยเท่าปี 2562 ก่อนเกิดโควิด-19 ระบาด และเม็ดเงิน 1.5 หมื่นล้านบาท
  • แรงหนุน รัฐใช้จ่ายงบประมาณ การคิกออฟมหาสงกรานต์เพื่อเป็นเรือธงผลักดันซอฟต์พาวเวอร์ จะเป็นพลังขับเคลื่อนสำคัญอีเวนต์
  • ไทยจะแข่งเป็นเดสทิเนชันโลก รัฐต้องปรับมายด์เซ็ท เป็นคนนำหน้าลุยอีเวนต์ จัดกิจกรรมต่างๆ เหมือนรัฐบาลซาอุดีอาระเบีย ฮ่องกง 
  • อินเด็กซ์ ครีเอทีฟฯ เผยเทรนด์ Impressive และ Immersive Experience อีเวนต์แปลกใหม่ สุดว้าว!จะเป็นกุญแจสำคัญทำให้ผู้บริโภคยอมลุกจากบ้านไปร่วมงาน   

“อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ” คาดภาพรวมอีเวนต์ทั้งปีกลับมาทำเงิน 1.5 หมื่นล้านบาท กางแผนธุรกิจ เดินหน้าสร้างโปรเจคตัวเองทำรายได้มีเสถียรภาพ ปั้น “อินเตอร์เนชันแนล เมกะ แฟร์” เจาะขุมทรัพย์ต่างประเทศ

นายเกรียงไกร กาญจนะโภคิน ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่ม บริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ จํากัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจอีเวนต์ปี 2567 จะเข้าสู่ภาวะการฟื้นตัวกลับมาเต็มที่ หรือ 100% เหมือนกับปี 2562 ซึ่งเป็นช่วงก่อนเผชิญวิกฤติโรคโควิด-19 ระบาด ทั้งนี้ ปัจจัยสำคัญที่จะส่งผลบวก ประกอบด้วย 1.นโยบายสนับสนับของภาครัฐในการขับเคลื่อนซอฟต์พาวเวอร์ โดยมีบิ๊กอีเวนต์สำคัญที่จะเป็นตัวชูโรงคืองานมหาสงกรานต์ ที่จะจัดเป็นเวลา 1 เดือน

ลุ้นงบรัฐ-สงกรานต์-ซอฟต์พาวเวอร์ คินชีพ ‘ธุรกิจอีเวนต์ปี67’ โตเต็มร้อย

ซอฟต์พาวเวอร์ สงกรานต์ งบรัฐหนุนฟื้นตัว

ทั้งนี้ คาดการณ์สงกรานต์ปี 2567 จะทำเงินสะพัดในระบบเศรษฐกิจประมาณ 3 หมื่นล้านบาท จากนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเยือนจุดหมายปลายทางประเทศไทย และร่วมกิจกรรม มีการใช้จ่ายกิน เที่ยว และพักในโรงแรมต่างๆ โดยหมวดสินค้าที่จะได้อานิสงส์ยังเป็นอาหารและเครื่องดื่ม ขณะที่อุตสาหกรรมอีเวนต์จะได้รับเงินสะพัดราว 15% ของเงินก้อนใหญ่

2.นโยบายต่างๆของรัฐ ยังส่งผลต่อการเบิกจ่ายงบประมาณของรัฐด้วย ซึ่งปี 2566 ไม่มีเม็ดเงินในส่วนนี้ เนื่องจากกว่าจะจัดตั้งรัฐบาลได้ ค่อนข้างใช้เวลา ทำให้ปี 2567 งบรัฐจะผันมาสู่อีเวนต์เป็นแบบ 2 เด้ง 3.หน่วยงานท้องถิ่นของรัฐ เช่น องค์การบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.) เทศบาลเมืองต่างๆ ฯ จะมีการจัดกิจกรรม เทศกาล งานประเพณีประจำถิ่น รวมถึงอีเวนต์ต่างๆมากขึ้น ซึ่งแต่ละงานมีการใช้จ่ายค่อนข้างสูง เช่น งานเคาท์ดาวน์แต่ละจังหวัด งานสงกรานต์ โดยเทศบาลเมือง คาดว่าทุ่มทุนหลักสิบล้านบาท

“ปีนี้รัฐบาลเตรียมผลักดันซอฟต์พาวเวอร์ ต้องใช้จ่ายงบประมาณ อีกทั้งสงกรานต์น่าจะเป็นเครื่องมือที่รัฐใช้เคลื่อน และคิกออฟซอฟต์พาวเวอร์ งานต่างๆรัฐจะช่วยหนุน 100% คือทำให้งานที่จัดอยู่แล้วใหญ่ขึ้น ภาพรวมอีเวนต์ได้รับอานิสงส์และตลาดอยู่ในภาวะขาขึ้นแน่นอน”

 4.ภาคเอกชนยังคงเป็นหนึ่งในฟันเฟืองสำคัญของธุรกิจอีเวนต์ ปัจจุบันมีผู้ประกอบการหน้าเก่ากลับมาทำตลาดกันอย่างคึกคัก หลังจากช่วงโควิด-19 มีการปิด และหยุดดำเนินกิจการชั่วคราว รวมถึงผู้เล่นใหม่ๆที่เข้ามาทำตลาดในเซ็กเมนต์ของตัวเอง เช่น การจัดคอนเสิร์ต แฟนมีทศิลปินเกาหลี งานอีเวนต์เกย์แดนซ์ เฟสติวัลที่ใหญ่สุดในเอเชียอย่างจีเซอร์กิต การจัดคอนเสิร์ตอิเล็กทรอนิกส์ แดนซ์ มิวสิคหรืออีดีเอ็ม เป็นต้น

ลุ้นงบรัฐ-สงกรานต์-ซอฟต์พาวเวอร์ คินชีพ ‘ธุรกิจอีเวนต์ปี67’ โตเต็มร้อย

 

ชงรัฐเปลี่ยนมายด์เซ็ท นำหน้า ขับเคลื่อนกิจกรรมต่างๆ

ปัจจุบันหลายประเทศในโลก รวมถึงเอเชียหันมาโฟกัสการจัดอีเวนต์ดึงนักท่องเที่ยว และตั้งเป้าหมายเป็นเดสทิเนชันของนักเดินทางทั่วโลกมากขึ้น เพื่อปลุกเศรษฐกิจ เช่น ฮ่องกง ต้องการดึงคอนเสิร์ตระดับโลกไปจัดมากขึ้น ทำให้ไทยต้องแข่งขันกับนานาประเทศเข้มข้น ประเทศซาอุดีอาระเบีย รัฐบาลมีการสร้างเทศกาลบันเทิงและกีฬาหรือ Riyadh Season นำละครเพลงหรือเดอะมิวสิคัล เดอะแฟนธ่อมออฟดิโอเปร่าไปจัดแสดง เพื่อดึงดูดผู้คนไปเยือน เป็นต้น

 ทั้งนี้ เสนอแนะให้รัฐบาลเปลี่ยนมายด์เซ็ท เพื่อขยับสู่การแข่งขันระดับโลกในการเป็นเดสทิเนชัน โดยการเป็นผู้นำหน้า และมีเอกชนช่วยเสริม

“หากประเทศไทยต้องแข่งเป็นเดสทิเนชันท่องเที่ยวระดับโลก รัฐต้องเปลี่ยนมายด์เซ็ท และคนนำหน้า อย่างซาอุดีอาระเบีย ไม่ใช่เมืองท่องเที่ยวเลย แต่รัฐเป็นคนไดรฟ์นโยบาย ทำทุกอย่าง ดังนั้นสงกรานต์ของไทย เราสามารถทำให้ใหญ่ได้ และเพิ่มมูลค่า ไม่ใช่แค่ให้นักท่องเที่ยวมากิน ดื่ม พักในโรงแรม”

ลุ้นงบรัฐ-สงกรานต์-ซอฟต์พาวเวอร์ คินชีพ ‘ธุรกิจอีเวนต์ปี67’ โตเต็มร้อย

 

อินเด็กซ์ ครีเอทีฟฯ ปั้นอินเตอร์เนชันแนล เมกะแฟร์บุกต่างแดน

ด้านแนวทางดำเนินธุรกิจของอินเด็กซ์ ครีเอทีฟฯ ปี 2567 ยังคงให้ความสำคัญกับการสร้างสรรค์งานอีเวนต์ งานแฟร์ต่างๆ เป็นของตัวเองหรือ Own Creation มากขึ้น เพื่อสร้างรายได้ให้มีเสถียรภาพ การจัดงานมีกำหนดชัดเจน ลดความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนจากการจ้างงานของลูกค้า

ทั้งนี้ หนึ่งในบิ๊กอีเวนต์ที่บริษัทจะปลุกปั้นคืองานอินเตอร์เนชันแนล เมกะ แฟร์ ที่จะสร้างแบรนด์จริงจังเพื่อเจาะตลาดต่างประเทศ ให้น้ำหนักตลาดตะวันออกกลาง และแอฟริกา เป็นต้น ที่ผ่านมาได้นำร่องผ่านงาน “ไทยแลนด์ เมกะ แฟร์ 2023” ณ กรุงริยาด ประเทศซาอุดีอาระเบีย ผลตอบรับดีมาก มีทุนไทยเข้าร่วมงานและสร้างมูลค่าการค้าให้มีเม็ดเงินสะพัดแล้วหลักร้อยล้านบาท เช่น ธุรกิจรองเท้าส่งออกรองเท้าแตะไปยังประเทศซาอุฯกว่า 150 ล้านบาท บริษัทจำหน่ายต้นไม้ได้รับความสนใจสูงมาก เป็นต้น

“ประเทศซาอุฯ มีความน่าสนใจและช่องว่างตลาดให้สินค้าไทยเข้าไปบุกสูงมาก นอกจากโปรดักท์ด้านสุขภาพหรือเฮลธ์แคร์ หรือสิ่งที่ห้างค้าปลีกสยามพิวรรธน์ กลุ่มเอสซีจีไปรุกตลาด ในปี 2567 เราปรับกลยุทธ์ในการจัดงานเมกะ แฟร์ที่ซาอุฯ โดยจะจัดใหญ่ขึ้นจากเดิมพื้นที่ 6,000 ตารางเมตร(ตร.ม.) และจัดเร็วขึ้นเป็นเดือนตุลาคมหรือพฤศจิกายน จากเดิมธันวาคม”

ลุ้นงบรัฐ-สงกรานต์-ซอฟต์พาวเวอร์ คินชีพ ‘ธุรกิจอีเวนต์ปี67’ โตเต็มร้อย

 

ลุย New S-Curve ตั้งเป้าท้าทายขอโต 39%

ปี 2567 จะเห็นการจัดเทรดโชว์ทั้งสิ้น 7 งาน แบ่งเป็นไทย 2 งาน เช่น Wow Urban Expo ซึ่งเป็นงานใหม่ สิงคโปร์ 1 งาน คือ Singapore International Water Week เป็นงานใหม่ กัมพูชา 3 งาน เช่น เฮลธ์แอนด์บิวตี้ และประเทศซาอุฯ 1 งาน

นายเกรียงไกร กล่าวอีกว่า การจัดงานอีเวนต์จากนี้ไปจะต้องมอบประสบการณ์ สร้างความประทับใจหรือ Impressive และดื่มด่ำกับความสมจริงหรือ Immersive Experience เพื่อให้ผู้บริโภครู้สึกคุ้มค่าในการออกจากบ้านไปร่วมกิจกรรมมากขึ้น รวมถึงเทรนด์โลกคู่ขนานหรือมัลติเวิร์ส เช่น การเข้าไปอยู่ในโลกแห่งจินตนาการของเกมในงาน Ragnarok Real World Experience Bangkok ซึ่งปีนี้จะเห็นบริษัทจับมือกับพันธมิตร เจ้าของลิขสิทธิ์ คาแร็กเตอร์คอนเทนต์ต่างๆสร้างสรรค์อีเวนต์มากขึ้น

จากแผนดังกล่าว บริษัทคาดว่าจะผลักดันรายได้แตะ 1,433 ล้านบาท เติบโต 39% จากปีก่อน โดยสัดส่วนรายได้จาก Own Creation จะอยู่ที่ 16% จากปีก่อน 8% งานอีเวนต์ทางการตลาด 75% และกลุ่มธุรกิจ Creative Business Developent 9%

“เราลองผิดลองถูกมา 5 ปี รู้ว่าอะไรควรทำ ไม่ควรทำ เราต้องหา New S-Curve สร้างการเติบโต อย่างอีเวนต์ต้องสร้างประสบการณ์ใหม่ๆให้เกิดขึ้น เป็นสิ่งที่ควรค่าแก่ผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายจะออกจากบ้านไปร่วมงาน ยุคนี้อีเวนต์ทำอะไรเบาๆไม่ได้แล้ว ทุกอย่างต้องเป็นสิ่งที่ไม่เคยเห็นมาก่อน จากแผนดังกล่าวปีนี้เราจึงตั้งเป้าท้าทายจะเติบโต 39%”