'กลุ่มเซ็นทรัล' หนุน 'คาเดเว' ห้างหรูในเยอรมนีเข้าแผนฟื้นฟูธุรกิจ

Key Points: 

• กลุ่มเซ็นทรัล ถือหุ้นใหญ่ในกลุ่มคาเดเว ห้างหรูในเยอรมนี 3 แห่ง
• เป็นการลงทุนส่วนตัว (private investment) ของกลุ่มเซ็นทรัล ไม่เกี่ยวกับ เซ็นทรัลรีเทล และ เซ็นทรัลพัฒนา 
• ร่วมสนับสนุน ห้างคาเดเว ฟื้นฟูกิจการ พร้อมเปิดให้บริการตามปกติ 
• สาเหตุหลักมาจากค่าเช่าสูงกว่ามาตรฐาน โดยปรับขึ้น 37%
• ผลประกอบการสิ้น ก.ย.66 ยอดขายกว่า 2.80 หมื่นล้านบาท สูงสุดเป็นประวัติการณ์

กลุ่มเซ็นทรัล ผู้ถือหุ้นใหญ่ในกลุ่มคาเดเว ผู้ดำเนินธุรกิจห้างสรรพสินค้าหรูในเยอรมนี ชี้แจงถึงกรณีที่กลุ่มคาเดเวได้เข้าสู่กระบวนการฟื้นฟู โดยได้รับสิทธิในการบริหารแผนฟื้นฟูด้วยตนเอง (insolvency proceedings under self-administration) เพื่อสร้างแผนให้ธุรกิจกลับมาแข็งแกร่งอีกครั้ง สาเหตุหลักที่ทำให้ขาดทุนมาจากค่าเช่าสูงเกินมาตรฐาน ไม่เกี่ยวข้องกับความแข็งแกร่งทางการเงินของบริษัท

 

 

 

ทั้งนี้กระบวนการฟื้นฟูธุรกิจ คณะผู้บริหารนำโดยนายไมเคิล ปีเตอร์แซม ยังปฏิบัติหน้าที่และควบคุมการดำเนินงานของธุรกิจเช่นเดิม ซึ่งห้างสรรพสินค้าทั้ง 3 แห่ง ได้แก่ ห้างคาเดเว (KaDeWe) กรุงเบอร์ลิน, ห้างอัลสแตร์เฮาส์ (Alsterhaus) เมืองฮัมบูร์ก และห้างโอเบอร์โพลลิงเกอร์  (Oberpollinger) เมืองมิวนิก ยังเปิดให้บริการตามปกติ

นายวิททอริโอ ราดิเช กรรมการ กลุ่มเซ็นทรัลยุโรป กล่าวว่า การเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูของกลุ่มคาเดเว ไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจ เสถียรภาพทางการเงิน และความมั่นคงของธุรกิจอื่นๆ ของกลุ่มเซ็นทรัลในยุโรป กระบวนการดังกล่าวเป็นสถานการณ์เฉพาะของกลุ่มคาเดเว มาจากอัตราค่าเช่าที่สูงเกินมาตรฐาน ในทุกสาขาที่บริษัทดำเนินงานอยู่ และไม่เกี่ยวข้องกับความแข็งแกร่งทางการเงินของบริษัท

 

กลุ่มเซ็นทรัลพร้อมหนุนห้างทุกสาขาในยุโรป

ทั้งนี้ กลุ่มเซ็นทรัลเชื่อมั่นว่ากระบวนการฟื้นฟูจะช่วยนำมาซึ่งผลลัพธ์ที่ดีที่สุดต่อบริษัทและผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่าย โดยกลุ่มเซ็นทรัลมุ่งมั่นในการสนับสนุนกลุ่มคาเดเว และธุรกิจห้างสรรพสินค้าทุกสาขาของบริษัทในยุโรป เพื่อมอบบริการและประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้าเช่นเดิม

ผลการดำเนินงานของกลุ่มคาเดเวที่ผ่านมาในด้านยอดขายถือว่าเติบโตเป็นที่โดดเด่น โดยในปีงบประมาณสิ้นสุด ก.ย. 2566 สร้างยอดขายกว่า 28,000 ล้านบาท (728 ล้านยูโร) สูงสุดเป็นประวัติการณ์นับแต่ก่อตั้งบริษัทมา และเติบโต 24% เมื่อเทียบกับช่วงก่อนการระบาดของโควิด 19 ในปี 2562

ชี้ค่าเช่าทั้งสามสาขาสูงเกินมาตรฐานทำให้ผลประกอบการขาดทุน

ทั้งนี้ธุรกิจในเยอรมนีที่กำลังเติบโต สะท้อนให้เห็นถึงความสำเร็จในการลงทุนปรับปรุงร้านให้กลายเป็นห้างสรรพสินค้าลักชัวรี่ชั้นนำของโลก บริษัทมีผลกำไรก่อนค่าเช่าเป็นที่น่าพอใจ อยู่ในเกณฑ์ที่ดีเมื่อเทียบกับห้างชั้นนำอื่นๆ ในยุโรป แต่ภาระค่าเช่าที่เพิ่มขึ้นสูงจนอยู่ในระดับเกินกว่ามาตรฐานทั่วไปในตลาดมากในทั้งสามสาขา ทำให้บริษัทมีผลประกอบการขาดทุน

อีกทั้งเงินเฟ้อที่สูงขึ้นอย่างก้าวกระโดด (hyperinflation) จากสงครามในยูเครน ทำให้ค่าเช่าปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 37% เมื่อเทียบกับปี 2562 ส่งผลให้บริษัทไม่สามารถทำกำไรได้ จากปัจจัยดังกล่าว ทำให้ฝ่ายบริหารของกลุ่มคาเดเวมีความจำเป็นต้องยื่นคำร้องต่อศาลแขวงชาร์ล็อตเต็นบูร์ก กรุงเบอร์ลิน เพื่อเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟู โดยขอสิทธิในการบริหารแผนฟื้นฟูด้วยตนเอง (insolvency proceedings under self-administration) ซึ่งคำร้องดังกล่าวได้รับการอนุมัติแล้ว โดยนาย คริสเตียน กราฟ บร็อคดอร์ฟ ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้ดูแลทรัพย์สินชั่วคราว

อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมากลุ่มเซ็นทรัลได้ให้การสนับสนุน และพยายามอย่างเต็มที่เพื่อหาทางออกเกี่ยวกับเรื่องอัตราค่าเช่าสูงของบริษัทมาโดยตลอด แต่ยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงใดๆ กับผู้ให้เช่าได้

มั่นใจแผนฟื้นฟูช่วยสร้างธุรกิจสู่ความยั่งยืน

ทั้งนี้ กลุ่มเซ็นทรัลพร้อมที่จะเข้ามาสนับสนุน ให้วงเงินช่วยเหลือแก่บริษัทต่อไป หากบริษัทสามารถบรรลุข้อตกลงกับผู้ให้เช่าในการปรับโครงสร้างค่าเช่าให้ลดลงสอดคล้องกับราคาตลาด ซึ่งจะสามารถคลี่คลายปัญหา เพื่อให้กลุ่มคาเดเวได้สามารถดำเนินกิจการต่อไปได้อย่างยั่งยืน

สำหรับการที่คำร้องขอฟื้นฟูกิจการได้รับการอนุมัติสิทธิในการบริหารแผนฟื้นฟูด้วยตนเองจากศาลแขวงชาร์ล็อตเต็นบูร์ก กรุงเบอร์ลิน เป็นสัญญาณที่ดีที่ทำให้ฝ่ายบริหารของกลุ่มคาเดเว ยังคงมีอำนาจในการควบคุมการบริหารกิจการ ในขณะที่มีการเจรจาปรับโครงสร้างภาระค่าเช่าที่สูงกว่ามาตรฐาน กลุ่มเซ็นทรัลยังคงมุ่งมั่นในการสนับสนุนกลุ่มคาเดเว และผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่าย เพื่อหาทางออกที่เป็นที่พอใจสูงสุดภายใต้กรอบของกฎหมายของประเทศเยอรมนี

อย่างไรก็ตาม การเข้าแผนการฟื้นฟูของกลุ่มคาเดเวครั้งนี้ เป็นผลจากกรอบกฏหมายเฉพาะในประเทศเยอรมนี โดยธุรกิจห้างสรรพสินค้าในเครือเซ็นทรัลที่อื่นในยุโรป ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องและยังคงดำเนินธุรกิจต่อไปตามปกติ การลงทุนในกลุ่มคาเดเว เป็นการลงทุนส่วนตัว (private investment) ของกลุ่มเซ็นทรัลทั้งสิ้น ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับ บริษัท เซ็นทรัลรีเทล จำกัด (มหาชน) และ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) แต่อย่างใด