‘เตอร์กิชแอร์ไลน์’ จัดหนัก จ่อสั่งซื้อเครื่องบิน ‘แอร์บัส’ เพิ่มอีก 220 ลำ

‘เตอร์กิชแอร์ไลน์’ จัดหนัก จ่อสั่งซื้อเครื่องบิน ‘แอร์บัส’ เพิ่มอีก 220 ลำ

‘เตอร์กิชแอร์ไลน์’ สายการบินประจำชาติของประเทศตุรกี จะดำเนินการขยายฝูงบินด้วยการสั่งซื้อเครื่องบินแอร์บัสจำนวน 220 ลำ คำสั่งซื้อครั้งล่าสุดนี้จะทำให้ยอดสั่งซื้อเครื่องบินแอร์บัสทั้งหมดของเตอร์กิชแอร์ไลน์ รวมเป็น 504 ลำ โดยมีการส่งมอบไปแล้ว 212 ลำ

“เตอร์กิชแอร์ไลน์” (Turkish Airlines) สายการบินประจำชาติประเทศตุรกี จะดำเนินการขยายฝูงบินด้วยการสั่งซื้อเครื่องบินแอร์บัสจำนวน 220 ลำ ซึ่งประกอบด้วย

- เครื่องบินแอร์บัส เอ321 (A321) ซึ่งเป็นรุ่นที่ขายดีที่สุดของแอร์บัส จำนวน 150 ลำ

- เครื่องบินประเภทลำตัวกว้างรุ่น เอ350 (A350) ซึ่งทันสมัยและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในโลก จำนวน 70 ลำ ประกอบด้วย รุ่น 

  • เอ350-900 (A350-900) จำนวน 50 ลำ
  • เอ350-1000 (A350-1000) จำนวน 15 ลำ
  • เครื่องบินขนส่งสินค้า เอ350เอฟ (A350F) จำนวน 5 ลำ

การดำเนินการนี้เกิดขึ้นภายหลังคำสั่งซื้อ 2 รายการจาก Turkish Airlines ที่มีก่อนหน้า ซึ่งคือคำสั่งซื้อรุ่น A350-900 จำนวน 10 ลำในเดือนกันยายน และ A350-900 จำนวน 4 ลำ ในเดือนกรกฎาคม 2566 โดยคำสั่งซื้อครั้งล่าสุดนี้ จะทำให้ยอดสั่งซื้อเครื่องบินแอร์บัสทั้งหมดของ Turkish Airlines รวมเป็น 504 ลำ โดยได้มีการส่งมอบไปแล้ว 212 ลำ

สำหรับคำสั่งซื้อใหม่ครั้งนี้ ศาสตราจารย์ ดร. อาห์เม็ต โบลาต (Ahmet Bolat) ประธานคณะกรรมการและกรรมการบริหารของ Turkish Airlines ได้กล่าวว่า “คำสั่งซื้อที่สำคัญนี้ เป็นมากกว่าการเติบโต แต่เป็นการพิสูจน์เจตจำนงต่อความทุ่มเทของเราในด้านนวัตกรรม ความเป็นเลิศในการปฏิบัติงาน และอนาคตที่ยั่งยืน การเพิ่มจำนวนเครื่องบินแอร์บัสเทคโนโลยีขั้นสูงเหล่านี้ในฝูงบินของเรา ไม่เพียงแต่จะเพิ่มขีดความสามารถในการปฏิบัติงานเท่านั้น แต่ยังมีส่วนสำคัญต่อการสนับสนุนเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อมของเราอีกด้วย การลงทุนครั้งนี้ถือเป็นหมุดหมายสำคัญในการวิวัฒนาการก้าวต่อไปของอุตสาหกรรมการบินประเทศตุรกี โดยการปรับปรุงฝูงบินของเราให้ทันสมัยด้วยเครื่องบินที่มีประสิทธิภาพและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น เรากำลังตอกย้ำตำแหน่งผู้นำของเราในอุตสาหกรรมการบินระดับโลก และสนับสนุนความโดดเด่นที่สำคัญของประเทศ ในฐานะศูนย์กลางการบิน

นายคริสเตียน เชอร์เรอร์ (Christian Scherer) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายพาณิชย์และหัวหน้าของแอร์บัส อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าวว่า “คำสั่งซื้อเครื่องบินรุ่นล่าสุดนี้ แสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์อันกล้าหาญของ Turkish Airlines โดยเครื่องบินรุ่น A350-900 A350-1000 A350F และ A321 จะเป็นเครื่องบินเรือธงที่สำคัญในประเภทการบินที่เกี่ยวข้องต่างๆ และเป็นตัวขับเคลื่อนด้านประสิทธิภาพที่กำหนดอนาคตและพัฒนาขยายสายการบินอย่างยั่งยืน ด้วยพิสัยการบินที่ไกลขึ้น การใช้เชื้อเพลิงที่น้อยลง การลดเสียงรบกวน และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่น้อยลง รวมถึงห้องโดยสารที่ยอดเยี่ยมที่สุดในเครื่องบินระดับเดียวกัน”

นายคริสเตียน กล่าวเพิ่มเติมว่า “การเปิดรับเครื่องบินรุ่น A350-1000 และ A350F นี้ เป็นการเน้นย้ำถึงคุณสมบัติอันยอดเยี่ยมที่เชื่อมโยงหลากหลายรุ่นในเครื่องบินตระกูล A350 และตอกย้ำความร่วมมืออันยาวนานของเรากับ Turkish Airlines และภาคการบินของประเทศตุรกี เราภูมิใจที่ได้ร่วมสนับสนุนสร้างการเชื่อมต่อของประเทศตุรกีกับทั่วโลก ด้วยเครื่องบินที่ล้ำสมัยของเรา”

A321neo เป็นเครื่องบินขนาดใหญ่ที่สุดในตระกูล A320neo ของแอร์บัส ซึ่งมีพิสัยบินและสมรรถนะที่เหนือชั้น ด้วยการผสมผสานเทคโนโลยีเครื่องยนต์รุ่นใหม่และชาร์คเล็ท (Sharklet) ที่ลดเสียงรบกวนลงได้ถึง 50% ประหยัดเชื้อเพลิงและการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ได้มากกว่า 20% เมื่อเทียบกับเครื่องบินประเภททางเดินเดี่ยวรุ่นก่อนหน้า ด้วยห้องโดยสารทางเดินเดี่ยวที่กว้างที่สุดในปัจจุบัน เครื่องบินรุ่นนี้จึงเป็นตัวเลือกการแข่งขันที่สมบูรณ์แบบในการเพิ่มความสะดวกสบายสูงสุดให้ผู้โดยสาร

ปัจจุบันมีคำสั่งซื้อเครื่องบินรุ่น A321neo มากกว่า 5,600 ลำ จากลูกค้ามากกว่า 100 รายทั่วโลก

ส่วนรุ่น A350 นั้น เป็นเครื่องบินประเภทลำตัวกว้างที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในโลก และเป็นผู้นำการบินพิสัยไกลในประเภท 300 - 410 ที่นั่ง ซึ่งสามารถบินได้อย่างมีประสิทธิภาพในทุกรูปแบบ ทั้งในเส้นทางระยะสั้นไปจนถึงเส้นทางบินระยะไกลพิเศษ ที่บินได้ไกลถึง 9,700 ไมล์ทะเล (ประมาณ 17,964.4 กิโลเมตร) การออกแบบที่ใหม่ทั้งหมด (Clean Sheet Design) ได้รวมเอาเทคโนโลยีนำสมัยล่าสุดจำนวนมาก ผสานหลักอากาศพลศาสตร์ วัสดุน้ำหนักเบา และเครื่องยนต์รุ่นล่าสุด เมื่อนำเทคโนโลยีทั้งหมดนี้รวมกัน ทำให้เครื่องบิน A350 มอบประสิทธิภาพความได้เปรียบที่เหนือกว่าถึง 25 เปอร์เซ็นต์ ในด้านการเผาผลาญเชื้อเพลิง การปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) และต้นทุนการดำเนินงาน รวมถึงลดเสียงรบกวนลงถึง 50 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับเครื่องบินคู่แข่งในรุ่นก่อนหน้า  สิ่งนี้ทำให้เครื่องบิน A350 เป็นมิตรกับพื้นที่แวดล้อมและพลเมืองโลกที่ดี ไม่ว่าจะบินไปที่ใดก็ตาม

เครื่องบินตระกูล A350 ประกอบด้วยสองรุ่น ได้แก่ A350-900 และ A350-1000 ซึ่งมีส่วนลำตัวเครื่องบินยาวกว่า ทั้งสองรุ่นมอบประสบการณ์การบินที่ดีที่สุดให้กับผู้โดยสาร แม้ในเที่ยวบินที่มีระยะเวลายาวนานสูงสุด การออกแบบที่เป็นนวัตกรรมได้มอบความรู้สึกที่กว้างขวางสะดวกสะบายอย่างแท้จริง ได้แก่  ขนาดเก้าอี้โดยสารที่กว้าง เพดานห้องโดยสารที่สูงขึ้น และแสงไฟสร้างบรรยากาศภายในที่สวยงาม

ทั้งนี้ ณ สิ้นเดือนพฤศจิกายน 2566 เครื่องบินตระกูล A350 ได้รับคำสั่งซื้อถึง 1,072 รายการ จากลูกค้าชั้นนำ 57 รายทั่วโลก

เครื่องบินขนส่งสินค้า รุ่น A350F มีประตูห้องเก็บสัมภาระหลักขนาดใหญ่ที่สุด และมีความยาวลำตัวที่ได้ปรับให้เหมาะสมสำหรับการบรรทุกสินค้า โครงสร้าง (Airframe) มากกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ ทำจากวัสดุขั้นสูง ซึ่งเมื่อประกอบกับเครื่องยนต์โรลส์-รอยซ์ที่มีประสิทธิภาพ ทำให้เครื่องบินรุ่นนี้มีข้อได้เปรียบ ลดการเผาผลาญเชื้อเพลิงและการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ได้อย่างน้อย 20 เปอร์เซ็นต์ เหนือเครื่องบินคู่แข่งรุ่นที่ใกล้เคียงในปัจจุบัน

ด้วยข้อตกลงที่เป็นดังการรับรองล่าสุดโดย Turkish Airlines ทำให้เครื่องบิน A350F มียอดสั่งซื้อรวม 50 รายการ จากลูกค้า 9 ราย หลังจากการเปิดตัวในงานมหกรรม ดูไบ แอร์โชว์ (Dubai Airshow) ในปี 2564