4 เทรนด์ท่องเที่ยวสไตล์ ‘Gen Z’ ทั่วโลก มาแรงแห่งปี 2024 มีอะไรบ้าง?

รูปแบบการท่องเที่ยวทั่วโลกในปี 2024 มีทิศทางที่น่าสนใจ ผู้ประกอบการต้องเร่งปรับตัวเพื่อตอบสนองความต้องการของนักเดินทางรุ่นใหม่ที่มีรสนิยม และความคาดหวังในการใช้ชีวิตที่แตกต่างออกไป เป็นเทรนด์การท่องเที่ยวที่ท้าทายอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

นายอภิชัย ฉัตรเฉลิมกิจ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า จากการศึกษาข้อมูลเทรนด์การท่องเที่ยวที่น่าสนใจในปี 2024 พบว่า มีรูปแบบการท่องเที่ยวจากไอเดียใหม่ๆแตกต่างออกไปจากเดิม และกำลังได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวรุ่นใหม่ ในกลุ่ม Gen Z  และ Millennials 

เทรนด์การท่องเที่ยว Gen Z ในปี 2024 ประกอบด้วย 4 เทรนด์ ได้แก่

 

1. “Destination Dupes” ปักหมุดเมืองทางเลือก

คือ เทรนด์ใหม่ของการเลือกไปท่องเที่ยวยังเมืองที่มีความคล้ายคลึง หรือใกล้เคียงกับเมืองท่องเที่ยวหลักตามกระแส เรียกให้เข้าใจง่ายๆ ได้ว่า “เมืองเสมือนทางเลือก” (Destination Dupes) ให้อรรถรสของการท่องเที่ยวไม่แพ้เมืองหลัก แต่เนื่องจากเป็นทางเลือกจึงยังไม่พลุกพล่าน และค่าใช้จ่ายไม่แพง

จากรายงานการท่องเที่ยวประจำปี 2024 ของเอ็กซ์พีเดีย เปิดเผยว่า  Top Destination “Dupes"  5 เมืองทางเลือก ยอดนิยมที่นักท่องเที่ยวค้นหามากที่สุดคือ ไทเป เป็นเมืองทางเลือกของโซล, เกาะปารอส เมืองทางเลือกของซานโตรินี่, เพิร์ธ เมืองทางเลือกของซิดนีย์, ลิเวอร์พูล เมืองทางเลือกของลอนดอน และพัทยา ถูกยกให้เป็นเมืองทางเลือกท่องเที่ยวของกรุงเทพฯ

โดยรายงานระบุว่า นักท่องเที่ยวเลือกพัทยาเป็น destination dupe ของกรุงเทพ เพราะพัทยาใช้เวลาขับรถไม่ถึง 2 ชั่วโมงจากกรุงเทพฯ  มีกิจกรรมสันทนาการ วัฒนธรรม สถานที่ท่องเที่ยว ตลอดจนแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติมากมาย  พัทยายังเป็นที่ตั้งของสนามกอล์ฟระดับโลกหลายแห่ง และยังเป็นที่ตั้งของค่ายมวยไทยที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยอีกด้วย

2. “Surprise and Delight” เที่ยวให้สุข เซอร์ไพรส์ให้สุด

ทริปที่มอบ “ความประหลาดใจและความสุข” จะได้รับความนิยมมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มนักเดินทาง Gen Z  และ Millennials ที่ยินดีเปิดรับสิ่งใหม่ๆ พร้อมรับความประหลาดใจ ไม่คาดฝัน ตื่นเต้นกับการผจญภัยนอกเส้นทาง หากต้องการสร้างความสนใจให้กับนักเดินทาง Gen Z และ Millennials ผู้ประกอบการควรออกแบบกิจกรรมท่องเที่ยวที่สร้างสรรค์ คาดเดาได้ยาก แต่มอบความทรงจำที่ยอดเยี่ยมในท้ายที่สุด

 

3. “Indigenous Tourism” เที่ยววิถีชนพื้นเมือง-กลุ่มชาติพันธุ์

เทรนด์การท่องเที่ยวไปยังชุมชนพื้นเมือง และกลุ่มชาติพันธุ์ กำลังได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นใน ปี 2024  เพราะนักเดินทางรุ่นใหม่ต้องการแสวงหาความหมายใหม่ๆ ให้กับชีวิต ความเรียบง่าย ใกล้ชิดกับธรรมชาติ การเดินทางไปยังถิ่นฐานของชนเผ่าพื้นเมือง เพื่อเรียนรู้ ทดลองใช้ชีวิต ศึกษาประเพณี วัฒนธรรม วิถีของชนเผ่าต่างๆ จึงเป็นทางเลือกที่ได้รับความสนใจ

 

4. “Sleep Tourism” เที่ยวแล้วนอน หลับดี รีเฟรชร่างกาย

“การท่องเที่ยวเพื่อการนอนหลับที่ดี” จะเป็นอีกหนึ่งในเป้าหมายหลักในการเดินทาง โรงแรมทั่วโลกได้แข่งขันกันชูจุดขายเรื่อง Sleep Experience เพื่อตอบสนองความต้องการของนักเดินทางด้วยเพลงเพื่อการนอนหลับที่ดี พร้อมด้วยที่นอนสั่งทำพิเศษ หรือแม้แต่ “Sleep Well Menu" ที่คัดสรรโดยเชฟ รวมถึงสถานประกอบการบางแห่งยังนำเสนอโปรแกรมการทำสมาธิเพื่อการนอนหลับ พร้อมกับคำแนะนำ และโปรแกรมที่ครอบคลุม ซึ่งดูแลโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ นักธรรมชาติบำบัด และนักจิตวิทยา

 

จากทิศทางการท่องเที่ยวดังกล่าว สังเกตได้ว่า รูปแบบการท่องเที่ยวที่กำลังทวีความนิยมในกลุ่มคนรุ่นใหม่ล้วนมีรายละเอียดที่แตกต่างไปจากรูปแบบการท่องเที่ยวตามค่านิยมมาตรฐานแบบเดิมอยู่พอสมควร โดยเฉพาะการให้ความสำคัญต่อความคาดหวังที่ลึกลงไปในรายละเอียดของนักเดินทางบนพื้นฐานประสบการณ์ที่แตกต่าง

“อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและบริการกำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในปี 2024 โดยได้รับแรงหนุนจากนวัตกรรมทางเทคโนโลยีและพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป เพื่อให้ก้าวนำเทรนด์เหล่านี้ ธุรกิจท่องเที่ยวและบริการต้องปรับตัว และทบทวนธุรกิจ คิดค้นและสร้างความแตกต่างในตลาดเพื่อความสำเร็จในภูมิทัศน์ที่เปลี่ยนแปลงนี้ได้” รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าว