‘โตชิบาทีวี’ เร่งเพิ่มสินค้า-สาขา’ ชิงตลาดทีวีหวัง 4 ปี ขึ้นท็อป 4

‘โตชิบาทีวี’ เร่งเพิ่มสินค้า-สาขา’  ชิงตลาดทีวีหวัง 4 ปี ขึ้นท็อป 4

'โตชิบาทีวี' ประเมินตลาดทีวีไทยปี 2567 กลับมาโตแรง 30% รับนโยบาย ‘Easy E-Receipt’ หนุนเครื่องใช้ไฟฟ้า ดึงดูดลูกค้าระดับกลางและบน ส่วนกลางปีฟุตบอลยูโรช่วยดัน ทีวีจอใหญ่ได้รับความนิยม กางแผนรุกตลาด เร่งเสนอนวัตกรรม ชูทีวีจอใหญ่ ขยายแฟลกชิปสโตร์ หวัง 2-3 ปี ขึ้นท็อป 4

นายพงษ์เทพ ศิริสกุลเวโรจน์ ผู้จัดการอาวุโสแผนกขายผลิตภัณฑ์ทีวี ประจำ TVS REGZA Corporation Thailand Office ผู้บริหารแบรนด์ โตชิบาทีวี (TOSHIBA TV) เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดทีวีในประเทศไทยปี 2567 มีทิศทางบวกต่อเนื่องจากปีก่อน โดยคาดว่าจะขยายตัว 30% โดยได้รับปัจจัยบวกจากการกำหนดนโยบายของภาครัฐร่วมกระตุ้นเศรษฐกิจ “Easy E-Receipt” ทำให้กลุ่มลูกค้าตัดสินใจซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าได้เร็วขึ้น และยังเป็นผลจากผู้ประกอบการแบรนด์ต่างๆ ออกสินค้ารุ่นใหม่เสริมความหลากหลายในตลาดมากขึ้น

ขณะเดียวกันยังมีแรงหนุนที่น่าสนใจคือ การแข่งขันฟุตบอลยูโร 2024 ในช่วงกลางปี ซึ่งโตชิบา ทีวี โกลบอล ร่วมเป็นสปอนเซอร์แข่งขันครั้งนี้ด้วย ซึ่งจะทำให้ผู้บริโภคสนใจซื้อทีวี โดยเฉพาะจอใหญ่เพื่อรับชมเพิ่มขึ้น ดังนั้น ทำให้ภาพรวมตลาดปีนี้จะขยายตัวได้ดีเมื่อเทียบกับปี 2566 ที่เติบโต 10% 

ด้านภาพรวมการแข่งขัน มองว่าตลาดยังเป็นการขับเคลื่อนจากหลากหลายแบรนด์ ทั้งญี่ปุ่น เกาหลีใต้ จีน รวมถึงจากยุโรป โดยเน้นการนำเสนอสินค้านวัตกรรมโดยเฉพาะทีวีจอใหญ่ และการแข่งด้านราคา โดยส่วนใหญ่มุ่งเจาะตลาดกลุ่มลูกค้าระดับกลางและบน ซึ่งปัจจุบันผู้นำตลาดอันดับ 1 และ 2 เป็นแบรนด์จากเกาหลีใต้ มีส่วนแบ่งการตลาด 30% และ 20%

ขณะที่แผนขยายตลาดทีวีของโตชิบา ทีวี จะเน้นนำเสนอสินค้าที่มีนวัตกรรม และไลน์อัพทีวีในซีรีส์ใหม่ๆ โดยเน้นขนาดจอตั้งแต่ 55, 65 และ 75 นิ้ว ขึ้นไป ซึ่งเป็นรุ่นที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น ควบคู่กับการรุกตลาดในกลุ่มลูกค้าพรีเมียม โดยเฉพาะระดับกลางและระดับบน

 

‘โตชิบาทีวี’ เร่งเพิ่มสินค้า-สาขา’  ชิงตลาดทีวีหวัง 4 ปี ขึ้นท็อป 4

อีกทั้งมีแผนที่จะสร้างแบรนด์ให้ใกล้ชิดกับกลุ่มลูกค้ามากขึ้น โดยมุ่งเพิ่มจุดจำหน่ายสินค้าผ่านทางร้านเครื่องใช้ไฟฟ้า ทั้งเพาเวอร์บาย เพาเวอร์มอลล์ โฮมโปร รวมถึงโลตัสรวม 60 แห่ง จากปัจจุบันมีจุดจำหน่ายรวมกว่า 130 จุด 

นอกจากนี้จะเปิดแฟลกชิปสโตร์เป็นแลนด์มาร์กในใจของกลุ่มเป้าหมายใหม่ 2 แห่ง ทั้งที่ศูนย์การค้า เอ็มสเฟียร์ ขนาด 300 ตร.ม. ภายในเดือน ม.ค.นี้ และ เดอะมอลล์ ไลฟ์สโตร์ ท่าพระ ขนาด 100 ตร.ม. ภายในไตรมาสแรก ซึ่งแฟลกชิปสโตร์จะอยู่ในแบบชอปอินชอป

“กลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า โดยเฉพาะทีวี มีเทรนด์ที่เปลี่ยนแปลงไปคือ นอกจากการใช้รับชมเพื่อความบันเทิงและการพักผ่อนแล้ว ยังกลายเป็นส่วนหนึ่งในกลุ่มเฟอร์นิเจอร์ ที่ใช้ร่วมตกแต่งบ้าน ร่วมเสริมการดีไซน์และความสวยงามของบ้าน”

ทั้งนี้บริษัทประเมินว่า จากแผนการรุกตลาดและการขยายแบรนด์ตลอดทั้งปี จะทำให้โตชิบา ทีวี ครองส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้น อยู่ที่ระดับ 10% ในปีนี้ เป็นส่วนแบ่งตลาดที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องหลังการกลับเข้ามารุกตลาดอย่างจริงจังในปี 2566 และผลักดันให้มีส่วนแบ่งการตลาดประมาณ 3-4% แล้ว

นอกจากนี้คาดการณ์ภายใน 2-3 ปีข้างหน้า โตชิบา ทีวี จะสร้างส่วนแบ่งตลาดทีวีไทยอยู่ในลำดับที่ 4 ของตลาด