สมอ. ถกผู้ค้าออนไลน์ 300 ราย คุม 8 มาตรการเชิงรุกกวาดล้างสินค้าด้อยคุณภาพ

สมอ. ถกผู้ค้าออนไลน์ 300 ราย คุม 8 มาตรการเชิงรุกกวาดล้างสินค้าด้อยคุณภาพ

สมอ. ถกผู้ค้าออนไลน์ 300 ราย คุมเข้ม 8 มาตรการเชิงรุกภายใต้ภารกิจ Quick win กวาดล้างสินค้าด้อยคุณภาพให้หมดไปจากตลาด โดยเฉพาะโฆษณาผ่านทางทีวีดิจิทัล สื่อออนไลน์ รีวิวขายสินค้า โบรชัวร์ ย้ำเริ่มตรวจ-ติดตาม 1 ม.ค. 67 เตือนหากพบร้านค้าไหนไม่ปฏิบัติตาม ดำเนินการตาม กม.ทันที

ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เปิดเผยว่า ตามที่มีการส่งต่อข้อมูลเกี่ยวกับเรื่อง สมอ. เชิญผู้ค้าออนไลน์กว่า 300 ราย ร่วมหารือยกระดับความเข้มข้นของ 8 มาตรการเชิงรุกภายใต้ภารกิจ Quick win ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) กระทรวงอุตสาหกรรม พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลจริง

สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) ยกระดับความเข้มข้นของ 8 มาตรการเชิงรุกภายใต้ภารกิจ “Quick win” ในการตรวจติดตามการจำหน่ายสินค้าในท้องตลาดและทางออนไลน์อย่างเข้มงวด เพื่อกวาดล้าง สินค้าด้อยคุณภาพให้หมดไปจากท้องตลาด

โดยเฉพาะอย่างยิ่งสินค้าที่อยู่ในการควบคุมของ สมอ. ทั้ง 143 รายการ ที่มีการโฆษณาผ่านทางทีวีดิจิทัลและสื่อออนไลน์ต่าง ๆ ซึ่งหากไม่ได้มาตรฐานอาจเกิดอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน จึงได้สั่งการให้ สมอ. เข้มงวดกับร้านค้าออนไลน์ในทุกแพลตฟอร์มที่มีการโฆษณาขายสินค้าผ่านทางออนไลน์

รวมถึงการรีวิวขายสินค้า หรือโฆษณาโบรชัวร์ออนไลน์ ซึ่งถือเป็นกระบวนการหนึ่งในการขายสินค้าด้วยเช่นกัน หากสินค้าดังกล่าวเป็นสินค้าควบคุมที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยของประชาชน จะต้องมีคุณภาพตามมาตรฐาน ตั้งแต่ต้นทางไปจนถึงมือผู้บริโภค

ทั้งนี้ สมอ. ได้ดำเนินการกวาดล้างสินค้าด้อยคุณภาพภายใต้ภารกิจ “Quick win” ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม อย่างเข้มงวดและต่อเนื่องในทุกช่องทาง และจากการตรวจสอบแพลตฟอร์มการจำหน่ายสินค้าออนไลน์ต่าง ๆ พบว่า ยังมีแพลตฟอร์มบางแห่งที่โฆษณาขายสินค้าโดยไม่แสดงเครื่องหมายมาตรฐาน มอก. และ QR Code ทำให้ประชาชนไม่สามารถตรวจสอบได้ว่า เป็นสินค้าได้มาตรฐานหรือไม่ สมอ.

จึงได้เชิญผู้จำหน่ายสินค้าทางออนไลน์ เช่น Shopee Lazada TikTok เซ็นทรัลเทรดดิ้ง ไลน์คอมพานี บุญถาวร สยามโกลบอลเฮาส์ ออฟฟิศเมท ทเวนตี้โฟร์ช้อปปิ้ง ทรูจีเอส แอลจี พานาโซนิค ชาร์ป โตชิบา ยูนิลีเวอร์ ดูโฮม เฮเฟเล่ และอาร์เอส มอลล์ ฯลฯ กว่า 300 ราย เข้าร่วมหารือเมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2566 ที่ผ่านมา

เพื่อหาแนวทางในการควบคุมสินค้าที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยของประชาชน โดยเฉพาะเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือน เช่น กระทะไฟฟ้า เตาปิ้งย่าง หม้ออบลมร้อน พัดลม ไดร์เป่าผม ที่หนีบผม ปลั๊กพ่วง รวมถึงยางรถยนต์ พาวเวอร์แบงค์ ของเล่น หมวกกันน็อก เหล็ก และวัสดุก่อสร้าง เป็นต้น

ซึ่งที่ผ่านมายังพบการกระทำความผิดอยู่บ่อยครั้ง สมอ. จึงต้องดำเนินการอย่างเข้มงวด โดยกำชับให้ผู้ค้าดำเนินการดังนี้

1. ตรวจสอบสินค้าว่าเป็นสินค้าควบคุมของ สมอ. หรือไม่
2. หากตรวจสอบแล้วพบว่า เป็นสินค้าควบคุม ให้ตรวจสอบต่อไปว่า ได้รับใบอนุญาตจาก สมอ. ถูกต้องแล้วหรือไม่ หากถูกต้องแล้วสามารถโฆษณาและจำหน่ายได้
3. ภาพที่ใช้ในการโฆษณาเพื่อการจำหน่ายสินค้า ต้องให้เห็นเครื่องหมายมาตรฐาน และ QR Code อย่างชัดเจน

นอกจากนี้ สมอ. จะตรวจติดตามอย่างเข้มข้นตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2567 เป็นต้นไป หากพบว่า ร้านค้าออนไลน์หรือแพลตฟอร์มรายใดยังไม่ปฏิบัติตาม จะดำเนินการตามกฎหมายทันที