บิ๊กเอเย่นต์ ‘ทัวร์จีน’ สะกิดไทย ต่อมาตรการวีซ่าฟรี ท้าชนมาเลเซีย-สิงคโปร์

ศิษฎิวัชร ชีวรัตนพร นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) กล่าวว่า แอตต้า ได้ร่วมกับ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัดโรดโชว์ส่งเสริมการขาย “TAT & ATTA Roadshow To China 2023” ระหว่างวันที่ 11-15 ธ.ค. 2566 ที่นครเซี่ยงไฮ้และนครเฉิงตู สาธารณรัฐประชาชนจีน พบว่ากระแสตอบรับดีเกินคาด ประสบความสำเร็จ มีจำนวนผู้ซื้อ (Buyer) จากทั้ง 2 เมืองมาร่วมงานด้วยจำนวนมากกว่า 800 ราย

วัตถุประสงค์ของการเดินทางมาจัดโรดโชว์ที่ประเทศจีนคือ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นโดยเฉพาะด้าน “ความปลอดภัย” แก่ผู้ประกอบการเอเย่นต์ฝั่งจีน ให้มั่นใจในการเสนอขายแพ็กเกจท่องเที่ยวไทยแก่ชาวจีนมากขึ้น

หลังจากประเทศไทยมีปัญหาข่าวเชิงลบด้านภาพลักษณ์ความปลอดภัย ซึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญมากที่สุด รัฐบาลไทยต้องเร่งแก้ปัญหานี้ แม้ว่าจะเกิดขึ้นจริงหรือไม่เกิดขึ้นจริงก็ตาม เนื่องจากกระจายไปในโลกโซเชียลมีเดีย ยากต่อการควบคุม จำเป็นต้องจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขกระแสข่าวเชิงลบและข่าวปลอมบนโลกออนไลน์ เพื่อไม่ให้กระแสข่าวเชิงลบกระทบต่อทัศนคติของนักท่องเที่ยวจีนเกินเหตุจนส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง

“แอตต้าต้องการให้รัฐบาลต่ออายุมาตรการยกเว้นวีซ่า (วีซ่าฟรี) แก่นักท่องเที่ยวจีนด้วย จากปัจจุบันมีการให้วีซ่าฟรีตั้งแต่วันที่ 25 ก.ย. 2566 และกำลังจะสิ้นสุดในวันที่ 29 ก.พ. 2567”

ทั้งนี้ ต้องรอติดตามกระแสการเดินทางของนักท่องเที่ยวจีนช่วงโกลเด้นวีค “เทศกาลตรุษจีน” ถ้าโหมโรง จุดพลุได้จริง! ก็น่าจะไปถึงจำนวน 6-7 ล้านคนในปี 2567 แต่ก็ต้องลุ้นกันเหนื่อย และออกแรงมากขึ้นในการทำตลาดเพื่อไปให้ถึงจุดหมายดังกล่าว

หยีว์ ผิง ผู้จัดการฝ่ายผลิตภัณฑ์เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แผนกภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก บริษัท ซ่างไห่ ว่าน กั๋ว อินเตอร์เนชันแนล แทรเวล เซอร์วิส จำกัด โฮลเซลค้าส่งทัวร์รายใหญ่ ซึ่งมี 4 สาขาในประเทศจีน กล่าวว่า อยากให้รัฐบาลไทยต่ออายุมาตรการวีซ่าฟรีแก่นักท่องเที่ยวจีนอีกอย่างน้อย 1 ปี หรือ “ยิ่งยาว ยิ่งดี” เพราะตอนนี้ประเทศคู่แข่งในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งมาเลเซียและสิงคโปร์ ใช้มาตรการวีซ่าฟรีแก่นักท่องเที่ยวจีน โดยมาเลเซียได้ประกาศใช้มาตรการนี้ตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. 2566 – 31 ธ.ค. 2567 ส่วนสิงคโปร์ก็เช่นกัน เตรียมประกาศบังคับใช้ในเร็วๆ นี้

“พอรัฐบาลไทยประกาศให้วีซ่าฟรีแก่นักท่องเที่ยวจีนเป็นการชั่วคราว พบว่ามียอดขายเติบโตชัด 30% เมื่อเทียบกับช่วงที่ยังไม่มีมาตรการนี้ออกมากระตุ้นตลาด”

อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าที่ผ่านมาผู้ประกอบการเอเย่นต์ “เหนื่อยมาก” กับการทำตลาดนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้าไทยในยุคหลังโควิด-19 ระบาด เพราะสถานการณ์ขึ้นๆ ลงๆ จากประเด็นข่าวเชิงลบเรื่องความปลอดภัย

“สิ่งสำคัญคืออย่าให้มีข่าวเชิงลบเกิดขึ้นมาอีก เพราะจริงๆ แล้วประเทศไทยเป็นจุดหมายที่นักท่องเที่ยวจีนชอบมาก ทั้งนี้ประเมินด้วยว่า กว่าภาพรวมตลาดจีนเที่ยวไทย จะฟื้นตัว 100% เทียบกับปี 2562 ก่อนโควิดระบาด ต้องใช้เวลาอีก 2 ปี หรือภายในปี 2568”

เจี๋ย เจี้ยนจุน เจ้าของบริษัท หูเป่ย อิน เจอร์นีย์ อินเตอร์เนชันแนล แทรเวล เซอร์วิส จำกัด กล่าวว่า อยากให้รัฐบาลไทยต่ออายุมาตรการวีซ่าฟรีให้แก่นักท่องเที่ยวจีน เพื่อกระตุ้นตลาดอย่างต่อเนื่อง หลังจากภาคการท่องเที่ยวไทยเจอปัญหาข่าวเชิงลบด้านความปลอดภัย ซึ่งนักท่องเที่ยวจีนให้น้ำหนักกับเรื่องนี้มากกว่าปัญหาเศรษฐกิจจีนชะลอตัว

“เศรษฐกิจจีนไม่ค่อยดี นี่คือเรื่องจริง แม้จะกระทบต่อกำลังซื้อของนักท่องเที่ยวจีน แต่ไม่ใช่ประเด็นหลักเมื่อเทียบกับปัญหาภาพลักษณ์ความปลอดภัย ถ้าไม่มีข่าวเชิงลบด้านนี้ อย่างไรประเทศไทยก็เป็นจุดหมายปลายทางที่ชาวจีนเลือกเดินทางไปเป็นอันดับ 1 เพราะฉะนั้นในปี 2567 ถ้าไม่มีเหตุการณ์กระทบด้านความปลอดภัย เหมือนเช่นเหตุกราดยิงเมื่อเดือน ต.ค. 2566 มองว่านักท่องเที่ยวจีนจะเติบโตยิ่งขึ้นไปอีก”

“ถ้าเกิดเหตุการณ์เชิงลบด้านความปลอดภัยเมื่อไร ตลาดนักท่องเที่ยวจีนจะตกแรงมาก” เจี๋ย เจี้ยนจุน กล่าวย้ำ

 

จิง จื่อหง ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เฉิงตู ฟรี เจอร์นีย์ อินเตอร์เนชันแนล แทรเวล เซอร์วิส จำกัด กล่าวว่า ข่าวเชิงลบด้านความปลอดภัยที่แพร่กระจายบนโลกออนไลน์ ทำให้ผู้ประกอบการเอเย่นต์ลำบากไปช่วงหนึ่ง แต่พอมีมาตรการวีซ่าฟรี ทำให้ผู้ประกอบการมีกำลังใจทำตลาดดีขึ้น ประกอบกับทุกรายต่างมองว่าตลาดจีนเที่ยวไทยเป็น “ตลาดความหวัง” มากที่สุดในการทำตลาด

“พอเศรษฐกิจจีนชะลอตัว และมีข่าวเชิงลบด้านความปลอดภัยในประเทศไทย ถ้าไม่มีมาตรการวีซ่าฟรี มองว่าตลาดนักท่องเที่ยวจีนจะตกลงไปอีก 30-40% แต่พอมีมาตรการวีซ่าฟรี เลยทำให้ภาพรวมนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไทยยังบวกอยู่ 10%”